บทที่ 73 – หักหลัง
“ว้าว สมกับเป็นท่านพ่อเลย”
“หึๆ คิดว่าอายุร้อยกว่าปีของข้ามีไว้ประดับหรือไง”
อัลฟี่พูดออกมาในตอนที่เมลชม อันที่จริงพอลูกคู่นี้มีอายุยืนนานกว่าที่เห็นนั่นแหละนะ ด้วยอาร์ติแฟ็คที่ทำให้อายุขัยของสายเลือดแท้หยุดเดิน
ดังนั้นพวกเขาถึงได้เป็นอมตะ แต่ไม่ใช่ว่าถูกฆ่าแล้วไม่ตายนะเพราะแค่อายุยืนเฉยๆ เมลเองก็อายุยืนมาเพราะพ่อของเธออัลฟี่ใช้อาร์ติแฟ็คหยุดอายุขัยสายเลือด
แน่นอนว่าในกรณีเดียวกันก็ไม่สามารถมีลูกสืบทอดลูกหลานได้นั่นแหละ อาร์ติแฟ็คชิ้นนี้ถือเป็นของล้ำค่าอย่างแท้จริง
“อันที่จริงข้ายังลงทุนใช้เทียนไฟที่เป็นเทียนราคาแพง มีผลส่งให้คนที่อยู่ภายใต้แสงเทียนจะตกในภวังง่วงนอน ผสมกับความเพลีย ปานนี้พวกมันคงหลับสนิทเป็นตายกันแน่ๆ”
แน่นอนว่าพวกเลทิเซียไม่มีทางรู้จักของแบบนี้ เพราะโลกฝั่งนั้นยังไม่มีของล้ำสมัยแบบนี้เหมือนในที่แห่งนี้เลย
ยิ่งอัลฟี่จินตนาการถึงความรุ่งเรืองของตัวเองเมื่อออกไปนี่คงสร้างเมืองใหม่ได้ในเร็ววัน.. ไม่สิ อาจจะสร้างประเทศทั้งประเทศเลยก็ได้
คิดได้แบบนั้นก็ยิ้มอย่าสุขใจออกมาจนแก้มแทบปริ เมลเองก็ยิ้มตามอย่างช่วยไม่ได้และอัลฟี่ก็หันไปมองเมลพร้อมกับยิ้มและพูดขึ้น
“เอาล่ะมาเริ่มแผนการขั้นสุดท้ายกันเถอะ”
เมลเองก็ยิ้มตอบแล้วก็เดินเข้าใกล้อัลฟี่
“เข้าใจแล้วค่ะ.. แต่ว่า..”
เธอหยิบดาบขึ้นมาและแทงเข้าที่หน้าอกของอัลฟี่ด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบ แม้แต่อัลฟี่ที่กำลังดีใจยังลืมตั้งตัว
ต่อให้ระวังตัวเขาก็คงคาดไม่ถึงเช่นกันว่าลูกสาวของเขาวางแผนจะฆ่าเขา เพราะลูกสาวเขาเป็นครอบครัวคนเดียวที่เหลืออยู่ของอัลฟี่
ดาบนั้นปักแทงเข้าที่หน้าอกของอัลฟี่ทะลุหลัง ปักแทงใส่หัวใจอย่างแม่นยำ พร้อมกับตามด้วยเสียงกรีดร้องของอัลฟี่
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกก เมล…..”
เสียงกรัดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดความทรมานแบะน้ำตาที่ไหลออกมา อาจจะเพราะความกลัวตาย ความเจ็บปวด
หรือความทรมานจากการถูกหักหลังโดยลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง ที่เขาเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก ปกป้องจากพวกคนชั่ว
สอนเดิน สอนวิ่ง.. สอนทุกอย่าง ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไหนกันแน่ที่ตีขึ้นมาในอกของเขาในยามนี้เสียงหัวเราะของเมลดังลั่น
“ฮ่าๆ”
“ทำไม.. อ๊อก… ทำไม.. ลูกถึงทำแบบนี้…”
เขาทรุดลงต่อหน้าลูกสาวแท้ๆ ตัวเองที่พึ่งจะปักดาบแทงทะลุหน้าอกตัวเองไปหยก เงยหน้าขึ้นมองเมลด้วยหน้าที่ซีดขาวไร้สีเลือด
เต็มไปด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย น้ำมูกน้ำตาไหลผสมกับเลือดที่ไหลจากปาก ทำให้ใบหน้าแก่ของอัลฟี่ดูเศร้าสุดแสนในชีวิต
เมื่อเมลเห็นหน้าอัลฟี่ เส้นเลือดก็ปูดขึ้นบนใบหน้าของเธอ.. ก่อนจะยกเท้าขึ้นเหยียบใบหน้าของอัลฟี่จนกระแทกลงพื้นดิน
“ไอ้เฒ่าบัดซบ สารเลวอย่างแกไม่มีสิทธิ์ที่จะทำหน้าแบบนั้น!”
“อั้ก… แฮก .. ทำไม.. ทำไมลูก…”
อัลฟี่เหมือนจะไม่สามารถหยุดความรู้สึกโศกเศร้าในอกได้ จนน้ำตาของคนแก่อายุร้อยกว่าปีไหลออกมาจากหางตา
หากแต่ว่าในสายตาของเมลผู้หญิงคนนี้ ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวแห่งความสำนึกผิดหรือเศร้าโศกแม้แต่น้อย
แม้จะไม่สามารถบอกได้ว่าอัลฟี่เป็นคนดี แต่เพราะมันเองก็จะฆ่าคนอื่นเพื่อเหตุผลส่วนตัวเช่นกัน
แต่ทว่าเมลกลับแตกต่างกับอัลฟี่ นั่นคือฆ่าพ่อแท้ๆ ของตัวเองด้วยความเย็นชาไม่มีแม้แต่ความเยื่อใยใดๆ ทั้งสิ้น
“เป็นเพราะแก.. แกพรากคนรักของข้าไป แกทำให้ข้าไม่มีวันตายโดดเดี่ยว ไม่มีคนช้างกาย แถมแกยัง.. แกยัง…..”
“ทุกอย่างพ่อทำเพื่อลูก! โลกมันโหดร้ายไอ้หมอนั่นมันแค่หวังที่จะกินมรดกของตระกูลเรา!!”
“หุบปาก!!!”
เมลกัดฟันจนฟันแทบปริแตกจับมีดขึ้นมาได้แล้วก็แทงไปที่หน้าท้องของอัลฟี่ด้วยความเกลียดชังที่ชัดเจน
“อ๊ากกกกกกกกกกก”
“ข้าจะทำให้แกชดใช้อย่างสาสม ไอ้สารเลว”
เธอแทงไปที่ท้องที่หน้าอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเลือดสีแดงสดสาดกระจายไปทั่วทั้งห้อง เมฆที่บดบังแสงจันทร์ก็พัดผ่าน
เผยให้เห็นภาพที่น่าสยดสยองที่ลูกสาวกำลังจับมีดสั้นแทงพ่อไม่หยุด โดยไม่ได้คิดถึงความโหดร้ายของโลกเลย
ไม่สิ เธออาจจะรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าอะไรถูกอะไรผิด เพียงแต่ว่ามันกลับไร้ซึ่งที่ระบายมันออกมา และความโกรธที่ไม่สามารถกล่าวออกมาได้นี้
ไม่สิ.. เธอไม่กล้าที่จะพูดมันต่างหาก สิ่งนั้น.. สิ่งที่เธอคิด เธอรู้แล้วก็เข้าใจ.. เพียงแต่เธอต้องการที่จะระบายมันออกมา
ใช่ คนเลวๆ อย่างพ่อของเธอตายไปก็สมควรแล้ว เธอน่ะไม่ผิด.. เธอฆ่ามันเพื่อความถูกต้องของโลกใบนี้
“ฮ่าๆ ตายไปซะ ตายไปซะ!”
เสียงหัวเราะทรมานแทงเข้าไปที่ดวงตาปาก ท้อง…
“ยังมี.. สิ่งที่…ลูกไม่ได้พูดออกมา…”
ร่างกายที่โชกไปด้วยเลือดนั้นอาจจะเป็นเพราะมีอาร์ติแฟ็คที่ทำให้อายุขัยยืนนาน แม่ไม่มีพลังในการฟื้นฟู
แต่ว่าก็ตายยากขึ้นจากพิษบาดแผลอยู่ดี แต่ทว่าเมลกลับหยุดชะงักเพียงชั่วครู่เท่านั้น และก็แทงไปด้วยความโกรธที่มากกว่าเดิม
ความเจ็บปวดยากจะบรรยายออกมาได้เต็มไปทั่วแผ่นอก จนร่างกายของอัลฟี่แน่นิ่งไป มีดสั้นในมือก็ไม่หยุดแทง
เลือดที่เคยพุ่งกระฉูดก็แค่ไหลรินอย่างเบาบาง ชุดขุนนางของเมลเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของบิดาตนเอง
ในที่สุดมือของเมลก็หยุดลงดวงตาของเธอว่างเปล่า… เธอฆ่าพ่อไปแล้ว..
แบบนี้เรียกว่า เนรคุณ หรือเปล่า..?
แต่ในตอนนั้นเอง เสียงปรบมือพลันดังขึ้นฉับพลัน ทำเอาร่างของเมลสั่นสะเทือน
“แปะ แปะ แปะ”
“อืมๆ เป็นภาพการหักหลังเนรคุณที่ไม่เลวเลยนะ”
……….
คำเตือน เนื้อหาตอนต่อไปรุนแรง ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก เด็กที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดควรได้รับคำแนะนำ.. ว่าไปนั่นดราม่าอะไรไร้สาระผมเขียนเป็นที่ไหน