การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 100.1 บทพิเศษ (2)

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทพิเศษ (2)

บทชิ้นส่วนความทรงจำที่หายไป

ในห้องแห่งหนึ่งมีที่นั่งทำงานอยู่ บนโต๊ะทำงานมีคนแล็บนอนหลับอยู่บนโต๊ะทำงาน เป็นชายหนุ่มรูปร่างใหญ่โตเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ

ใบหน้ามีรอยแผลเหมือนกรงเล็บเสือข่วน แต่จริงๆ แล้วมันเป็นแค่รอยเล็บแมวเท่านั้นไม่มีอะไรมาก นี่คือเรน..

“พี่!!”

จู่ๆ เขาก็ร้องออกมาและสะดุ้งตื่นจากฝัน ก่อนจะหันซ้ายหันขวาด้วยความสับสน ก่อนที่ความสะลึมสะลือจะหายไปช้าๆ

“เฮ้อ.. ฝันนั้นอีกแล้วเหรอ..”

เขาค่อยๆ ถอนหายใจออกมาและส่ายหน้า โชคดีที่ห้องทำงานนี้ไม่มีใครอยู่ที่ทำงานของตัวเอง

หมายความว่าเป็นเวลาพักแล้วนั้นเอง ในขณะที่เรนถอดถอนหายใจก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น แม้ประตูจะไม่ได้ปิด แต่เสียงเคาะนี้นั้นใช้เรียกเรนเท่านั้นนั่นเอง

“แอบงีบตอนทำงานอีกแล้วเหรอ นายเนี่ยน้า”

“อ๊ะ.. หัวหน้า.. คือว่า…”

เรนเกาหัวอย่างช่วยไม่ได้… คนที่อยู่ตรงหน้าเรนคือผู้หญิงคนหนึ่งเธอมีรูปร่างที่ค่อนข้างเล็กกะทัดรัด

หากยืนเปรียบเทียบกับเรนคงเหมือนยักษ์กับคนแคระเลยแหละ ตัวเธอสูงไม่ถึง 150 เซนติเมตรด้วยซ้ำ ดูแล้วเหมือนเด็กอายุไม่มากนัก

ถ้าจะให้อธิบายสั้นๆ ง่ายเลยก็คือ โลลิ.. นั่นแหละ เธอสวมชุดกาวน์สีขาวพอดีตัว บางทีชุดนี้อาจจะตัดขนาดมาเพื่อเธอโดยเฉพาะเลยก็ว่าได้

“ว่าแต่ฝันเรื่องพี่ของนายอีกแล้วงั้นเหรอ..”

“เอ่อ.. ดูอยู่งั้นเหรอครับ..?”

พอเด็กผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าถามขึ้น เรนก็สับสนเล็กน้อยแต่พอรู้สึกว่าอีกฝ่ายมองดูอยู่เขาก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กขี้แยไม่ยอมโตอีกแล้ว

แต่ก็นะ เพราะเธอพึ่งเสียชีวิตไปได้ไม่นานมานี่เอง.. จะยังเศร้าอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

“อืม.. แต่ว่าเรื่องพี่ของนายน่ะ….”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ฮ่าๆ ว่าแต่พักแล้วใช่ไหมครับ ไปหาอะไรทานกันเถอะ”

เรนหัวเราะและเดินออกจากห้องทำงานไป สายตาของเด็กหญิงคนนั้นจ้องตามเรนไม่ละสายตาก่อนที่เธอจะถอนหายใจออกมา

เรื่องการตายของเธอคนนั้นน่ะ.. เธอไม่สามารถสืบสวนได้มากนักเธอเองก็รู้สึกสงสารเรนอยู่ไม่น้อย

อันที่จริงเธอรู้ว่าเรนเป็นคนยังไง รู้ว่าเขากลัวมนุษย์ขนาดไหน เพราะแบบนั้นเธอถึงได้คิดค้นยาชนิดหนึ่งขึ้นมาให้เรน

ยานี้จะทำให้เขาผ่อนคลายมากขึ้น แม้ไม่ได้ทำให้ความคิดแง่ลบของเขาหายไป แต่อย่างน้อยก็ทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตตามแบบปกติได้

“หัวหน้า ยืนทำอะไรอยู่ไม่หิวหรือไง?”

ในตอนนั้นเองเรนก็เรียกเด็กผู้หญิงด้วยน้ำเสียงติดตลก กล่าวกันตามความจริง หัวหน้าคนนี้เป็นเพื่อนเพียงหนึ่งเดียวของพี่เรน

แม้เรนจะไม่ได้เชื่อใจหัวหน้าคนนี้เหมือนพี่สาวและน้องสาวเขา แต่ก็อยู่เหนือคนทุกคน เรียกได้ว่ารองจากครอบครัวก็มีเด็กผู้หญิงคนนี้แหละที่เรนเชื่อใจ

ผสมกับยาคลายเครียดทำให้เรนมองหัวหน้าคนนี้เหมือนพี่สาวคนหนึ่ง.. พอได้ยินเสียงเรียกของเรนเธอก็ตอบกลับ

“เจ้าเด็กบ้านี่ ฉันบอกว่าถ้าไม่ใช่เวลาทำงานอย่าเรียกหัวหน้า”

“เข้าใจแล้วๆ คุณโรส”

ถึงจะดูแปลกๆ ที่เด็กตัวกะเปี๊ยกเรียกชายล่ำบึกว่าเจ้าเด็กบ้า แต่ว่าจริงๆ แล้วคนที่ชื่อว่าโรสนั้นมีอายุมากกว่าเรนอย่างแน่นอน

เธอคนนี้มีชื่อว่า โรส เจเนซิส เธอคือหัวหน้าในที่แห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นบอสใหญ่เลยแหละ ถึงจะเห็นตัวเล็กแบบนี้

แต่สมองของเธอถูกจัดว่าอยู่ในระดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ แม้จะมีบางครั้งที่เธอทำตัวเหมือนไม่เข้าใจความรู้สึกคนอื่น แต่ก็นับว่าเป็นหัวหน้าที่ดี

โรสวิ่งจามเรนที่เดินไปหาอาหาร ขณะเดินกลับเรนก็ถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า

“ว่าแต่คุณโรสตามหาแฟนที่หายตัวไปเจอหรือยัง”

พอถามแบบนี้ โรสที่เดินตามมาเท้าก็หยุดชะงักลงเล็กน้อย แต่เรนแย่นอนว่าถึงจะไม่ขี้ขลาดแต่ก็ยังเป็นคนไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกคนอื่น

เพราะปกติจะกลัวแต่คนอื่น คิดแต่ในแง่ลบแต่เพราะยาคลายเครียดทำให้คิดแง่ลบไม่ออก สมองจึงดูกลวงๆ … ไม่ค่อยเข้าใจคนอื่นมากนัก อันนี้พูดจริงๆ

“รู้สึกว่าจะชื่อ เล็กซ์.. หรือเปล่านะ?”

ก่อนที่เรนจะสังเกตว่าโรสไม่ได้เดินตามมา เขาจึงหันกลับไปทำสีหน้างงๆ กำลังจะถามว่าเป็นอะไร แต่โรสก็พูดขึ้นมาก่อน

“มันชิ่งตายไปก่อนแล้ว…”

“.. เอ่อ.. ขอโทษครับ”

ถึงเรนจะไม่เข้าใจ แต่เขารู้ว่าความตายเป็นเรื่องน่าเศร้าเหมือนที่เอลน่าได้ตายจากไป.. เขาก้มหัวขอโทษโรส

แต่โรสก็โบกมือ พลางพูดแก้ไขบางอย่าง

“แล้วเจ้านั่นไม่ใช่แฟนฉัน คงคล้ายๆ ฝาแฝดละมั้ง”

ไม่นานทั้งคู่ก็เดินมาถึงร้านอาหารและสั่งอาหารกิน ถึงจะบอกว่าร้านอาหารก็คือร้านที่มีอยู่ในที่ทำงาน

อันที่จริงที่นี่ไม่ใช่คอนโด หรือตึกบริษัทอะไร เพราะประตูในแต่ละห้องแต่ละโถงทางเดินถูกออกแบบด้วยระบบอัตโนมัติ

เป็นประตูเหล็ก และรอบด้านล้วนเป็นสีขาว.. เหมือนกับแล็บวิจัยบางอย่างยังไงยังงั้น

ขณะทานอาหาร เหมือนเรนจะมีคำถามบางอย่างอยู่ แต่ก็อึกๆ อักๆ อยู่ ทำให้โรสพูดขึ้นมาว่า

“ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าพี่นายทำงานอะไร ถึงพวกเราจะรู้จักกันจากศูนย์วิจัยที่อเมริกา แต่พี่นายก็ไปๆ มาๆ ไม่รู้จักหลักแหล่ง.. แต่ว่าเอลน่าไม่ได้บอกอะไรนายเลยเหรอ”

“ครับ.. เอ่อ.. ว่าแต่ทำไมถึงรู้ว่าผมจะถามเรื่องนี้ล่ะครับ”

“เดาเอาน่ะ”

เรนมองโรสอย่างคลางแคลงใจ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ก่อนที่จะคิดถึงความทรงจำในอดีต

“รู้สึกว่าพี่เคยบอกว่าเป็นงานที่ค่อนข้างอันตราย..”

“ก็ยังบอกน้องๆ ของตัวเองนะ”

“เพราะว่าพี่ไม่ปิดบังพวกเราไงล่ะ พวกเราคือครอบครัวนี่ ไม่จำเป็นต้องมีความลับต่อกันนะ!”

“จะใช่แน่เหรอ ฉันกลับคิดว่ายัยนั่นมีเรื่องอะไรปิดบังพวกเราอีกเยอะแยะเลยนะ อย่างเรื่องเพื่อนของยัยนั่นน่ะ”

“เรื่องเพื่อนแค่นั้นเองนี่!”

เรนจ้องโรสตาเขม็ง เหมือนจะบอกว่าพี่ฉันถูกต้องเสมออะไรทำนองนั้น โรสเกือบหลุดขำออกมา เพราะเรนเอาจริงเอาจังกับทุกอย่างที่เกี่ยวกับพี่สาวและน้องสาว

“เจ้าบราค่อนเอ้ย”

เรนเบ๊ปาก ถึงจะไม่รู้จักว่าบราค่อนคืออะไรแต่ไม่น่าจะใช่คำชมน่าจะเป็นคำเปรียบเทียบตัวเองกับคำว่าบราค่อนอะไรนั่น

หลังจากทั้งสองทานอาหารเสร็จ เรนก็ถูกโรสลากไปทำงานด้วยในห้องแล็บ เพราะกลัวว่าเรนจะแอบงีบอีก

ในขณะที่โรสจ้องกล้องจุลทรรศน์อยู่ เรนเองก็กำลังแยกบางอย่างด้วยคอมพิวเตอร์สุดไฮเทคโดยมีโรสคอยบอกว่าย้ายจุดไหนทำยังไง

ไม่ใช่ว่าเรนไม่รู้ แต่เป็นเพราะโรสเป็นคนใช้กล้องจุลทรรศน์ดูอยู่ เป็นสสารชนิดพิเศษ… ในตอนนั้นเอง.. จู่ๆ โรสก็พูดขึ้น

“นี่เรน..”

“อะไร?”

เรนไม่สามารถแยกสมาธิได้ ต่างจากโรสที่มือหนึ่งจดบันทึก ดวงตาจ้องกล้องจุลทรรศน์ ปากพูดกับเรนเหมือนแยกประสาทสัมผัสได้อย่างดีเยี่ยม

“ถ้าหาก… โลกนี้ไม่มีสงคราม ไม่มีโรคระบาด.. ไม่มีความชั่วร้าย.. หรือแม้แต่การทดลองที่ไร้มนุษยธรรม.. นายคิดว่าโลกจะน่าอยู่ขึ้นหรือเปล่า?”

“ถามอะไรครับเนี่ย?”

“ตอบๆ มาเหอะน่า”

“ไม่รู้สิครับ.. แต่สำหรับผม—”

“แค่มี เอลน่ากับลูเซียก็พอแล้วล่ะ”

ก่อนที่เรนจะพูดจบโรสก็เลียนเสียง แบบเป็นเด็กติดพี่ติดน้องของเรนซะก่อน ทำเอาเรนรู้สึกอึ้งๆ ที่อีกฝ่ายเดาความคิดตัวเองได้

ซึ่งความจริง ไม่ว่าใครก็เดาได้นั่นแหละนะ..

………

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท