การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 136

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 136 – จูนิเบียวกับโจรสลัด

นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วแต่ทุกอย่างยังคงเป็นป่า ฉันเองก็เริ่มจะกังวล แต่เพราะได้เดินหน้ามาแล้วก็ต้องมาให้สุด

เพราะไม่งั้นจะหลงทางแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้อะไรเลย อย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่ฉันคิดแหละนะ ดังนั้นฉันจึงต้องมุ่งหน้าต่อไปอย่างเคร่งเครียด

แต่เหมือนว่าทั้งทสึรุกับไวท์ทั้งคู่ต่างมีอารมณ์เบิกบานตรงกันข้ามกับฉันเลยนะ จนกระทั่งวันหนึ่งพวกเราก็ไปเจอมนุษย์คนแรกเข้า

ฉันมองไปยังภาพตรงหน้าที่เห็นแล้วต้องถอยหลังด้วยความระวัง เพราะตอนนี้กำลังมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งดมกลิ่น และจ้องซ้ายจ้องขวาศพของหมีตัวหนึ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ

แถมตัวมันเหมือนจะลากตัวมาตามพื้น เพราะมีรอยลากตรงพื้นอาจจะตายอย่างอนาถเลยล่ะมั้ง

ถ้าจะให้ฉันพูดก็คงเป็นเหมือนนักสืบเลยแหละ แถมเหมือนไม่ใช่การแสดงด้วยนะ เพราะเหมือนจะเป็นนักสืบจริงๆ

แต่มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปดมไปเลียเลือดศพด้วยนะ? เลือดมันแห้งไปแล้วก็น่าจะตายไปได้นานพอสมควร

แต่จะยังไงก็ตามนักสืบคือคนประเภทที่ฉันไม่ชอบมากที่สุด เพราะง่านักสืบมันชอบยุ่งเรื่องของฉันไปซะหมดเลย

เอาเป็นว่าไม่ชอบมากสุดๆ ดังนั้นฉันต้องระวังตัวไว้ก่อน ฉันที่กำลังถอยหลังอยู่นั้นเหมือนนักสืบไร้นามคนนั้นพึ่งจะรู้สึกตัวว่ามีคนดูอยู่

“เอ๊ะ พวกเธอคือ..?”

พอเธอหันหน้ามาฉันก็จำได้ทันที เธอคือนักเรียนในโรงเรียนลิเบอร์ที่ฉันเคยเจอ และเธอเคยให้ข้อมูลบางอย่างกับฉันมาด้วย

ถึงจะไม่รู้จักชื่อ แต่ที่มองเห็นฉันก็คงเป็นส่วนหนึ่งของนักสืบจริงๆ สินะ แม้ฉันจะล่องหนแต่นักสืบก็ยังมองทะลุปรุโปร่งได้อย่างแน่นอน

ก็มีคำพูดประมาณนั้นอยู่ แบบนี้นี่เอง อย่างน้อยฉันก็ขอยอมรับในฝีมือถึงจะไม่รู้ว่าวิธีไหน แต่ฉันจะไม่เข้าใกล้คนประเภทนี้โดยเด็ดขาด

แต่เหมือนทสึรุจะมองมาที่ฉันแล้วยิ้มขึ้น ก่อนที่เธอจะเดินออกมาด้านหน้าข้า … ทสึรุขอบคุณมากนะ

“ข้ามีชื่อว่าทสึรุ ส่วนเธอมีชื่อว่าเลทิเซียและก็ดูจากเสื้อพวกเราเป็นนักเรียนจากโรงเรียนลิเบอร์ แล้วเจ้าคือใคร ทำไมถึงมาอยู่ในที่แบบนี้?”

แล้วจะไปแนะนำตัวทำไม!! สถานการณ์แบบนี้ต้องรีบหนีนี่น่า เพราะนักสืบอาจจะไปรู้ความจริงอะไรเข้าอีก!

(ทสึรุผู้รู้ว่าเลทิเซียไม่สามารถเข้ากับคนอื่นได้ ดังนั้นสำหรับเธอคือจึงคิดว่าสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับเลทิเซียคือช่วยพูดแทน…)

“อ๊ะ ขอโทษที ก่อนที่ตัวข้าจะถามว่านักเดินทางทั้งสองควรจะแนะนำตนเองก่อนละสินะ ตัวข้ามีชื่อว่า จูนี่ เฉกเช่นพวกเจ้าเป็นนักเรียนจากโรงเรียนลิเบอร์เพียงแต่ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ ตัวข้านั้นได้รับสาส์นจากสหายมาว่าพักหนีสัตว์ในพันธะได้หายตัวไปบ่อยครั้งจึงได้ลาโรงเรียนมาอยู่ที่นี่ และกำลังตามหาคนร้ายที่ว่านั่น”

เธอพูดจนจบ ทสึรุก็อึ้งไปพักหนึ่ง ฉันเองก็ไม่ต่างกันมาก แต่ว่านักสืบในโลกนี้เขาแนะนำตัวกันด้วยคำพูดเฟ้อแบบนี้เหรอ

แต่ดูเหมือนทสึรุจะมีทักษะที่สูงล้ำ เพราะในวินาทีต่อมาเธอก็รีบทำท่าปกติเหมือนกับคุยกับคนธรรมดาที่ทำอยู่ทุกวัน

“เป็นแบบนี้นี่เอง นี่มันบังเอิญจริงๆ นะ”

“หึๆ .. ความบังเอิญงั้นเหรอ แต่ตัวข้ากลับมองว่ามันเป็นโชคชะตานำพามาพบเสียมากกว่า”

“…..”

ทสึรุไปต่อไม่เป็นเลยทีเดียว จะว่าไปเธอจะจำฉันได้ไหม เรื่องในคืนนั้น แต่ดูจากท่าทางแล้วเหมือนจะจำไม่ได้ด้วยสิ

(ในความเป็นจริง จูนี่พอรู้แล้วว่ามีคนมุ่งมาทางนี้เลยอยากจะยืนเก๊กแบบยอดนักสืบผู้รอบรู้จึงได้แสดงท่าทางแบบนั้นออกมา

ซึ่งจริงๆ แล้ว เจ้าตัวแค่ถูกเพื่อนวานมาให้ช่วยจัดการบางอย่างแทนเท่านั้น และเธอก็รู้แล้วว่าทสึรุกับเลทิเซียเป็นคนจากโรงเรียนเดียวกันกับตัวเอง

แน่นอนนั่นเป็นเพราะชุดที่ทสึรุใส่ นอกจากนี้ที่จริงแล้วศพของหมีไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่อยู่หน้าหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง แต่จูนี่ทุลักทุเลลากมาดักหน้าพวกทสึรุ

ซึ่งสังเกตจากลอยลากบนพื้นดิน แม้เจ้าตัวพยายามจะกลบเกลื่อนจนรอยลากไม่ใหญ่มากแต่ก็ยังเหลืออยู่

ในขณะที่ในหัวของจูนี่กำลังชูหมัดอย่างดีใจว่า “ความสำเร็จ (Achievement) ที่ห้าสิบสาม ‘ทำตัวเป็นนักสืบผู้รอบรู้ต่อหน้าคนไม่รู้จัก’ เสร็จสิ้น” และนี่คือความจริงภายใต้เหตุการณ์ที่พิลึกพิลั่นตรงหน้านี้

แน่นอนว่าจูนี่จำเลทิเซียไม่ได้ ไม่สิ เธอไม่เคยรู้จักหรือเคยเจอเลทิเซียมาก่อนด้วยซ้ำ ไม่แปลกที่จะไม่รู้จัก)

ฉันที่กำลังคิดแบบนั้นนั่นเอง จู่ๆ จูนี่ผู้หญิงนักสืบตรงหน้าก็จ้องเขม็งมาที่ฉันเหมือนกำลังมองอะไรสักอย่าง

“เจ้า…!”

เป็นไปไม่ได้หรือจะพบความกับฉันแล้ว เพราะแบบรี้ไงถึงไม่ชอบพวกนักสืบ! ในขณะที่กำลังคิดแบบนั้นเจ้าตัวก็เดินเข้ามา

“ข้ารู้สึกว่าเหมือนเคยเจอเจ้าที่ไหนนะ..?!”

“เอ๊ะ เลทิเซียเคยเจอกับคนคนนี้ด้วยเหรอ ไม่สิ.. ก็อยู่โรงเรียนเดียวกันนี่น่า”

จูนี่จ้องมาที่ข้าด้วยสายตาที่เหมือนพยายามนึกให้ออก หรือว่าเธอจะพึ่งจำฉันขึ้นมาได้แล้ว ?

แต่กว่าถ้าเธอจำไม่ได้ตอนนั้น ก็หมายความว่าเธออาจจะไม่เห็นหน้าฉันจริงๆ ก็ได้ ดังนั้นเลยนึกไม่ออกทันทีงั้นเหรอ ?

คงจะเป็นแบบนั้นสินะ (อันที่จริง เจ้าตัวแค่อยากทำตัวเหมือนว่า จัวข้านั้นเดจาวูเจ้า ตัวข้าในอีกโลกอาจจะเคยเจอกับเจ้ามาก่อน.. ก็เท่านั้น)

ในขณะที่ฉันกำลังรู้สึกว่าไม่ควรให้เธอจำเรื่องของฉันได้นั่นเอง ด้านหลังก็มีกลุ่มคนหลายสิบคนต่างพากันเดินมา

“กัปตัน นี่มันศพของหมียักษ์ที่ท่านบอกว่า มันหนีไปได้ไม่ใช่เหรอ?!”

ชายคนหนึ่งตกใจแล้วก็ตะโกนขึ้นด้วยความไม่พอใจ ฉันดูแล้วเหมือนพวกเขาจะผิดใจกันมาก่อนด้วยแหละมั้ง

คนที่ถูกตะโกนใส่เหมือนจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมหมวกโจรสลัดสีดำ คิดว่านะ.. ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าก็อึ้งไปพักหนึ่ง

“หัวหน้าคุณโกหกพวกเราอีกแล้ว ไหนคุณบอกว่าเจ้าหมีที่ฉันอยากได้มาเป็นสัตว์เลี้ยงนี่มันหนีไปแล้ว?”

“เฮ้ อย่าบอกนะว่าคุณทำตัวเป็นเด็กๆ ไม่กล้าฆ่าเจ้าของพันธสัญญาคนเก่าน่ะ? แล้วเรื่องที่ว่าไอ้จักรวรรดิอะไรนั่นชวนมาเป็นพวกนั่นล่ะ?”

“ให้ตายสิ คุณนี่มันไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้เลยจริงๆ ใช่ไหมพวกเรา ให้ตายสิพวกบ้าบนเรือมันจะไปคาดหวังอะไรกับผู้หญิง ถึงจะเป็นน้องของหัวหน้าคนเก่า แต่ก็ไม่ได้แปลว่าต้องมีฝีมือในการควบคุมและนำผู้อื่น”

ชายคนนั้นเหมือนได้ช่องว่างเหมือนกัน จากที่ฉันพอจะมองอออกดูเหมือนเจ้าตัวจะรอเวลานี้เหมือนกัน แต่ชายคนนั้นหรือคนอื่นๆ ไม่ได้สนใจเราเลย

หญิงสาวที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าก็พูดขึ้นด้วยคำพูดที่ค่อนน่ากลัว

“ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วก็ช่างมันเถอะ เรื่องที่จักรวรรดิขอความร่วมมือจากพวกเราน่ะเป็นเรื่องจริง ข้ายืนยันได้.. แต่ว่า.. เรื่องที่พวกเจ้าจะได้เข้าร่วมด้วยน่ะ มันไม่มีทางเกิดขึ้น”

เธอพูดขึ้นเสร็จ ฉันก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวทุกอย่างเข้าได้ บางทีคนเหล่านี้อาจจะเป็นโจรสลัด และเร็วๆ นี้ผู้นำคนก่อนอาจจะเสียชีวิตไป

น้องสาวจึงขึ้นเป็นหัวหน้า แต่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็มี จากท่าทางแล้วบางทีเจ้าคนที่พยายามด่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่อาจจะมีสิทธิ์ขึ้นเป็นกัปตันเรือได้

หรือว่าง่ายๆ ก็คงชิงดีชิงเด่นกันนั่นแหละ … ส่วนเรื่องหมีตัวนี้เมื่อนำมาประกอบกับคำพูดของจูนี่ ฉันก็เข้าใจบางอย่างขึ้นมา

แต่ฉันยังไม่ได้รีบหลบหนีเลยเพราะมันเกิดขึ้นจนเร็วมาก ผู้หญิงคนนั้นก็ยกบางอย่างขึ้นมาสิ่งนั้นทำให้ฉันถึงกลับแปลกใจ

เพราะสิ่งที่ฉันเห็นคือสิ่งที่ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นมาเลยตั้งแต่มาโลกนี้ แต่เหมือนว่าโจรสลัดหรือแม้แต่ทสึรุก็ไม่รู้จักมัน

สิ่งที่อยู่ในมือของผู้หญิงคนนั้นคือ ปืนคาบศิลา! ปืนที่มีลักษณะเรียบเนียนทำจากไม้.. มันเป็นปืนที่ค่อนข้างเก่ามากหากเทียบกับยุคที่ฉันอยู่

แต่ฉันไม่คิดว่าจะมีมันอยู่บนโลกใบนี้ ฉันรีบเอามือปิดหัวให้ทสึรุที่กำลังยืนงง และเอามือปิดตาลง วินาทีนั้นฉันได้รู้แล้วว่า

ต่อไปอีกไม่กี่นาที ตรงหน้าคงกลายเป็นภาพสังหารหมู่อย่างแน่นอน ต่อให้อีกฝ่ายสามารถใช้เวทมนตร์ได้ก็ตามทีเถอะ เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์นี้

แต่ก็ลองนึกดูแล้วกันว่าระหว่างความคิดคนกับกระสุนปืนอันไหนจะออกก่อนกัน… คงไม่ต้องบอกว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงปืน

และกะโหลกของชายคนนั้นก็ถูกเจาะด้วยกระสุนไปในทันที

………

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท