การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 232

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 232 – อาณาจักรอนันต์?

จักรพรรดิมังกรริสเวลแสดงสีหน้าเคร่งขรึมออกมา หากเกิดการต่อสู้ขึ้นที่นี่ มีความเป็นไปได้ว่าจะแพ้ราบคาบสูงมาก

นอกจากจะมีผู้กล้า เทพแล้วยังมีจอมมารมาเพิ่มอีก เขาไม่คิดว่าเพียงแค่เขากับจอมมารคาริลจะสามารถรับมือกับคนทั้งสามได้เลย

อันที่จริงเขากับจอมมารคาริลก็ไม่ได้ถือว่าเป็นพันธมิตรกันดังนั้นหากอีกฝ่ายจะตีหน้าสื่อเข้าร่วมกับฝ่ายจอมมารที่เป็นเผ่าเดียวกันก็ได้

ดังนั้นมันจึงทำให้เขาลังเล แม้จะมีความหยิ่งผยองอหังการ แต่ในความเป้นจริงเขาก็ยังนับว่าเป็นผู้นำ หากผู้นำก้าวนำหน้าได้ไม่ดี

มันก็ต้องส่งผลต่อผู้ตามทุกคน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เอาอารมณ์มาใช้เพียงอย่างเดียว บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบ จักรพรรดิมังกรริสเวลจ้องไปที่เอลร่า

ก่อนที่จะกวาดสายตาผ่านเลเวียและลูเซียโน่ไปหยุดอยู่ตรงที่เลทิเซียนั่นอยู่ เขากัดฟันเบาๆ

“ถอยไม่ได้แล้วล่ะ”

เขาพึมพำกับตัวเอง หากปล่อยไว้ตรงนี้ไม่เพียงแต่พวกศัตรูตัวเองจะมีผู้แข็งแกร่งเพิ่มเข้าไปในฝ่ายนั้นอย่างเลทิเซีย

ยังมีโอกาสที่จอมมาร ผู้กล้าและเทพจะตั้งตัวเป็นพันธมิตรกัน หากเป็นเช่นนั้นแผนการทุกอย่างที่เตรียมมาก็พังไม่เป็นท่าเป็นแน่

เขากัดฟัน.. “มีแต่ต้องใช้ประโยชน์จากพวกนั้นสินะ”

เขาคิดได้แบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นท้องฟ้าพร้อมกับคำรามลั่นออกมา

“เรียกพวกเหรอ..?”

ลูเซียโน่โพลงออกมาทันที มังกรคำรน คือทักษะที่จะปล่อยคลื่่นเสียงที่เพียงพอจะทำลายหัวของทุกสิ่งมีชีวิตในระยะใกล้ได้หมด

แต่ในที่แห่งนี้ไม่มีใครที่สามารถตายจากการใช้เสียมังกรคำรนของเขาแน่ๆ ดังนั้นความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวคือเรียกพรรคพวก

ต่อให้อยู่ไกลแค่ไหนก็ตามหากมีชนเผ่าเดียวกันดำรงอยู่พวกเขาก็จะตอบสนองต่อเสียงนี้ทันที

“ไม่ยอมให้ทำหรอก”

ลูเซียโน่กล่าวแสงสีทองจากท้องฟ้าบดบังความมืดมิดทั้งทั้งมวลปะทะเข้ากลับคลื่นเสียงที่ไร้รูปร่าง ไม่ใช่แค่ลูเซียโน่ทั้งเลเวียและเอลร่าก็เคลื่อนไหว

โจมตีไปยังจักรพรรดิมังกรริสเวล จอมมารคาริลที่เห็นเช่นนี้เขากลับไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร ราวกับว่ากำลังดูท่าทีอยู่

“ท่านบรรพบุรุษ ได้โปรดทวงคืนความยุติธรรมให้แก่เผ่าเรา”

เสียงของจักรพรรดิมังกรริสเวลดังขึ้นในตอนนั้นเองเวลาก็ราวกับหยุดเดินแต่ทุกคนกลับรู้สึกได้ชัดเจนว่าเวลามันไม่ได้หยุดเดิน

เพียงแต่ทุกอย่างมันหยุดนิ่งลง แม้กระทั่งตัวของเลเวียก็ยังถูกหยุดนิ่งยกเว้นแพรสีทองที่เหมือนจะไม่มีผลกระทบใดๆ

ตามมาด้วยเสียงหาวนอนของเด็กคนหนึ่ง ในความเงียบที่ทุกอย่างหยุดนิ่งเสียงหาวนอนนี้ไม่ได้ดังอะไรเลยแต่ก็ได้ยินชัดเจน

“เฮ้ออ นี่เจ้าคิดว่าเทพมังกรเป็นคนรับใช้เจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กันเจ้าเลือดผสมนี่”

ในตอนนั้นเองกลางอากาศก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นเธอมีผมสีเทาตาสีเทา ผมด้านหลังถูกมัดรวบขึ้นมาแบบเกียจค้านมันเลยดูยุ่งๆ

เธอลอยขดตัวอยู่กลางอากาศกอดตุ๊กตาสีดำชุดสีดำที่เปิดไหล่เปิดต้นขาที่ข้อเท้ามีปลอกเหล็กติดอยู่ที่คอก็มีปลอกคอติดอยู่

เธอทำหน้าตาสะลึมสะลือเหมือนคนพึ่งตื่นนอน.. สายตาทุกคนหันไปมองด้านบนด้วยความตกใจ..

“นั่น…”

เลเวียที่เห็นท่าทางของอีกฝ่ายมันก็ทำให้เธออดที่จะตะลึงไม่ได้เพราะไม่ว่าจะรูปแบบพลังหรือลักษณะทางกายภาพก็ดูแปลกตาเป็นอย่างมาก

จริงอยู่ที่สัตว์อสูรรูปร่างคล้ายมนุษย์ไม่ควรมีอยู่บนโลกนี้ สำหรับกึ่งมนุษย์นั้นมีอยู่ก็จริง แต่คนที่มีเขาเหมือนมังกรมันไม่ควรจะมีอยู่บนโลกนี้นอกจากริสเวล

จริงอยู่ที่ว่าริสเวลมีรูปร่างอย่างที่ว่า แต่มันก็มีแค่เขาคนเดียวบนโลกเท่านั้นล่ะ เพราะว่าเขาสืบทอดฐานะจักรพรรดิมังกรจึงเป็นคนที่มีสายเลือดมังกรไหลเวียนอยู่มากที่สุดจนมีเขางอกออกมา

และไม่ใช่ทุกคนที่จะล่วงรู้ความลับนี้ แต่ว่าตรงหน้ากลับมีคนที่มีลักษณะคล้ายกับจักรพรรดิมังกรริสเวลปรากฏออกมา

แถมยังมีพลังที่ปล่อยออกมาอย่างพิลึกพิลั่น… ดังนั้นเลเวียจึงตอบสนองทันทีแพรสีทองปลดปล่อยพลังการควบคุมกฎเกณฑ์บางอย่างออกมา

“นี่มัน…”

ทันทีที่เลเวียใช้พลังเธอก้เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงหยุดทุกอย่างไว้ได้.. สิ่งที่อีกฝ่ายทำน่ะไม่ใช่แค่การหยุดเวลาหรือหยุดร่างกายเพียงเท่านั้น

แต่มันเป็นการแช่แข็งระบบกฎเกณฑ์ต่างๆ ของโลก เพราะแพรสี่มิติของเลเวียมันเลยทำให้เธอสามารถควบคุมทุกกฎเกณฑ์ได้ตามต้องการ

ถึงถ้าหากเล่นเกินไปจะโดนเทพสูงสุดลงโทษก็เถอะ แต่โดยรวมแล้วก็สามารถทำได้ทุกอย่างและทันทีที่เธอแก้ไขกฎเกณฑ์ที่ตัวเองถูกหยุดมันเลยทำให้เธอเข้าใจพลังของอีกฝ่าย

เธอแช่แข็งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แช่แข็งห้วงมิติระยะหรือเวลา ร่างกาย เหตุและผล.. คนที่ทำแบบนั้นได้.. มันควรจะมีแค่เทพ…

ต่อให้เป็นจอมมารหรือผู้กล้าก็ไม่อาจทำได้.. แต่เหตุการณ์เบื้องหน้านี้มันทำให้เลเวียรู้สึกตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก

แต่อย่างไรก็ตามราวกับว่าพลังของแพรสี่มิติเธอเหนือกว่ามันเลยทำให้เธอช่วงชิงกฎเกณฑ์ของตัวเองคืนมาได้และคืนให้แก่เอลร่าและลูเซียโน่

“อ่า.. เมื่อกี้..”

ลูเซียโน่หอบหายใจอย่างยากลำบาก เอลร่าก็มีสภาพไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก.. พอมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เด็กผู้หญิงที่นอนขดตัวกอดตุ๊กตาอยู่กลางอากาศก็หันไปมองเลเวียอย่างงประหลาดใจ

“เห่.. เจ้าเป็นเทพของโลกนี้อย่างนั้นเหรอ.. แบบนี้เองสินะ. เทพมีพลังเทียบเท่ากับอาณาจักรที่สี่สินะ.. อืมๆ” (Four-Domian)

หญิงสาวเริ่มพ่นวาจาแปลกๆ ออกมา เธอที่หันไปมองเลเวียพยายามจะมองอย่างละเอียดแต่สายตาก็หันไปเห็นเลทิเซียที่นั่งอยู่บนบัลลังก์

“อ่า.. เด็กนี่ยังไม่ตายเหรอเนี่ย?”

เธอพูดด้วยความตกใจ คำพูดของเธอเหมือนคนที่เคยเจอเลทิเซียมาก่อนหน้านี้และบางทีคงไม่ใช่เรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นเร็วๆ นี้

และแน่นอนว่าเสียงตกใจของเธอทำให้ทุกคนหันไปมองเลทิเซียโดยเฉพาะจักรพรรดิมังกรริสเวล.. ทำไม.. ไอ้สัตว์ประหลาดนั่นถึงได้รู้จักท่านบรรพบุรุษจากต่างแดน..?

นั่นคือคำถามที่ลอยเข้ามาในหัวของเขาทันที.. แต่ยังไม่ทันได้ตั้งคำถามอะไรเลย ก็มีฝ่ามือปรากฏขึ้นกลางอากาศเขกใส่หัวเด็กหญิงขี้เซาตรงหน้า

“แอ่ฟ ข้าเจ็บนะท่านพี่”

“ใครบอกให้เจ้าออกมาจากห้องโดยพลการละ เฟรย์ย่า เดี๋ยวกลับไป ข้าจะลงโทษเจ้าเอง”

“เอ๋ ทำไมอะ! ข้าแค่ออกมาแทนท่านพี่เองนะ เพราะกลัวว่าเจ้าพวกบ้านี่จะไปรบกวนท่านพี่เลยนะ”

“ไม่ต้องมาเถียง”

ฝ่ามือนั้นฟาดลงไปยังหัวของเฟรย์ย่าอีกครั้งก่อนที่จะมีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏขึ้นข้างๆ เธอมีผมสีเทาตาสีเทาเขายาวไปด้านหลังเหมือนเฟรย์ย่าทุกระเบียบนิ้ว

เพียงแต่ว่าผมสีเทาของเธอยาวสลวยไปจนถึงเอว สวมชุดเรียบร้อยมีระเบียบไม่มีปลอกคอเหมือนเฟรย์ย่า.. มีเพิ่มมาอีกคนแล้ว! โลกนี้มันเป็นอะไรไปหมดแล้ว!

ใช่แล้ว.. เธอคนนี้คือเฟรย์ย่าในตอนนั้นตอนที่เลทิเซียกับทสึรุไปเจอเข้าในมิติชิ้นส่วนเวหา! หนึ่งในสิบสองมังกรที่แข็งแกร่งที่สุด

เทพมังกรแห่งความสิ้นหวัง ผู้รั้งอยู่อันกับสองจากอันดับทั้งหมด เฟรย์ย่า

และไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกคนคือใคร.. เธอคือหนึ่งในสิบสองมังกรที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกผู้รั้งอยู่อันดับที่หนึ่ง..

เทพมังกรแห่งวินัย เมย์อา.. พี่สาวของเฟรย์ย่า.. มังกรที่แข็งแกร่งที่สุดในอดีตกาลจากโลกแห่งชิ้นส่วนเวหา!

“ท่านพี่ตีแต่ข้าอ่าาาา”

เมย์อาเมินเฟรย์ย่าเธอหันไปมองจักรพรรดิมังกรริสเวล ทันทีที่สายตาอันสูงส่งนั้นจดจ้องมาที่เขาจักรพรรดิมังกรริสเวลก็ก้มหน้าลง

ไร้ซึ่งความหยิ่งยโสต่างจากตอนอยู่ต่อหน้าผู้กล้าหรือจอมมาร แม้แต่เทพ.. เพราะสิ่งมีชีวิตตรงหน้าเขา.. คือเทพมังกร

ว่ากันตามตรงคงไม่ต่างจากเทพเท่าไหร่นัก.. แต่ของแบบนั้นมันมีบนโลกที่ไหนกันล่ะ.. แต่ทว่าตอนนี้มันก็มีแล้ว!

“เจ้าหนู ข้าเคยบอกไปแล้วนะว่าข้าไม่คิดจะช่วยเจ้าทำสงครามหรือยึดดินแดน สิ่งที่ข้าจะทำก็มีแค่ปกป้องเผ่ามังกรเท่านั้น แม้พวกเจ้าจะมีสายเลือดมังกรผสมอยู่น้อยนิดแต่ก็นับว่าเป็นเผ่ามังกร.. แต่อย่าได้เข้าใจผิดว่าตนคือมังกร”

“ข้าทราบ.. เพียงแต่ว่าสัตว์ประหลาดที่อยู่ตรงนั้น.. ข้าคิดว่ามันจะเป็นภัยต่อพวกเราในอนาคต.. ได้โปรดท่านช่วยตัดสิน”

“อืม..”

เมย์อากวาดสายตาผ่านไปหยุดชะงักที่เลเวีย..

“อาณาจักรที่สี่..?”

ก่อนที่จะหันไปหยุดที่เลทิเซีย ทันทีที่จ้องไปที่เลทิเซียสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไป ขยี้ตาอีกทีหนึ่งเพื่อจ้องมองอีกรอบ..

“อาณาจักรอนันต์..? ข้าตาฝาดเหรอ?”

เธอพึมพำ.. หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่งเธอก็ตัดสินใจโดยไม่ลังเล ชี้นิ้วไปที่เลทิเซียก่อนที่จะมีลำแสงสีขาวเส้นหนึ่งพุ่งทะลุไปใส่เลทิเซียอย่างรวดเร็วโดยไม่มีใครต้านทานได้ทัน

“เดี๋ยว”

เลเวียตะโกนออกมาอย่างไรก็ตามเพราะมัวแต่ตกใจอยู่การโจมตีกะทันหันมันเลยทำให้เธอหยุดไม่ทัน

แต่ทว่าในตอนนั้นเอง..

“เจ้ามังกรจากต่างแดน เจ้ากล้า!!?”

……

[อธิบายเสริมนิดหน่อย ท่านแม่เทพโกงที่สุดนะ เผื่อคนเข้าใจผิดว่าทำไมท่านแม่จอมมารเก่งกว่า ตามหลักคือผู้กล้าจอมมารแล้วค่อยไปเทพ แค่บทตรงนี้มันเขียนมาอวยขุ่นแม่จอมมาร บทขุ่นแม่เทพเลยไม่ได้โชว์เทพ ฮ่า – ผู้เขียน]

[Note นิดหน่อย อาณาจักรที่บ่งบอกว่าเป็นประเทศในที่นี้เราจะใช้เป็นคำว่า Kingdom, empire หรืออะไรก็เป็นไปได้หมด ส่วนอาณาจักรในนิยามความหมายของสองพี่น้องมังกรพูดจะเป็น Domain นะครับ คนละนิยามนะ]

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท