บทที่ 124 – แผ่นดินบนท้องฟ้า
ภายใต้การปะทะเมื่อครู่ทำให้เลทิเซียต้องสร้างพลังขึ้นมาป้องกันไว้อย่างสุดกำลัง แต่ทว่าร่างก็ยังถูกซัดกระเด็นจนกระแทกพื้นของเกาะทันที
“ตู้ม!” เสียงปะทะดังขึ้น ร่างของทสึรุก็ไม่ต่างกันแม้จะพุ่งไปแต่เพราะการปะทะของแสงสีฟ้ากับสึนามิสีดำเกิดเป็นคลื่นลมกวาดใส่ทุกสิ่งรอบด้าน
ส่งผลให้ร่างทสึรุแม้จะไม่มากเท่าเลทิเซียแต่ก็ยังกระเด็นกวาดเอาต้นไม้บนเกาะหักโค่นไปหลายสิบต้น
แน่นอนว่าเงาพร่าเลือนก็โดนเช่นกัน แต่ไม่มากเท่าสองคน อีกทั้งในยามนี้เพราะการที่เลทิเซียทุ่มกำลังป้องกันตัว
พลังเวทที่ควบคุมเงาร่างอยู่ก็หยุดควบคุมซึ่ง มันฉวยโอกาสนี้ในการกำจัดพลังเวทในร่างของตัวเองไปจนหมดสิ้น
และพลังเวทของเลทิเซียที่ใส่เข้าไปในร่างของอีกฝ่ายเหมือนจะส่งผลให้อีกฝ่ายแข็งแกร่งขึ้นเพราะเปลี่ยนเวทมนตร์เลทิเซียเป็นของตัวเอง
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ร่างของเลทิเซียที่ถูกฝังลงบนพื้นดินก็สัมผัสได้ทันที แต่เหมือนเงาพร่าเลือนจะไม่ยอมให้เลทิเซียลุกขึ้นมา
มันพุ่งดิ่งลงไปหาเลทิเซียด้วยความเร็วสูง แน่นอนว่าทสึรุก็เห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาเธอรีบลุกขึ้นมาแม้กระดูกแขนซ้ายจะหักไปแล้ว
“เลทิเซีย!!”
แต่ในแทบจะพริบตานั้นเองแสงสีฟ้าที่ปะทะกับสึนามิสีดำจนกระจายออกเป็นวงกว้างแต่น้ำสีดำนั้นกลับถูกแสงนั้นดูดกลืนเข้ามาจนหมดแทบจะทันทีในตอนที่มันก็กระจายออกเพราะแรงปะทะ
ในขณะที่หลังจากปะทะมันก็หมุนเคว้งกลางอากาศ ภายใต้เสียงคำรามของทสึรุมันก็หมุนเคว้งมาปักอยู่ตรงหน้าเธอ
มันคือหอกเล่มหนึ่งที่มีสีฟ้าที่หม่นแสงเล็กน้อย ปลายหอกหนาใหญ่ในลักษณะเหมือนเจดีย์ แต่เรียวโค้งงามในขณะที่ด้ามจับขนาดพอดีมือนั้นไม่ยาวไม่สั้นจนเกินไป
และมีสีฟ้าของท้องทะเลมองดูเผินๆ เหมือนมันถูกสร้างขึ้นจากน้ำทะเลเพียงแต่ว่าในยามนี้มันหม่นแสงเหมือนกับเป็นการวาดภาพสีฟ้าใส่เพียงเท่านั้น
ทสึรุสัมผัสได้ทันทีว่านี่คือแสงสีฟ้าที่ปะทะกับสึนามิสีดำเมื่อครู่ เธอไม่เคยเห็นมันและไม่รู้จักมัน
แต่พอมันมาอยู่ต่อหน้าเธอ เธอกลับรู้สึกวู่วามอยากจะจับหอกเล่มนี้มาใช้วิชาทวนของตนเองให้หายต้องการ
และตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกมากนัก เธอกัดฟันจับหอกสีฟ้านั่นขึ้นมาและ.. ปาออกไปใส่อีกฝ่ายที่กำลังพุ่งใส่เลทิเซีย
หอกนั้นเหมือนเริ่มจะหมุนควงสว่านและพุ่งดิ่งแหวกว่ายอากาศ ทะลุทะลวงทุกสรรพสิ่ง เพียงแค่ชั่วพริบตาสั้นๆ หอกนั้นก็ปะทะเข้ากับเงาร่างพร่าเลือน
แต่ทว่าดวงตาของเงาพร่าเลือนมองเมินหอกเล่มนี้ เพียงแค่ยกดาบขึ้นสะบัดปะทะกับหอกในทางแฉลบออกข้างจนส่งผลให้วิถีควงสว่านที่เหมือนกระสุนปืนเปลี่ยนทิศไปอย่างง่ายดาย
อันที่จริงหากอาวุธในมือของเงาพร่าเลือนไม่ใช่แค่ส่วนหนึ่งของพลังทั้งหมดละก็ หอกเล่มนี้ก็กระเด็นสั่นสะท้านเหมือนกับหมาบ้าวิ่งขนกำแพงแน่ๆ
แต่ทว่าแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ เพียงแค่ไม่ถึงพริบตาด้วยซ้ำก็ตาม แต่สำหรับเลทิเซียนั้นก็มีค่ามาก เธอเสริมพลังร่างกายให้มากกว่าเดิม
จนจากตอนแรกแผลที่ฟื้นฟูกับการบาดเจ็บต่อเนื่องของเสริมพลังเป็นระดับเสมอภาคเท่าเทียมกันแบบ 50-50
แต่ตอนนี้อากาศบาดเจ็บเริ่มมากกว่าและการฟื้นฟูเริ่มจะฟื้นฟูไม่มันอาการบาดเจ็บแล้ว แต่ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังคงได้รับพละกำลังที่มากมหาศาล
เพราะในจังหวะที่อีกฝ่ายใช้ดาบป้องกันหอกของทสึรุเสร็จนั้นร่างของเลทิเซียก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าอีกฝ่ายในระยะประชิด
แต่เพราะอีกฝ่ายใช้ดาบตั้งการ์ดอยู่ที่แขนซ้ายทำให้ข้างขวาไร้การป้องกัน ดาบในมือเลทิเซียก็ฟันเป็นแนวขวางใส่โดยไม่ลังเล
แต่เงาพร่าเลือนนั้นไม่มีทางที่จะยอมให้เลทิเซียโจมตีเผลออีกครั้ง เธอที่ดึงดาบกลับมาป้องกันไม่ทันจึงเลือกที่จะตวัดดาบสวน
แต่เลทิเซียไม่ได้แค่สู้ตามสถานการณ์ทุกครั้งในการโจมตีของอีกฝ่ายเลทิเซียจะเดาแพทเทิร์นการต่อสู้ไว้หลายรูปแบบ
จริงอยู่ที่มนุษย์เรามีความเป็นไปได้ไร้จุดสิ้นสุด แต่ทว่าเลทิเซียก็แค่จำกัดความเป็นไปได้อื่นโดยการทำให้อีกฝ่ายเหลือทางเลือกไม่มากนักแบบในตอนนี้
ทำให้เหมือนเลทิเซียรู้ความจริงว่าจะเกิดแบบนี้อยู่แล้ว ดาบในมือขวาที่เคยยกไปป้องกันแขนซ้ายก็ตวัดกลับคืนใส่คอเลทิเซีย
แต่จู่ๆ วิถีดาบก็เกิดการเปลี่ยนแปลงดาบที่ควรจะตัดใส่เอวอีกฝ่ายก็ยกขึ้นตวัดปะทะเข้ากับดาบของเงาพร่าเลือน
แน่นอนว่าระยะการเหวี่ยงของเลทิเซียย่อมมากกว่าเพราะเลทิเซียง้างฟันในขณะที่อีกฝ่ายแค่ตวัด จึงเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง “เคร้ง!”
ดาบในมือซ้ายเลทิเซียกระเด็นกลับมา และดาบในมือขวาของเงาพร่าเลือนก็กระแทกไปทางซ้ายจนแขนติดขัดฉับพลัน
ดวงตาเลทิเซียเข้มข้น และแขนซ้ายก็แดงฉานพลังแขนถูกเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันราวกับว่ามันเหนือกว่าพลังกำลังทั้งหมดทั้งมวลบนโลกใบนี้
แขนที่ถูกการปะทะกระเด็นกลับมาก็หยุดนิ่งและตัดฉับใส่คอของอีกฝ่ายแทบจะทันที อีกฝ่ายไร้ทางหลบเลี่ยงแล้ว
“มังกร …. คำราม”
แต่แทบจะในวินาทีที่ดาบกำลังจะตัดใส่คอของอีกฝ่าย ปากก็เปิดขึ้นอย่างสงบเยือกเย็น.. แต่ทว่าเมื่อเสียงนี้ดังขึ้น
คลื่นบีบอัดจากทุกทิศทางก็โอบล้อมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง สีหน้าเลทิเซียเปลี่ยนสีหูแตก ดวงตาเลือดไหล ทุกรูขุมขนบนร่างกายมีเลือดไหลทั้งสิ้น
คลื่นเสียงบ้าคลั่งกวาดทำลายล้างทุกสิ่ง สิงสาราสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วนบนเกาะก็หัวระเบิดแตกตายเพราะคลื่นเสียงนี้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลทิเซียที่หูอยู่ใกล้ปากอีกฝ่ายที่สุด ในขณะที่ทสึรุเองก็สมองพร่าเลือนจนเกือบสลบไปเหมือนกัน
เลทิเซียโซเซถอยหลังไปหลายก้าว มือที่ถือดาบสั่นสะเทือนเหมือนจะหมดสติรอมร่อ.. ต้องขอบคุณเวทมนตร์ปีศาจที่ช่วยให้เลทิเซียประทังสติได้
ราวกับทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบทันที แต่บาดแผลทั้งหมดเลทิเซียก็ฟื้นคืนกลับมา แต่ความรู้สึกปวดหัวเวียนศีรษะยังอยู่
แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมให้เลทิเซียพักเลย ก่อนที่จะได้ปรับตัวแขนขาก็มีเกล็ดมังกรขึ้นจนแทบเต็มครบทุกส่วน
ขาที่ก้าวออกมาส่งผลให้อากาศบิดเบี้ยวและพังทลายลงแทบจะในชั่วพริบตา และจังหวะที่ขาเหยียบลงบนอากาศ
อากาศก็รอยปริแตกเหมือนกับกระจกดีดร่างของเงาพร่าเลือนพุ่งดิ่งเข้าหาเลทิเซียไม่สนใจทสึรุแม้แต่น้อย
แต่ทว่าในตอนนั้นเองน้ำทะเลก็พลันระเบิดขึ้นกะทันหันราวกับว่าเกิดสึนามิลูกใหญ่กว่าเมื่อครู่ไปหลายขุม มีของขนาดมหึมามองแล้วไม่เห็นจุดสิ้นสุดเลยสักนิดโผล่พุ่งออกมาจากใต้ทะเล
มันดึงดูดความสนใจของเงาพร่าเลือนนั่นทันที ซึ่งเลทิเซียไม่ยอมให้โอกาสหายไปเฉยๆ เธอกัดฟันร้องตะโกนขึ้น
“ระเบิด!”
เสียงระเบิดก็ดังขึ้นจากทุกทิศทางบนอากาศ แรงระเบิดนี้ไม่มีผลต่อร่างกายทสึรุเลย แต่พอมันระเบิดสีหน้าของเงาร่างพร่าเลือนซีดเผือด
ถอยหลังหลบ แต่ทว่าราวกับแรงระเบิดนั้นมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง แรงระเบิดนี้คือการระเบิดพลังเวทโดยตรง การทำเช่นนี้อาจจะทำให้ผู้ใช้ได้รับบาดเจ็บจากภายใน เพราะเวทมนตร์คือเรื่องละเอียดอ่อน
แต่มันแลกมากับการสั่นสะเทือนของพลังเวทที่อยู่ใกล้ๆ ว่ากันง่ายๆ คือมันสามารถสลายเวทมนตร์ได้โดยตรงล่ะ แม้จะใช้กับพวกเวทมนตร์แทรกแซงหรือเวทมนตร์ปีศาจไม่ได้
แต่ถ้าเป็นโลกใบนี้ที่ทุกอย่างประกอบขึ้นจากเวทมนตร์อย่างอนุภาคเวทมนตร์โลกใบนี้.. ต้นไม้ พื้นดิน อากาศ เงาพร่าเลือน ล้วนเกิดลางพังทลาย
เงาร่างพร่าเลือนยังดีหน่อยแต่ทุกอย่างนอกจากทสึรุและเลทิเซียกลับพังทลายลงต่อหน้าต่อตากลายเป็นฝุ่นผงอย่างง่ายดาย
การกระทำเช่นนี้ด้านนอกโลกชิ้นส่วนมันทำอะไรใครไม่ได้ก็จริง และแม้แต่วิธีการเช่นนี้เลทิเซียก็พึ่งลองทำเพราะจากการวิเคราะห์ของเธอ
หากเวทมนตร์เจอกับเวทมนตร์ตรงๆ มันจะเกิดการหักล้างซึ่งกันและกัน.. แม้ไม่อาจหักล้างจนชนะแต่ก็สามารถทำลายโครงสร้างความสมดุลได้ พอเลทิเซียเข้าใจตรงจุดนี้
เธอถึงได้ระเบิดพลังเวทออกจากนอกร่างกายด้วย ใช่นอกจากเลทิเซียจะระเบิดพลังจำนวนมากเพื่อดึงดูดความสนใจ
แต่เธอก็ไม่ปล่อยให้ปริมาณเวทที่ถูกปล่อยออกไปไม่เสียเปล่า อาศัยการกระจายของเวทมนตร์จำนวนมากที่ดึงดูดความสนใจให้เวทมนตร์กระจายไปทั่วพื้นที่
และรอจังหวะที่จะระเบิดออก! เงาพร่าเลือนเริ่มแตกกระจาย แขนซ้ายก็เริ่มกระจัดกระจายแม้แต่พลังฟื้นฟูยังคงไร้ผล….
แต่ในชั่วพริบตาเดียวกันเงาสีดำที่พุ่งขึ้นมาจากใต้ท้องทะเลก็ปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้า.. บดบังแสงสว่างทำเอาทั้งสามบนเกาะหันขึ้นไปบนฟากฟ้าอย่างพร้อมเพรียง
ทสึรุกับเลทิเซียเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงสับสน.. เพราะในตอนนี้มันมีแผ่นดินสีดำทอดมองไปเห็นจุดสิ้นสุดปรากฏขึ้นแทนท้องฟ้า
แผ่นดินสีดำปรากฏขึ้นบนฟากฟ้า!