การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 94

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 94 – เซเลียกับแอนนี่

ข้ามีชื่อว่า เซเลีย ที คริสกราฟต์ ข้าเป็นนักเรียนจากโรงเรียนไลเบอร์ ถึงจะบอกว่าเป็นนักเรียนแต่ข้าก็เป็นถึงความภาคภูมิใจของโรงเรียน

ความภาคภูมิใจของโรงเรียน คือเด็กนักเรียนใหม่ที่ย้ายเข้ามาแต่มีเกณฑ์ทุกอย่างเดินมาตรฐานทั้งหมด จะสามารถเป็นนักเรียนแห่งความภาคภูมิใจได้

ว่ากันตามตรงสถานะนี้ไม่ใช่ได้มาแบบที่ข้าว่าหรอก เพราะจะได้สถานะนี้ก็ต่อเมื่อชนะการต่อสู้ของห้าโรงเรียนและเหยียบย่ำทุกคนติดท็อปสิบในการแข่งขันเท่านั้น

แต่เหมือนเกณฑ์ประเมินจะประเมินข้าว่า ข้าเป็นเด็กหญิงที่เป็นความภาคภูมิใจของโรงเรียนและต้องยืนที่หนึ่งในสิบแน่ๆ

สำหรับเรื่องนั้นข้าคิดว่า… มันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ข้าในฐานะที่เป็นขุนนางนักรบเวทแห่งอาณาจักรคริสต้าผู้นี้

มีคู่หมั้นเป็นเจ้าชายอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรคริสต้าผู้มีพรสวรรค์ในทางการเมืองและการต่อสู้ เขาคือรัชทายาทที่จะสืบทอดบัลลังก์ต่ออย่างแน่นอน

เรียกได้ว่าข้าคือบุคคลที่สมบูรณ์แบบทั้งพรสวรรค์และความสามารุแม้แต่ฐานะ.. ก็ไม่อยากจะพูดเท่าไหร่หรอกนะแต่ว่าข้าน่ะ…

สวยสุดๆ ไปเลยล่ะ! และตอนนี้ข้ากำลังก้มมองตัวเองที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำและเสยผมจนสยายออก

ผมสีทองของข้าชุดนักเรียนประจำโรงเรียนแม้จะดูหยาบกระด้างไร้ซึ่งรสนิยมในการออกแบบ แต่พอข้าสวมชุดนี้ก็ราวกับเป็นของจากเทพบนสวรรค์เลยล่ะ!

“อ๊าาา บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จงตอบข้ามา ใครคือคนที่งามเลิศที่สุดในปฐพี!”

และในตอนนั้นเองน้ำก็เหมือนกับขานรับต่อการถามไถ่จากคนมี่งดงามราวเทพธิดาเฉกเช่นข้า มันกระเพื่อมไหวก่อนจะมีเสียงดังขึ้น

“คนที่งามเลิศที่สุดคือ…… ข้าคนนี้ไงล่ะ ฮ่าๆ!”

จู่ๆ น้ำก็ระเบิดโป้งขึ้นมาใส่หน้าของข้าแล้วเสียงหัวเราะพอใจจากด้านหลังก็ดังขึ้น ทำเอาข้าหน้ามุ่ยลงในทันที

“แอนนี่ เจ้ายังไม่มีความเป็นกุลสตรีเหมือนเคยเลยนะ ให้ตายสิ ขุนนางที่ไหนเอาน้ำมาสาดหน้าคนอื่นกันนะ เจ้ามัวแต่ทำตัวแบบนั้นไงคู่หมั้นถึงได้ถอนหมั้นน่ะ”

“ข้าไม่สนคนอ่อนแอปวกเปียกหรอกนะ คนที่ข้าชอบต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งไร้เทียมทาน ไม่ใช่ไอ้หนุ่มลูกคุณหนู!”

“คนป่าเถื่อน!”

ข้ารู้สึกเอือมระอากับแอนนี่.. แอนนี่คือลูกพี่ลูกน้องของข้า เป็นลูกของพี่สาวมารดาของข้า แต่ก็นะถึงจะบอกว่าเป็นพี่สาวก็จริง แต่แม่ของแอนนี่คือเชื้อสายของตระกูลคริสต์กราฟ ถึงพวกเราจะอยู่ในตระกูลเดียวกัน

แต่เพื่อไม่ให้เชื้อสายของคริสต์กราฟถูกแทนที่ ตระกูลเลยแบ่งชัดแบ่งเป็นสองฝ่าย เชื้อพระวงศ์คริสต้ากับขุนนางคริสต์กราฟนั่นเอง ว่าง่ายพวกเราเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องปลอมๆนั่นแหละ

แต่ถึงอย่างนั้นแอนนี่ก็ได้พ่อมาเยอะมาก ผมของเธอจึงเป็นสีแดงและมีใบหน้าที่ค่อนข้างคมและมีความงดงามมาตั้งแต่เกิด..

เพราะงั้นเลยทำให้คนหลงรักเธอมากมายและมาขอหมั้น แต่ทุกครั้งก็ถูกเธอใช้กำปั้นอัดจนน่วมกลับไปทุกราย ทำให้ข้าเป็นห่วงอนาคตที่เธอจะไม่มีสามีไม่น้อย

เอ่อแล้วก็… ถึงข้าจะบอกไว้ว่า เธอสวยแต่ไม่เท่าข้าหรอกนะอยากจะบอกให้!

“แต่ว่านะเซเลีย เรื่องที่เจ้าว่าเนี่ย มันเรื่องจริงใช่ไหม?”

“แน่นอน ข้าได้ยินมาเต็มสองหูเลยล่ะ เพราะงั้นถึงยังไม่ออกไปจากโลกนี้ไงล่ะ!”

“อืม.. ถ้าเป็นงั้นจริงเราก็คงพอมีหวังที่จะทำให้ตระกูลเรากลับคืนสู่บัลลังก์..”

ข้ากับแอนนี่มองหน้ากันราวกับมีเรื่องรู้อยู่ในใจ อันที่จริงเรื่องที่ข้าจะพูดต่อไปนี้มันค่อนข้างเหลือเชื่อนะ

คือตระกูลของข้าคริสกราฟต์ แต่เดิมแล้วเป็นคริสต้าและเป็นเชื้อพระวงศ์ในอาณาจักรคริสต้า

แต่เมื่อหลายร้อยปีก่อนช่วงสิ้นสุดของยุคมหาสงครามและเข้าสู่ยุคแห่งความสงบสุขนั้น ตระกูลขุนนางได้ก่อกบฏในช่วงที่ชุลมุนวุ่นวายแห่งยุค

และไล่ฆ่าเชื้อพระวงศ์ไปจนหมด แต่แล้วทวดของข้าก็รอดมาได้เลยหลบไปอยู่ในตระกูลขุนนางที่เคารพและเทิดทูนเชื้อพระวงศ์อย่างตระกูลคริสกราฟท์

และเลือดของเชื้อพระวงศ์ก็สืบทอดสืบต่อกันมาจนถึงยุคของข้า ว่าง่ายๆ คือ ข้ากับแอนนี่คือองค์หญิงนั่นแหละ

แต่ไอ้เชื้อพระวงศ์บัดซบนั่นมาแย่งความสมบูรณ์แบบที่แท้จริงไปจากข้า ไม่งั้นข้าไม่มีทางแต่งงานกับพวกผู้ชายที่เป็นแค่เลือดเนื้อจอมปลอมแน่ๆ

แต่ตอนนี้โอกาสกลับหล่นอยู่ตรงหน้าข้าแล้ว.. อันที่จริงตอนนี้ข้าอยู่ในโลกชิ้นส่วนเวหาและในโลกนี้ข้ากับแอนนี่รู้จักมันดีที่สุด

เพราะตระกูลคริสกราฟต์ได้เคยมีคนเข้ามาในที่แห่งนี้และรอดกลับไปพร้อมกับอาร์ติแฟ็คล้ำค่าบ่อยมาก.. ทำให้ข้ากับแอนนี่มีอาร์ติแฟ็คที่เรียกว่า

‘ข้ามโลก’ อยู่.. นั่นหมายความว่าข้ากับแอนนี่สามารถออกจากที่นี่ได้ทุกเวลาที่ต้องการเลยล่ะ แต่ว่าก็นะ…

เมื่อเร็วๆ นี้ข้าไปเมืองหลวงมา แล้วข้าดันไปได้ยินคำพูดของเด็กจากโรงเรียนอื่นเข้า ดูจากชุดน่าจะเป็นโรงเรียนเอเรียส

ดูเหมือนพวกเขาจะพบเจอทางเข้ามิติพิเศษ เป็นมิติที่ทำให้โลกใบนี้ดำรงอยู่.. และภายในนั้นมีของวิเศษล้ำค่ายิ่งกว่าอาร์ติแฟ็ค!

และดูเหมือนว่าจะเป็นอาวุธ! ย้ำนะ ว่าเป็นอาวุธไม่ใช่ของช่วยสร้างโลกหรือมิติจำเพาะ นั่นหมายความว่า โลกแห่งนี้ก็เป็นแค่ผลกระทบของอาวุธชิ้นนั้นที่มาปักอยู่!

ไม่ต้องพูดถึงพลานุภาพของมัน ข้าคิดว่าบางทีมันอาจจะตัดแยกมิติ แบ่งครึ่งฟ้าได้แน่ๆ แค่นี้ข้าก็สามารถใช้กำลังยึดบัลลังก์คืนอย่างง่ายดาย!

ตอนแรกก็มีแผนที่แต่งงานกับเจ้าชาย และทำให้มันติดข้าและเชื่อฟังคำสั่งข้าทุกอย่าง คอยควบคุมทางอ้อมอ่ะนะ แต่แบบนั้นมันเปลืองตัวไปนี่น่า

คนที่เหมาะสำหรับข้ามีเพียงแค่คนที่มีความงดงามเสียยิ่งกว่าข้าเท่านั้น พอคิดแบบนั้นก็เริ่มใจลอย

“เซเลีย เจ้าเข้าโลกหลงตัวเองอีกแล้วนะ ถ้าจำไม่ผิดตามที่เจ้าบอกประตูมิติจะเปิดในอีกไม่ช้า”

“เฮ้อ เจ้านี่ไม่มีความเป็นกุลสตรีบ้างเลยนะ”

“งั้นเหรอ แต่ข้าไม่คิดว่ากุลสตรีทั่วไปเขาจะส่องกระจกดูหน้าตัวเอง แล้วมีอารมณ์หรอกน—”

“อ๊ากกกก หุบปาก ไหนเจ้าบอกเจ้าจะไม่พูดเรื่องนั้นแล้วไง”

“ข้ายังจำตอนที่ข้าเปิดประตูไปแล้วเจอเจ้าจูบกับกระจกอยู่เลยนะ”

“หุบปากกกกก นังบ้า!! เจ้ามันโกหก พูดเท็จ ไม่มีเกียรติของขุนนาง ข้าจะตีเจ้า!!”

“ฮ่าๆ”

ข้ารู้สึกหงุดหงิด.. แล้วก็เรื่องที่ยัยนี่พูดนะ มันไม่ใช่เรื่องจริงนะ!! ไม่ใช่แน่นอน! ข้ารับประกัน…

แต่ไม่ว่าจะปฏิเสธยังไงก็มีความรู้สึกอยากร้องไห้ ข้าเข่าทรุดลงบนพื้นแล้วก็ร้องออกมา

“แงๆๆ เจ้าแกล้งข้าอีกแล้ว แงๆ ข้าจะบอกท่านป้าแน่ๆ!”

“เจ้านี่น้า ยังขี้แยไม่เปลี่ยนเลยน้า”

“แงๆๆ!”

ข้าร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจมาก แต่ว่าแอนนี่ก็เดินเข้ามา แต่เพราะแอนนี่ทำให้ข้ารู้สึกอับอายขายหน้า ข้าเลยหันหน้าหนี

“น่าๆ เลิกร้องได้แล้ว เดี๋ยวข้าจะให้ของขวัญนะ”

“เจ้าไม่ต้องมาทำดีกับข้าเลย!”

ข้าหันหน้าหนีด้วยท่าทางยึดมั่น คิดจะเอาของขวัญมาล่อข้าเหรอ ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ ข้าก็ไม่ใช่เด็กแล้วด้วย!

แต่ตอนนั้นเธอก็หยิบของบางอย่างออกมา ข้าหันขวับไปดูน้ำลายก็ยืดออกมาจากปากทันที

“อยากกินใช่ไหมล่ะ..?”

“…. ไม่ๆๆ”

ข้าส่ายหน้าทันที แต่ไอ้ขนมเยลโล่ขนาดยาวๆ นั่นกับกลิ่นหอมของเยลโล่มันทำเอาข้าน้ำลายไหล แต่ว่าข้าก็ไม่ใช่เด็กแล้ว!

ข้ายึดมั่นปณิธานและ…

แอนนี่ก็จับเยลโล่แล้วเคี้ยวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย…

ไม่หรอก! หลอกข้าไม่ได้หรอก ข้าน่ะมีปณิธาน!! …..

“ก็ได้ๆ!! ข้ายอมแล้วเอาเยลโล่มาแบ่งข้าเลยนะ!”

แต่แล้วยัยนี่ก็ดูดเยลโล่ที่เป็นเส้นยาวเข้าปากรวดเดียวจนหมด ก่อนที่จะเอามือข้างหนึ่งปิดปาก ทำสีหน้าโทษทีใส่ข้า

“อ๊ะ โทษที.. ข้าเผลอกินเข้าไปหมดแล้ว…”

“… แงๆๆ เจ้าแกล้งข้าอีกแล้ว!!!”

ข้าร้องไห้ออกมาเพราะแอนนี่ตั้งใจปั่นหัวข้า เยลโล่น่ะ.. เยลโล่น่ะคือของของข้านะ ท่านแม่ฝากยัยนี่ไว้เพื่อไม่ให้ข้ากินมากเกินไป

แต่แอนนี่กลับ.. แอนนี่กลับ… ข้ากัดฟันด้วยความโกรธ แต่แล้วแอนนี่ก็อ้าปากเผยให้เห็นเยลโล่อยู่ข้างในปาก

“อร่อยมากเลยล่ะ เยลโล่ของเซเลียอร่อยจริงๆ นะ..”

“คนบ้า!!!”

ข้ากำลังจะร้องออกมาอีก แต่แล้วแอนนี่ก็พุ่งเข้ามาป้อนเยลโล่ใส่ปากข้า.. ด้วยปากของเธอน่ะนะ.. หน้าข้าเปลี่ยนสีรีบผลักเธอออกทันที

ข้านิ้วชี้ไปที่หน้าของแอนนี่ด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว…

“จะ.. เจ้า.. เจ้า…!”

“อะไร.. ข้าอุตส่าห์ช่วยเคี้ยวเพราะกลัวว่าเจ้าจะเคี้ยวไม่หมด!”

“ข้าไม่ใช่เด็กน— อุ๊บ”

ข้ากำลังจะบอกว่าข้าไม่ใช่เด็กนะ ข้าเองก็โตแล้วแต่ว่าแอนนี่ไม่ฟังข้าเธอดึงข้าเข้ามาแล้วก็ป้อนเยลโล่ใส่ปากของข้า…

ร่างกายข้ารู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อมีบางอย่างที่ไม่ใช่เยลโล่เข้ามาในปากด้วย ข้าพยายามดิ้นรนมือสองข้างดึงหลังเสื้อของแอนนี่ออก

“อื้ออออ!”

แต่เธอไม่ขยับ จนสมองข้าก็ขาวโพลนไปหมด

………..

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท