บทที่ 78 – ความสับสนของเลทิเซีย
รู้เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนแล้วกับก่อนที่จะเกิดจะมีผลลัพธ์ที่ต่างกัน.. จะมีใครสักคนที่เข้าใจความหมายนี้ หากให้อธิบายเข้าใจง่ายๆ
มันก็เหมือนกับการรู้อยู่แล้วว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น มันก็จะทำให้เราไม่รู้สึกอะไรมาก เพราะเรารู้มาตั้งแต่แรกแล้ว
กับเรื่องที่เรายังไม่รู้ จนมารู้ทีหลังมันจะทำให้เรารู้สึกว่านี่คือที่สุดของชีวิตเราแล้วอะไรแบบนี้ ใช่.. ที่กำลังพูดถึงคือชีวิตของเลทิเซีย
บ่อยครั้งที่เลทิเซียน่ะทำตัวรู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น มันเลยทำให้เธอไม่ได้รู้สึกว่านี่น่ะมันคือของจริง แม้สิ่งที่เธอเข้าใจนั้นจะผิด
แต่ก็อย่างที่บอก ความจริงของคนคนหนึ่งอย่างเลทิเซียคือโลกใบนี้มันโหดร้าย คุณทุกคนเป็นตัวเอกในชีวิตตัวเอง
และเลทิเซียก็เป็นตัวเอกในชีวิตของตัวเอง ดังนั้นความจริงของคุณหรือของเลทิเซียน่ะก็ขึ้นอยู่กับตัวเองว่าจะเชื่อแบบไหน.. ก็เพราะคุณคือตัวเอกของเรื่องยังไงล่ะ
ดังนั้นการที่เลทิเซียเข้าใจว่า ตัวเองน่ะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคนในอาณาจักรอาเดฟ มันเลยทำให้เธอมองว่า ความสัมพันธ์ทั้งหมดคือของปลอม (แบบรู้เรื่องก่อนเกิดขึ้น)
แล้วหากเลทิเซียเป็นเด็กธรรมดาไม่ได้มีความทรงจำจาชาติที่แล้ว หรือก็คือเลทิเซียที่เกิดมาคงไม่รู้ความหรอกว่าตัวเองเป็นลูกใคร
เมื่อเธอถูกเลี้ยงในฐานะลูกสาวของราชาอาเดฟ แม้จะมาถูกเปิดเผยทีหลังเธอก็จะยังคิดว่าพวกเขาคือพ่อแม่ของเธอเพราะเลี้ยงดูเธอมาอยู่ดี (แบบรู้เรื่องหลังเกิดขึ้น)
ใช่แล้ว สุดท้ายแล้วทั้งสองเรื่องที่กล่าวไปเบื้องต้นโดยรวมมันคือเรื่องราวเหมือนกัน ต่างกันที่ว่าเลทิเซียนั้นมีความคิดติดลบมาก่อนกับไม่มีความคิดเท่านั้น
แต่ทว่าผลลัพธ์กับต่างกันโดยสิ้นเชิง นี่คือความหมายที่จะบอกในเบื้องต้น และชีวิตของเลทิเซียก็เกิดเหตุการณ์แบบแรกมาตลอด
ไม่ว่าจะเที่ยวกับคนอื่นหรือใครเลทิเซียก็จะมองว่านี่มันเป็นแค่ของปลอม เลยทำให้เธอไม่ได้สนใจ และสามารถต้านทานความรู้สึกสนุกสนานตลอดมา
แต่ทว่าในครั้งนี้เลทิเซียนั้นมัวแต่กังวลเรื่องของเจ้าเมือง จนทำให้เธอนั้นต้องแสดงว่าตัวเองสนุกสนาน และมีความสุข
อาจจะเป็นส่วนลึกในจิตใจของเธอที่ทำให้เธอรู้สึกประหลาดแบบนี้ ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเพราะเธอลืมเรื่องที่ต้องอคติกับคนบนโลกไว้ก่อน
มัวแต่สนใจคนเดียวจึงทำให้เธอเกิดความรู้สึกที่แบบ ‘รู้เรื่องหลังเกิดขึ้น’ โดยไม่รู้ตัวนั่นเอง
แต่ทว่าภายในใจของเธอนั้นยังคงคิดว่าโลกนี้มันโหดร้าย ไม่ยุติธรรมและน่ากลัว ทุกสิ่งทุกอย่างมีชีวิต
การที่เธออ่อนข้อและเอาความรู้สึกอารมณ์มาเกี่ยว มันทำให้เธอสับสน หากเธอถูกฆ่าทิ้ง หลังจากเกิดความรู้สึกแบบนี้
อารมณ์มันคงไม่ต่างจากถูกคนในครอบครัวอย่างพี่สาวหรือน้องสาวหักหลังเท่าไหร่นัก สำหรับเลทิเซีย
ดังนั้นเธอจึงรู้สึกตื่นตัวและกังวลมาก เธอพยายามจะยับยั้งความรู้สึกประหลาดเหล่านั้น แต่ว่ายิ่งคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งมากขึ้น
มันยิ่งฝังใจมากขึ้นยิ่งคิดเกี่ยวกับมันมากเท่าไหร่เลทิเซียในตอนนี้จึงแทบจะเป็นคนที่ขาดความสุขุมเยือกเย็นไปโดยสมบูรณ์
เพราะเธอในตอนนี้แทบกำลังจะทะเลาะกับตัวเองอยู่นั่นแหละ ทสึรุเองก็ไม่ทราบถึงความคิดเลทิเซียเช่นกัน
เพราะความจริงสำหรับเธอคือการที่เลทิเซียนั้นมาบอกรักเธอจนทำให้เธอรู้สึกประหลาดกับเลทิเซียขึ้นมา
พอเห็นท่าทางของเลทิเซียที่หน้าซีดลงและสับสนกระวนกระวาย ขนาดทสึรุที่ยืนอยู่ห่างๆ ยังรับรู้ได้
“เอ่อ.. เลทิเซีย.. เจ้าเป็นอะไ—”
ทสึรุพยายามที่จะเดินเข้าใกล้เลทิเซียที่กำลังสับสน ซึ่งความสับสนนี่ทำให้เธอสามารถที่จะฆ่าผู้อื่นเพื่อยุติมันได้เลย
ทสึรุจับไหล่เลทิเซียที่กำลังหันหลังให้ แต่ทว่าทันทีที่เธอจับหลังเลทิเซียโดยไม่รู้ตัวนั้น มันทำเลทิเซียรู้สึกตื่นตัวสุดขีด
“อย่ามาแตะตัวฉัน!!!”
เลทิเซียตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เธอหันหน้าไปหาทสึรุและเอามีดสั้นออกมาจ่อใส่คอของทสึรุทันที
ทำเอาทสึรุต้องหยุดนิ่งเพราะความตกใจแต่เธอก็สับสนไม่ต่างจากเลทิเซีย คิ้วของเธอหย่อนลงด้วยแววตาไม่เข้าใจเลทิเซีย
“เจ้า.. เป็นอะไร…”
หน้าอกเลทิเซียกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรง ในตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วหน้าอก เมื่อเห็นสีหน้าสับสนแล้วก็หวาดกลัวของทสึรุ
เธอรู้สึกแปลกประหลาดกับทสึรุขึ้นมาจริงๆ ทำให้เลทิเซียแทบกัดริมฝีปากเบาๆ .. เธอควรจะทำยังไงดีในตอนนี้
“ตอบข้าสิ.. เลทิเซีย.. จู่ๆ เจ้าเป็นอะไรของเจ้า..”
สีหน้าของเธอยังจ้องประจันหน้ากับเลทิเซีย มันทำให้เลทิเซียรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา สายตาแบบนั้นน่ะ เขาเคยรู้สึกตอบสนองแค่กับน้องสาวและพี่สาว
แต่ว่าในตอนนี้เธอรู้สึกกับทสึรุด้วยแล้วมันยิ่งทำให้เลทิเซียรู้สึกเกลียดตัวเองขึ้นมาอีกหากสถานการณ์นี้ตกอยู่ในฝีมือของศัตรูด้วย
เลทิเซียที่มัวแต่ลังเลคงถูกฆ่าไปก่อนแล้ว พอคิดได้แบบนั้นมือของเธอก็สั่นเพราะความกลัว
ทสึรุเองก็ไม่เข้าใจเลทิเซีย แต่เพราะเห็นเลทิเซียสั่นเธอก็พอจะรู้ว่าเลทิเซียกำลังกลัวบางอย่าง.. หรือสับสน
บางทีเลทิเซียอาจจะต้องการใครสักคนให้เข้าใจเธอ.. ทำให้ทสึรุถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ไม่เป็นไร.. พวกเราเป็นมิตรกันนะ.. ใจเย็นๆ ..”
แต่ทว่าสิ่งที่ทสึรุเข้าใจผิดคือตอนนี้เลทิเซียกำลังกลัวอยู่ก็คือเธอและตัวเองที่สับสน เมื่อทสึรุพูดขึ้นดวงตาของเลทิเซียก็เกร็งขึ้น
เพราะสำหรับเลทิเซียแล้วทสึรุคือศัตรู ที่พยายามหลอกล้อเพื่อคิดจะพลิกสถานการณ์ดังนั้นความกลัวที่เธอไม่สามารถทำอะไรศัตรูเพราะความรู้สึกส่วนตัว
มันจึงทำให้เธอแทบจะไม่เข้าใจและปั่นป่วนไปหมด เธอตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“หุบปาก!!!!”
เสียงของเลทิเซียทั้งแหบพร่าและน่ากลัวเพราะไม่เตรียมตัวมาก่อนจะเแล่งเสียงที่สับสนนี้ และมันคงเป็นเสียงที่ดังที่สุดเท่าที่เคยจะโกนมาตั้งแต่เกิดในชาตินี้
เสียงนั้นทำให้นกหรือสัตว์แถวนี้แตกตื่น บินพรึบขึ้นเหนือฟ้า มีดที่จ่อคอทสึรุอยู่ก็ทิ่มเข้าไปนิดหน่อยจนเลือดไหลซิบออกมาจากแผลเล็กๆ ตรงนั้น
ทสึรุตะลึง.. เธอไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลย.. ดวงตาเลทิเซียที่จ้องมานั้นมันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด มันเป็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและเกลียดในเวลาเดียวกัน
มันเป็นสายตาที่ตรงกันข้ามกับเหตุการณ์เมื่อคืนนั้น และทสึรุในตอนนี้แม้บอกไม่ได้ว่ารักหรือเปล่า แต่ก็คงไม่ต่างกันมากนัก
เมื่อถูกคนที่รู้สึกแบบนั้นจ้องด้วยสายตาเกลียดชังมันทำให้เธอเองก็รู้สึกยากจะบรรยายตีผ่านขึ้นมาบนหน้าอก
“ข้า..”
“หุบปาก! หุบปาก!! หุบปาก!!!”
เลทิเซียตะโกนก้องเหมือนเด็กที่งอแง แต่ทว่าเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจจะเอื้อนเอ่ยหลายอย่างออกมาได้
ทำให้ทสึรุปวดใจนิ่งกว่าเดิม เลทิเซียกัดฟันและด่าระบายออกมา
“คนที่พูดแบบนั้นกับฉันได้มีแค่พี่ของฉัน เธอมันตัวอะไร เธอทำอะไรกับฉัน… ฉันน่ะ… ฉันน่ะ…”
เลทิเซียกัดฟันจนได้ยินเสียงฟันขัดกันแทบแตกหัก ซึ่งแม้แต่ทสึรุได้ยิน และเธอเองก็ไม่เข้าใจเลทิเซียเลยสักนิด …
“คนที่ทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้น่ะ.. ต้องมีแค่พี่เท่านั้น ตัวเธอน่ะทำอะไรกับฉัน อาหารที่เธอให้กินมันมีพิษอยู่จริงๆ ใช่ไหม?! เธอคิดจะทำอะไรกับฉันกันแน่ ฉันไปทำอะไรให้เธอกัน ฉันแค่…อยากอยู่เฉยๆ ทำไมถึงต้องทำอะไรแบบนี้กับฉันด้วย!!”
เสียงร้องของเลทิเซียมันเต็มไปด้วยความโกรธและสับสน แต่ทสึรุเมื่อได้ยินถึงเรื่องอาหารทำให้เธอรู้สึกงุนงงขึ้นมา
มันเกี่ยวอะไรกับอาหารของเธอ.. ตั้งแต่เมื่อหลายวันที่แล้ว พิษ.. งั้นเหรอ มีพิษอยู่จริงๆ? ในตอนนั้นเองภาพความฝันของทสึรุก็พังทลาย
เธอก็ไม่ได้โง่ขนาดที่จะจับใจความไม่ได้ขนาดนั้น.. มีพิษอยู่จริงๆ หมายความว่าเลทิเซียคิดว่านั่นมีพิษมาก่อนแล้ว
และเมื่อคิดดีๆ ในมุมมองที่เห็นเลทิเซียพยายามยัดอาหารรวดเดียว ถ้ามันไม่ใช่เพราะต้องการที่จะทำเพื่อทสึรุ ..
เธอแค่เข้าใจผิดไปเอง เพราะความเป็นจริงที่ทำแบบนั้นเพราะเชื่อว่า..ในอาหารมีพิษ….?
ดวงตาของทสึรุแข็งข้างก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาจากตาช้าๆ …
…………