ยิหวาฝืนทนความไม่สบายของร่างกายเอาไว้ เธอลุกขึ้นมาจากเตียงและคุกเข่าลงไปบนพื้น: “ขอบคุณค่ะคุณพ่อ”
กำพลก้มลงบีบคางของเธอ และสบตากับเธออย่างเย็นชา: “ฉันเลี้ยงเธอมาหลายปีขนาดนี้ ถ้าให้เธอตายไปง่าย ๆ แบบนี้ มันน่าเสียดายมากเลยล่ะ”
ร่างของมีนาสั่นสะท้านเล็กน้อย: “ฉันจะไม่ทำให้คุณพ่อผิดหวังแน่นอนค่ะ”
กำพลพลันปล่อยมือ ลุกขึ้นพลางหยิบเอากระดาษชำระออกมาจากกระเป๋าและเช็ดมือตัวเอง: “ได้ ฉันจะคอยดู”
เขาหันหลังก้าวเท้าใหญ่ ๆ เดินจากไป และทิ้งกระดาษชำระลงไปบนถังขยะที่อยู่ตรงประตู
ยิหวามีสีหน้าหมองคล้ำขึ้นมา เธอกำแผนที่เอาไว้นิ้วมือสั่นสะท้าน
…………
เมื่อกลับมาถึงห้องพักส่วนตัวของทั้งสองคน มุมปากของณภัทรก็กระตุกเล็กน้อย มิน่าตอนนั้นแม่สาวน้อยถึงได้รับปากเร็วแบบนั้น ที่แท้ทางค่ายก็ได้จัดเตรียมเตียงสองชั้นไว้ให้พวกเขานี่เอง
มีนากลั้นหัวเราะเอาไว้และกล่าวอย่างใจกว้าง: “ยังไงฉันก็เป็นคนชนะ งั้นฉันก็อยู่ข้างบนแล้วนะ?”
เธอถอดรองเท้าทหารออก และตอนที่กำลังจะปีนขึ้นไปนั่นเอง มือใหญ่ ๆ ที่ร้อนอุ่น ๆ ก็ได้จับข้อเท้าของเธอเอาไว้: “แกล้งผมแล้ว คิดหนีงั้นเหรอ?”
“ณภัทร คุณคงไม่อยากจะเป็นคนไม่รักษาคำพูดหรอกนะ? ตอนแข่งขันพวกเราได้ตกลงกันแล้วนี่”
เขาพลันออกแรงดึง……สวบ กางเกงตัวใหญ่ของเธอเลื่อนตกลงมาทันที ปรากฏให้เห็นก้นกลมเด้งออกมา และยังมีขาขาวเรียวยาวคู่นั้น มองจนเขาเลือดลมพุ่งกระฉูด
มีนาร้อนรนขึ้นมาทันที: “คุณ……คุณขี้โกง!”
เขาอุ้มเธอขึ้นมา และวางทับลงไปบนเตียงอย่างแรง ลมหายใจที่รุนแรง และเร่าร้อนถูกพ่นลงไปบนใบหน้าของเธอ: “วันนี้ผมไม่เพียงจะเล่นขี้โกง และยังจะลวนลามคุณอีกด้วย ทำยังไงดีล่ะ?”
“ณภัทร ตัวฉันเหม็นมากเลย”
“งั้นผมจะไปอาบกับคุณ”
เธอพูดเหมือนจะร้องไห้: “วันนี้ฉันเหนื่อยมากเลย คุณปล่อยฉันไปเถอะนะ พรุ่งนี้ยังต้องแข่งการเอาตัวรอดในป่าอีก”
เมื่อเห็นท่าทางน่าสงสารของเธอ เขาก็จูบลงที่ริมฝีปากของเธอเบา ๆ : “โอเค ครั้งนี้ปล่อยคุณไปก่อน แต่ผมจะจดหนี้ครั้งนี้เอาไว้ ครั้งหน้าคุณจะต้องคืนผมทบต้นทบดอก”
เขาเดินไปที่ห้องน้ำและเช็กดูอุณหภูมิน้ำ: “อุณหภูมิกำลังพอดีเลย มาอาบน้ำเร็ว”
เธออดินเข้าไปในห้องน้ำและเริ่มอาบน้ำ ฟังเสียงน้ำไหลจากฝักบัวนั้น เขาพลันรู้สึกว่าเลือดในตัวได้ไปรวมที่จุดจุดเดียว แทบอยากจะถีบประตูเข้าไป และทรมานแม่สาวน้อยอย่างหนัก แต่พอนึกถึงร่างบอบบางที่อ่อนล้าของเธอ เขาก็ฝืนกลั้นความต้องการนั้นไว้ เดินเข้าไปหยิบเสื้อผ้าสกปรกของเธอที่ถูกทิ้งอาไว้ด้านนอกขึ้นมาด้วยหน้าตาเหยเก วางลงไปในกะละมังและเอาไปซัก
ด้านนอกหอพักของค่ายต่างก็มีอ่างน้ำเรียงเป็นแถวอยู่ ทุกคนต่างก็ใช้น้ำในนั้นล้างหน้า ชำระร่างกาย ซักเสื้อผ้าโดยไม่คิดอะไรมาก
ทุกคนต่างต้องตะลึงงันเมื่อเห็นณภัทรถือกะละมังซักผ้าและซักอย่างตั้งอกตั้งใจอยู่ข้างอ่างน้ำ
“แปลกชะมัด ทำไมลูกพี่ถึงได้ออกมาซักผ้าเองล่ะ?”
“นี่เป็นเรื่องแปลกที่พบเจอได้ยากเชียวนะ ฉันต้องถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกหน่อยแล้ว”
ในตอนที่ทุกคนต่างกำลังวิพากษ์วิจารณ์อยู่นั่นเอง ก็ได้เห็นมีนาสวมชุดใส่อยู่บ้านเดินหน้าแดงออกมา เธอแย่งเอาเสื้อผ้ามาจากมือของณภัทร: “เดี๋ยว……เดี๋ยวฉันซักเอง”
“ถอยไปเลย เดี๋ยวกักเสร็จแล้ว”
เธอกระซิบ: “ทุกคนกำลังหัวเราะคุณอยู่นะ”
“บ้าบอ! ผมซักผ้าให้ภรรยาของตัวเองมันน่าขำตรงไหนเหรอ คุณใส่ใจงั้นเหรอ?”
เขาหันไปมองชุดใส่อยู่บ้านที่เธอสวมอยู่ เลยขมวดคิ้วกล่าว: “ทำไมใส่แบบนี้ก็เดินออกมาแล้วล่ะ? มันโป๊ไป!”
มีนามุมปากกระตุก โป๊ตรงไหน? จะให้เธอห่อตัวเองเอาไว้อย่างมิดชิดตั้งแต่หัวจรดเท้าหรือยังไง
“ได้กันทุกคน ของว่างหลังอาหาร!”
ทุกคนต่างวางของในมือลง และวิ่งไปที่สนามออกกำลังกายด้วยหน้าตาเหมือนอยากจะร้องไห้ มีบางคนที่ถึงขนาดไม่ทันได้สวมเสื้อ จึงทำได้เพียงวิ่งโดยไม่ใส่เสื้อ
“ของว่างหลังอาหารงั้นเหรอ?”
“วิ่งระยะทางหนึ่งหมื่นห้าพันเมตร จิ๊บจ๊อยน่า”
“แล้วอาหารหลักล่ะ?”
“วิ่งวิบากแบกสัมภาระ และการต่อสู้ทั้งห้ารายการ”
“ในค่ายยังมีศัพท์สแลงมากมายแบบนี้อีกเหรอเนี่ย?”
“รอคุณมาอยู่ที่ข้างกายผม คุณก็จะรู้ทั้งหมดเอง”
เอ่อ……เธอตั้งหน้าตั้งตารอเลยจริง ๆ
เธอยืนมองดูเขาที่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ เห็นเพียงเขาดึงเอาเสื้อเชิ้ตสีขาวขึ้นมา และขยี้คราบสกปรกที่อยู่บนเสื้อเบา ๆ ในเวลานี้แสงตะวันอัสดงตกกระทบลงบนตัวเขา เคลือบเขาด้วยแสงสีทองอ่อน ๆ แม้แต่ใบหน้าด้านข้างที่เย็นชาของเขายังดูอ่อนโยนขึ้นมา
เธอเห็นรออบ ๆ ไม่มีคนเลยกอดเขาจากด้านหลัง เอาใบหน้าแนบลงไปบนแผ่นหลังของเขา และฟังเสียงหัวใจของเขาที่เต้นอย่างมีพลัง: “ณภัทร หลังจากนี้ฉันจะไม่อยู่ห่างเลยคุณแม้แต่ก้าวเดียว”
เขาหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ : “เห็นความดีของผมแล้วใช่ไหม? หืม?”
“อืม รูปหล่อสูงยาวเข่าดีแถมมีเงิน แน่นอนว่าจะต้องตัดความเพ้อฝันของผู้หญิงคนอื่น
เขาหันกลับมาและกล่าวอย่างจริงจัง: “คุณยังพูดตกไปหนึ่งอย่าง”
“อะไรเหรอ?”
เธอกอดเอวของเขาเอาไว้ และเงยหน้าขึ้นมองดุเขา ดวงตากลมโตคู่นั้นเหมือนกับลำธารที่ใสสะอาด สะท้อนให้เห็นเงาของเขา ทำให้เขาหัวใจเต้นแรง เขากระซิบที่ข้างหู: “เรื่องบนเตียงดี~”
มีนาหน้าแดงขึ้นมาทันที ใบหน้าเล็ก ๆ ขาว ๆ ที่ละเอียดลออนั้นมีสีแดงปะปนอยู่ ราวกับลูกพีชที่สุกงอม ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะกัด เขาคิดแบบนั้นและทำแบบนั้นทันที นิ้วมือเลื่อนผ่านไปตามเส้นผมของเธอ และพยุงศีรษะของเธอเอาไว้จากด้านหลัง แล้วจูบลงไปบนริมฝีปากของเธออย่างเสน่หาและเร่าร้อน เงาร่างทับซ้อนกันของทั้งสองตกลงสู่สายตาของฝูงชนที่กำลังเหนื่อยหอบ
“ว้าว ลูกพี่ในตอนนี้ได้ลุกเป็นไฟไปแล้ว อ่อยพี่สะใภ้ได้ทุกที่ทุกเวลา”
“โถ ๆ ๆ ……ลูกพี่นี่เหลี่ยมจัดจริง ๆ ให้พวกเราเว้นที่ว่างออกมาให้เขา ก็เพื่อแสดงแผนร้ายของตัวเอง”
“ต่อไปถ้าพี่สะใภ้กลายเป็นสมาชิกในค่ายของพวกเราจริง ๆ วันหน้าต้องถูกป้อนความรักอย่างเต็มอิ่มแน่นอน”
พอถึงตอนกลางคืนนั้นณภัทรได้รักษาคำพูดจริง ๆ ไม่ได้ทำมิดีมิร้ายกับเธอ เขาเพียงแค่เบียดอยู่บนเตียงเดียวกันกับเธอเท่านั้น และสอนเธออย่างตั้งอกตั้งใจ
“ที่ที่พวกคุณต้องไปพรุ่งนี้นั้นเรียกว่าดาจิโม ภูมิประเทศของที่นั่นสลับซับซ้อนมาก ทิศตะวันออกเป็นทะเลทรายที่ไม่มีขอบเขต ทางทิศตะวันตกเป็นป่าพรุ……”
มีนาง่วงมาก เธอพลอยหลับไปในขณะที่เขากำลังพูดอยู่
เขาห่มผ้าให้เธอ และจูบลงไปบนดวงตาของเธอ: “แม่สาวน้อย หลับฝันดีนะ”
มีนาตื่นขึ้นมาแต่เช้า เธอลืมตาขึ้นและพบเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้เพียงนิ้วมือ เธอยืดแขนออกไปกอดคอของเขาเอาไว้ และจูบลงไปบนริมฝีปากที่สวยงามของเขาเบา ๆ : “นายพลณภัทร อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
ขอเพียงแค่เธอสามารถผ่านการทดสอบในวันนี้ไปได้ ต่อไปก็จะได้พบเขาในทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา และพูดอรุณสวัสดิ์กับเขา
เขาพลันลืมตาขึ้นมา และกดเธอเอาไว้ที่ด้านล่าง: “หึ อ่อยผมแต่เช้าเลยนะ หือ?”
“รีบลงไปเร็ว จะสายแล้ว”
“ปล่อยคุณไป ดอกเพิ่มเป็นสองเท่า”
เขาลุกขึ้นและสวมชุดทหารอย่างคล่องแคล่ว และหยิบเอากล่องที่ละเอียดอ่อนออกมาจากกระเป๋า ข้างในนั้นเป็นนาฬิกาข้อมือเรือนเล็ก เขาสวมมันให้กับเธอ: “วันนี้ผมมีภารกิจอื่น ไปกับคุณด้วยไม่ได้ แต่ว่ามีมันอยู่ คุณก็ถือว่าผมอยู่ที่ข้างกายคุณ
แขาพับแขนเสื้อขึ้น ปรากฏให้เห็นนาฬิกาอีกเรือนที่เหมือนกันเป๊ะ เมื่อนาฬิกาสองเรือนกระทบกันก็เกิดแป้นแสงประหลาดขึ้น
“นี่มันคืออะไรเหรอ?”
เขายิ้มพลางลูบหัวของเธอ: “เครื่องระบุตำแหน่งที่ใช้ในการทหารที่พึ่งพัฒนาออกมา สามารถโทรโทรศัพท์ได้ มีเรื่องอะไรก็โทรหาผม”
“ชิ! ฉันจะมีเรื่องอะไรได้อีกล่ะ แม้แต่กระดูกแข็ง ๆ อย่างนายพลณภัทรฉันยังกัดได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น”
ข้ายิ้มและเดินเข้าไปที่ด้านหน้าของเธอ: “จะกัดอีกสักคำหน่อยไหม?”