The Rise of Otaku – ตอนที่ 11

ตอนที่ 11

บทที่ 11 การวินิจฉัย

เมื่อเปิดประตูออกมา สิ่งแรกที่โจวหยูมองเห็นผ่านแว่นตาคือตัวละครการ์ตูนผู้หญิงที่น่ารักสองคนกำลังยืนอยู่หน้าบ้านของเขา

มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเล็กน้อยที่พวกเธอไม่ได้แต่งตัวเหมือนกับนักเรียนญี่ปุ่น

‘เอ่อ!…พวกเธอมีธุระอะไรกับฉันเปล่านะ?’ โจวหยูรู้สึกแปลกใจกับการมาถึงของคนกลุ่มนี้ โดยปกติแล้วคนที่ชอบมาบ้านของเขานั้นจะเป็นเหล่าเด็กซนที่ต้องการว่ายน้ำหรือเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าบางคนที่ชอบเล่นหมากรุกใต้ต้นไทร

‘หรือว่าบางทีนี้มันอาจเป็นวันโชคดีของเขาในวันนี้ก็ได้’ ในใจของโจวหยูคิดแบบนั้น แต่สิ่งที่เขาพูดออกไปนั้น เป็นอะไรที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่เขาคิด

“พวกเธอต้องการอะไร?”

แม้ว่าการได้เห็นตัวการ์ตูนผู้หญิงน่ารักทั้งสองคนนี้จะทำให้โจวหยูรู้สึกตื่นเต้นก็ตาม แต่การแสดงออกทางใบหน้าของเขาก็ยังคงเป็นอะไรที่เงียบสงบและไม่มีการเปลี่ยนแปลง นั้นรวมไปถึงการใช้คำพูดเชิงลบที่เขาชอบใช้เองก็ได้ถูกพูดขึ้นมา

‘นี่!…เขาพูดว่าอะไรนะ?!’

ผู้หญิงทั้งสองที่ได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังโมโหขึ้นมา โชคดีที่เหอหยวนหยวนเป็นคนใจกว้าง ดังนั้นเธอจึงไม่นำคำพูดก่อนหน้านี้ของอีกฝ่ายมาใส่ใจ

“ ไม่มีอะไร! ฉันแค่ได้ยินมาว่านายทำศาลาเล็กๆที่สวยงามเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราจึงมาที่นี้เพื่อมาดูมัน! ฉันหวังว่านายคงจะไม่รังเกียจกับเรื่องนี้นะ!”

‘โอ้! ที่แท้มันก็เป็นอย่างนี่นี้เอง’ โจวหยูคิดขึ้นมา

ศาลาแห่งลมและฝนได้อยู่ติดกับบ่อน้ำแห้ง ในขณะนี้พวกราชามังกรเฒ่าและช่างไม้บีเวอร์กำลังเล่นหมากรุกอยู่ที่นั่น เนื่องจากคนอื่นไม่สามารถมองเห็นพวกมันได้ ดังนั้นระหว่างที่ทั้งสองกำลังเล่นเกมหมากรุกกันอยู่นั้นเอง ตัวของโจวหยูจึงได้กลับมาที่บ้านของเขาเพื่อล้างหน้าและแปรงฟันเสียพร้อมกับความเจ็บปวดตามร่างกาย

ที่มันเป็นแบบนี้ก็เนื่องจาก เมื่อวานนี้เมื่อเขาได้ออกไปมองหาสัตว์ตัวเล็กๆตัวอื่นๆเพิ่มเต็ม และในระหว่างทำภารกิจอยู่นั้นเอง เขาก็ได้เจอกับสัตว์ตัวเล็กๆที่เรียกว่าลิงเส้าหลิน มันได้ท้าทายให้เขาแข่งขันเทคนิคกับมัน และไม่ต้องบอกถึงผลที่ออกมา เพราะเขานั้นได้ถูกมันถูกทุบตีอย่างรุนแรงด้วยท่าไม่ตายของพระเอกในอนิเมะเทคนิคเรื่องดัง ขนาดเมื่อเช้านี้ที่เขาตื่นขึ้นมาเขายังรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอยู่เลย

ทางด้านของเหอหยวนหยวนนั้น เมื่อเธอได้เข้ามาถึงบริเวณลานบ้าน เธอก็ได้สังเกตว่าตัวลานบ้านนั้นดูทรุดโทรมเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีใครคอยดูแลมาซักระยะหนึ่งแล้ว

อย่างไรก็ตามศาลาเล็กๆนั้นเป็นเหมือนกับที่โจวเฮาน้องของเธอพูดเอาไว้เลย มันดูสวยงามมาก จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนสร้างศาลานี้ขึ้นมานั้นจะต้องมีความชำนาญในงานฝีมือและมีความอดทนเป็นพิเศษ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เกินกว่าคนธรรมดาทั่วไปจะมีได้

ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีพวกต้นไม้และดอกไม้ในกระถางสวยๆจำนวนหนึ่งในลานหน้าบ้านอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดได้ถูกตัดแต่งเป็นรูปทรงที่หลากหลาย ดูเหมือนว่ามันจะแสดงถึงรูปแบบศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์และชุดรูปแบบที่สร้างสรรค์อย่างมาก

เธอต้องยอมรับว่าชายที่ชื่อว่าโจวหยูนั้นมีทักษะบางอย่าง อย่างไรก็ตามนี่ไม่ควรจะเป็นงานอดิเรกของชายหนุ่ม เพราะการดูแลดอกไม้และพืช การประดิษฐ์หัตถกรรม ฯลฯ … มันควรจะเป็นงานของคนที่มีอายุมากแล้วอย่างคุณปู่ของเธอ

และมันยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่ชายผู้มีพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่แบบนี้จะอยู่ติดบ้านมานานๆ ถ้าเขามีทักษะที่น่าทึ่งแบบนี้ ทำไม่เขาถึงต้องยอมทนอยู่กับสถานการณ์แบบนี้! ทำไมเขาถึงไม่ออกไปสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองกัน!

เมื่อโจวหยูได้ออกจากบ้านของเขาอีกครั้ง เหอหยวนหยวนก็ได้เป็นคนริเริ่มที่จะเป็นคนพูดคุยกับเขาเป็นคนแรก และสิ่งที่เธอหยิบขึ้นมาเป็นหัวข้อนั้นก็คือเรื่องเกี่ยวกับงานทำสวน เพราะเธอรู้สึกว่าถึงเธอจะสามารถหาหัวข้อทั่วไปมาพูดกับเขาได้ มันคงจบลงโดยเร็ว แต่ถ้ามันเป็นหัวข้อที่เขาชอบอย่างพวกงานสวน มันอาจจะทำให้ภารกิจที่เธอได้รับมาจากปู่ของเธอสำเร็จก็ได้

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอไม่คาดหวังคือโจวหยูได้มองมาที่เธอด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “ ฉันไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนชอบทำสวนด้วย? ทุกวันนี้คนหนุ่มสาวที่มีงานอดิเรกแบบนี้หายากจริงๆ? หรือว่าตอนนี้มันกำลังเป็นเทรนใหม่ของวัยรุ่นกัน?”

‘งานอดิเรกพิเศษก้นนายสิ!’

เหอหยวนหยวนถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเธอได้ฟังคำที่โจวหยูพูดออกมา ‘นี้มันเกิดอะไรขึ้น? แค่นายมีความสามารถในการทำสวนและงานฝีมือนิดหน่อย นายถึงกับกล้ามาพูดจาเยาะเย้ยฉันเหรอ?’

โจวชูวหยูซึ่งอยู่ข้างเธอก็ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา นี้แสดงให้เห็นว่าชายที่ชื่อโจวหยูคนนี้เป็นคนพิเศษอย่างแท้จริง เขาถึงกับมีความสามารถที่ทำให้เพื่อนของเธอที่ขึ้นชื่อว่าฝีปากกล้ายังต้องแพ้เมื่อเจอกับเรื่องนี้

แม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้เริ่มต้นที่ดีนัก แต่ในที่สุดพวกเธอก็ยังต้องรู้จักกัน พวกเธอยังได้เรียนรู้ว่าโจวหยูนั้นเป็นนักเขียนนิยายออนไลน์อีกด้วย เขามักจะเขียนนิยายสั้นๆเพื่อหาเงินค่าขนม นี้อาจจะไม่ใช่ทางเลือกอาชีพที่ดีมากนัก แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพ่อแม่ของเขา

แม้ว่าเหอหยวนหยวนจะไม่รู้เกี่ยวกับการทำสวนและงานฝีมือ แต่เธอคิดว่าถ้าโจวหยูให้ความสนใจกับเรื่องนี้ให้มากขึ้น มันจะเป็นอะไรที่เหมาะมากกว่าการเขียนนิยาย เพราะอย่างน้อยเขาก็สามารถสร้างรายได้จำนวนมากกว่าการเขียนนิยายออนไลน์สั้นๆพวกนั้น

หลังจากพูดคุยกับโจวหยูซักพักแล้ว คำถามอื่นๆก็เริ่มปรากฏมากขึ้น ปู่ของเธอเคยพูดเอาไว้ว่าโจวหยูนั้นมีปัญหาด้านจิตใจ แต่จากบทสนทนาที่เธอมีกับโจวหยู มันแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายดูค่อนข้างปกติดี ไม่มีอาการป่วยทางจิตแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามเธอไม่ต้องการที่จะสรุปผลนี้รวดเร็วเกินไปนัก เธอคิดว่าเธอจะต้องคอยสังเกตเขาอีกสองสามวัน …

หลังจากส่งผู้หญิงทั้งสองคนออกไปแล้ว โจวหยูได้ยกมือขึ้นตบแก้มของเขาแรงๆ เขารู้สึกว่าการพูดคุยในครึ่งวันนี้ของเขา มันเกือบจะเป็นการพูดมากที่สุดตลอดปีที่ผ่านมาเสียอีก นอกจากนี้การที่เขาได้มองพวกเธอผ่านสายตาของโลก ACG มันกับทำให้การกระทำของพวกเธอนั้นเป็นอะไรที่น่าจดจำมากขึ้น

เขาไม่รู้ว่าเป็นใครกันส่งพวกเธอมาหาเขา แต่ถ้าจะให้เขาเดาเขาก็คงเดาว่าคงเป็นพ่อของเขาที่ส่งพวกเธอมา ไม่อย่างนั้นจะไม่มีทางที่จะมีผู้หญิงน่ารักถึงสองคนมาเยี่ยมเขาถึงที่บ้าน?

หลังจากนั้นไม่นานเมื่อเขามองดูเวลา มันก็เป็นช่วงเวลาที่เขาจะต้องไปตกปลาแล้ว และกลุ่มเด็กๆเองก็ได้มารวมตัวกันในบ้านของเขาแล้วเช่นกัน

เหล่าเด็กพวกนั้นต่างก็ทำท่าทางเหมือนกับว่าตัวเองกำลังรอ “ทหารรักษาพระองค์” อะไรอย่างนั้นอยู่

‘เฮ้อ!…ยังไงเราก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไรอยู่แล้ว’

…………………………

ตลอดทั้งสัปดาห์เหอหยวนหยวนและโจวชูวหยูจะไปที่บ้านของโจวหยูถ้าพวกเธอไม่มีอะไรทำ ในไม่ช้าพวกเธอก็กลายเป็นแขกประจำของโจวหยู นอกเหนือจากภารกิจที่ปู่ของเธอมอบให้แล้ว เธอก็ไม่ได้มีอะไรทำเป็นพิเศษ แต่อย่างน้อยก็มีคนแปลกหน้า – โจวหยูที่พวกเธอสามารถมาพูดคุยได้

เพราะแบบนั้น มันจึงทำให้โจวหยูมีเวลาว่างเพียงช่วงกลางคืนเท่านั้น และนั้นก็เป็นช่วงเวลาเดียวที่เขาจะทำให้อัพโหลดการ์ตูนบทใหม่ได้ ในแง่ของเวลาที่เหลือนั้น คอมพิวเตอร์ของเขาจะถูกใช้โดยผู้หญิงสองคนนั้น โชคดีที่วิดีโอผู้ใหญ่ทั้งหมดที่เขาเคยมีได้ถูกเขาลบออกไปนานแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเธอทั้งสองเห็นมันเข้า

หลังจากหนึ่งสัปดาห์ของการปฏิสัมพันธ์ เหอหยวนหยวนคิดว่าโจวหยูนั้นไม่ได้มีปัญหาทางจิตใดๆ นอกเหนือจากการที่เขาไม่เคยชอบพูดอะไรและการแสดงอาการห่างเหินกับคนรอบข้างเท่านั้น จริงๆแล้วการพูดคุยกับเขาไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่เขาก็มีพฤติกรรมแปลกๆเป็นบางครั้ง

พฤติกรรมแปลกๆอย่างที่ 1 ที่เธอพบก็คือ : เขาจะออกไปตกปลาทุกวัน แต่แน่นอนว่าเขาจะไม่สามารถจับปลาได้

เธอเองได้ทำการทดลองเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน ถึงแม้ว่าเธอที่ไม่ได้มีทักษะการตกปลาเลย แต่เธอก็ยังจับอะไรบาง อย่างไรก็ตามคนที่ไปตกปลาทุกวันอย่างโจวหยูนั้นกับไม่สามารถจับอะไรได้เลย แต่ถ้ามองในมุมมองกลับกันนี้ก็แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง เพราะเขานั้นไม่ได้ฆ่าสัตว์นั้นเอง

พฤติกรรมแปลกๆอย่างที่ 2 ที่เธอพบ : เขามักจะเดินเล่นในหมู่บ้านในช่วงกลางวัน โดยไม่มีรูปแบบเฉพาะ บางครั้งเขาก็จะทำอะไรที่แปลกๆ เช่น เขาจะเริ่มวิ่งไปรอบๆหมู่บ้านทันที หรือเมื่อตอนที่เขาอยู่คนเดียว และกำลังกำลังทำท่าทางเล่นแบดมินตันกับใครบางคน สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดคือเขาถึงกับต่อสู้กับอากาศ และเขาก็ทำท่ามันเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นกำลังโจมตีเขาอีกด้วย

เหอหยวนหยวนได้เป็นพยานลับๆกับเหตุการณ์นี้มากกว่าหนึ่งครั้ง ในขณะที่เธอแอบตามเขาไป เธอตกตะลึงอย่างสมบูรณ์เป็นครั้งแรก เมื่อเธอเห็นโจวหยูถูกส่งขึ้นไปในอากาศราวกับว่ามีคนมองไม่เห็นเตะเขา

หลังจากนั้นเธอได้เข้าไปตรวจสอบสถานที่นั้นถึงสองสามครั้งหลังจากโจวหยูออกไป แต่เป็นที่ชัดเจนว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่น

ในที่สุดหลังจากสิ่งที่เธอสังเกตเห็นมาทั้งหมด เธอก็ได้สรุปว่าโจวหยูนั้นมีอาการทางจิตจริงๆ แต่มันจะแสดงออกมาเป็นระยะ นั้นหมายความว่าเขาจะทำตัวเหมือนคนปกติตลอดเวลา แต่ถ้าเขารู้สึกหงุดหงิดกับบางสิ่งบางอย่าง มันจะทำให้เขาเกิดอาการจิตวิปลาสขึ้นมา โดยปกติแล้วบุคคลประเภทนี้ควรอยู่ห่างจากคนอื่น เพราะไม่มีใครรู้ว่าอะไรอีกฝ่ายจะทำอะไรบ้างหลังจากเกิดอาการขึ้นมา

บางทีเขาอาจรู้ว่าเขาป่วยเป็นโรคนี้ ดังนั่นนี้จึงเป็นสาเหตุที่เขาต้องการย้ายไปยังหมู่บ้านที่เงียบสงบแห่งนี้

ยิ่งเหอหยวนหยวนคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เธอก็พอใจกับการใช้เหตุผลที่ผิดๆของเธอมากขึ้นเท่านั้น

โจวหยูผู้ซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเป็นระยะๆนั้น ตอนนี้เขากำลังยุ่งอยู่กับการจับสัตว์ร้ายตัวที่สิบอยู่ เขาไม่มีโชคเมื่อวานนี้ สัตว์ตัวเล็กๆตัวแรกที่เขาเจอเมื่อวานวันนี้คือมังกรไฟที่ต้องการท้าทายให้เข้าแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบใช้ขา ในที่สุดเขาก็เกือบจะถูกมันเตะด้วยท่าเท้าสายฟ้าฟาดออกมา ซึ่งเขาได้เห็นจริงๆว่ามันมีสายฟ้าออกมาจริงๆ

‘พระเจ้า! ฉันสงสัยจริงๆว่าหมูบ้านมีศูนย์ฝึกศิลปะป้องกันตัวอยู่ไหม? ถ้ามีฉันจะต้องรีบไปสมัครโดยด่วน! ไม่อย่างนั้นไม่ช้าก็เร็วฉันคงต้องถูกพวกสัตว์เล็กๆเหล่านั้นทรมานจนตายอย่างแน่นอน ‘

เมื่อเทียบกับเมื่อวานนี้ โจวหยูค่อนข้างโชคดีในวันนี้ แม้ว่าเขาจะล้มเหลวในสามครั้งแรก แต่ในที่สุดเขาก็ได้เจอกับโชคดี เขาได้เจอเต่าที่แต่งชุดเหมือนกับนักศึกษาสมัยโบราณ มันต้องการให้เขาแข่งขันในการคัดลายมือแบบจีน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคู่แข่งที่สง่างามแบบนี้

โจวหยูได้เรียนรู้การเขียนตัวอักษรจีนในโรงเรียน และเขายังได้รับรางวัลชนะเลิศนี้อีกด้วย มันเป็นหนึ่งในข้อดีไม่กี่อย่างที่เขามี แต่มันก็เกิดปัญหาขึ้นมา เขาไม่รู้ว่าจะวิธีที่ไหนในการติดสินผลแพ้ชนะ เนื่องจากบริเวณนี้ไม่ได้มีกรรมการหรือกฎอะไรที่ใช้บอกวิธีตัดสินได้ ซึ่งหากกฏที่ใช้ในการแข่งขันนั้นแตกต่างจากโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว เขาอาจจะพบกับสูญเสียเป็นอย่างมาก

โชคดีที่โลก ACG ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง ในเวลานี้หลังจากที่เฒ่านักศึกษาได้เห็นถึงการคัดรายมือของโจวหยู มันก็ได้เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ทันที

‘พระเจ้า! ในที่สุดฉันก็มีการ์ดทั้งหมดสิบใบแล้ว’

The Rise of Otaku

The Rise of Otaku

เรื่องย่อย

โจวหยูเป็นโอตาคุที่รักสันโดษ ซึ่งเขานั้นเป็นคนที่ไม่ชอบออกจากบ้านของตัวเอง

แต่เขาก็ถูกบังคับให้ออกจากบ้านโดยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในวันหนึ่ง…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท