การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 246

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 246 – สเตฟานี่.. ข้าจะไปหาเจ้าแล้วนะ

ปากเลทิเซียสั่นเครือ… ภาพตรงหน้ามันเป็นภาพที่เซเรสแขวนดคออยู่กับเชือกเท้าลอยเหนือพื้น..

“เซเรส.. ทำไม…กัน”

เลทิเซียสับสน.. อ่า.. ทำไม.. ทำไมถึงเป็นแบบนี้อีกแล้วล่ะ.. เลทิเซียวิ่งเข้าไปหาเซเรสพร้อมกับใช้เวทมนตร์ตัดเชือก

ร่างกายเธอร่วงลงมาในอ้อมแขนของเลทิเซียอย่างอ่อนโยน.. ทว่าเซเรสในตอนนี้ไดตายไปแล้ว..

เธอไม่หายใจแล้ว.. เลทิเซียได้แต่เพียงจ้องมองอย่างโง่งมไม่อาจกล่าวคำอะไรออกมาได้.. และในตอนนั้นเองเธอก็เงยหน้าขึ้น..

“ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ ตาย.. ตายกันไปหมดแล้ว.. ทุกคนตายไปหมดแล้ว… ฮ่าๆ พระเจ้า… พอใจแกหรือยัง”

เลทิเซียหัวเราะออกมาพยายามไม่ก้มหน้าลงเพราะกลัวน้ำตาจะไหลออกจากดวงตา แต่น่าเสียดายที่น้ำตานั้นก็ยังไหลออกมาอยู่ดี

เสียงหัวเราะของเธอราวกับมันระบายอารมณ์ที่มากมายเหลือจะกล่าวไปในตอนนี้ได้อย่างหมดสิ้น

เสียใจ เศร้าใจ เจ็บปวดอารมณ์ที่ไม่อาจบอกกล่าวออกมาได้ทั้งหมดถูกระบายผ่านเสียงหัวเราะของเธอ

ในคืนนี้.. คืนวันนี้ภายในโรงเรียนได้มีคนตายถึงสองคน.. แถมเป็นคนที่สนิทกับเลทิเซียทั้งสิ้น

จะไม่ให้เรียกพระเจ้าเล่นตลกกับเธอแล้วจะให้เรียกอะไรกันล่ะ เธอได้แต่เพียงหัวเราะออกมาราวกับคนไร้สติ

หากถามว่าทำไม.. คงไม่มีใครเข้าใจว่าทำไมเช่นกัน แม้แต่ตัวเซเรสเองบางทีเธอก็คงสับสนไม่ต่างกัน…

ในตอนนั้นตอนที่เธอสติแตกและเห็นภาพหลอนสมองเธอที่เหมือนจะทำงานผิดปกติจากฝีมือของเลทิเซียก็เหมือนจะเปลี่ยนไป

ว่าง่ายๆ ก็คือในเวลานั้นเธอไม่ใช่เซเรสที่เป็นอัจฉริยะแห่งเวทมนตร์อีกต่อไป.. แต่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง

และเธอก็จำเรื่องราวในอดีตทุกอย่างได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่แม่ตาย เรื่องที่เธอต้องมอบรอยยิ้มให้คนอื่นเสมอเหมือนกับคนคนหนึ่ง

และครอบครัวที่โหดร้ายกับเธอ.. ครอบครัวบัดซบแบบนั้นเธอไม่ได้สนใจแต่แรกอยู่แล้ว.. ทว่าเธอในตอนที่สูญเสียความทรงจำไป

เธอกลับทำตามสิ่งที่พวกนั้นบอก.. และผลลัพธ์สุดท้ายคือฆ่าพ่อฆ่าแม่ของเพื่อนรักอย่างสเตฟานี่

ก่อนที่จะลงมือฆ่าเพื่อนตัวเองด้วยมือสองข้าง…. เธอที่เหมือนจะได้สามัญสำนึกทั่วไปกลับมา มันทำให้เธอรู้สึกผิดยิ่งกว่าอะไร

ทำได้เพียงหัวเราะอย่างเจ็บปวดออกมา ฆ่าพ่อแม่ของเพื่อน ทำลายครอบครัวของเพื่อนและสุดท้ายก็ฆ่าเพื่อนตัวเองทิ้ง

มันทำให้เซเรสไร้ซึ่งคำจะกล่าวพูดอะไรทั้งสิ้น..

“ข้า… ข้าฆ่าพ่อแม่ของสเตฟานี่.. ข้าฆ่าสเตฟานี่.. ฮ่าๆๆๆ”

เธอหัวเราะอย่างโดดเดี่ยว.. หายไปหมดแล้วล่ะ.. คนสำคัญเพียงน้อยนิดของเธอ.. ผู้หญิงคนนั้นก็หายไป..

ท่านแม่ก็ตกตายจากไป.. มาครั้งนี้เป็นเพื่อนคนสำคัญอย่างสเตฟานี่.. เธอจึงได้แต่หัวเราะทั้งน้ำตาและโทษตัวเองว่าเป็นคนเลวทรามต่ำช้าชั่วช้าสมควรตาย

“หากข้า.. ข้าไม่สูญเสียความทรงจำล่ะก็…..”

ทว่าพอเธอพูดแบบนั้นเลทิเซียก็ลอยขึ้นมาในหัวของเธอ.. คนที่ทำให้เธอไปเจอสถานการณ์แบบนั้น.. คนที่ทำให้เธอต้องฆ่าเพื่อนอีกคน

สุดท้ายแล้วกลายเป็นว่ามันเป็นเพราะเพื่อนอีกคน.. เซเรสได้แต่ขำให้กับโชคชะตาตัวเอง

“เป็นแบบนั้นเองงั้นเหรอ.. เป็นแบบนั้นเองสินะ ฮ่าๆๆ”

เธอไม่รู้ว่าเลทิเซียคิดอะไรหรือยังไงอยู่ แต่ความจริงที่ว่าเลทิเซียเป็นต้นเหตุให้เธอฆ่าสเตฟานี่มันคือความจริง..

ใช่เธอโยนความผิดให้กับเลทิเซีย หากว่าเธอไม่โดนลบความทรงจำละก็ หากเธอไม่โดนเลทิเซียทำแบบนั้นละก็ คงไม่ต้องเจ็บปวดเช่นนี้

“ทุกอย่างมันเป็นเพราะเลทิเซีย”

ความสิ้นหวัง ความเจ็บปวดและความเกลียดชังต่อตัวเองมันระเบิดออกมากลายเป็นความรู้สึกด้านลบต่อเลทิเซีย..

“ไม่.. ไม่ใช่..”

แต่ทว่าภายในใจของเธอก็ยังคงกรีดร้องปฏิเสธความคิดเหล่านั้น.. อย่าโทษคนอื่น.. อย่าได้โทษเพื่อนของตัวเองอีกครั้ง..

อย่าให้มันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกซ้ำสองโดยเด็ดขาด.. ภายในใจเธอราวกับมีคนสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่

“ในตอนนั้น.. มันเป็นเพราะฉัน.. ฉันคิดจะปล้นเลทิเซียเอง.. พอโดนแบบนั้นกลับมาโทษว่าตัวเองผิดแบบนั้นมันไม่เห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยหรือไง”

“เธอไม่เพียงแต่จะฆ่าเพื่อนคนสำคัญแต่ตอนนี้ยังมาโทษเพื่อนคนสำคัญอีกงั้นเหรอ?”

เธอตะโกนด่ากราดใส่ตัวเองพยายามหยุดคิดความรู้สึกด้านลบต่อเพื่อนตัวเอง.. แต่ว่า..

เธอก็ไม่รู้นี่ว่าต้องทำยังไงในตอนนี้.. ไม่เอาแล้ว.. ไม่อยากเจออะไรอีกแล้ว.. เธอไม่อยากที่จะแบกรับเรื่องราวเหล่านี้แล้ว..

มันมากเกินไป.. ทำไมเธอต้องมาทนกับความรู้สึกมากมายขนาดนี้กัน.. ความสิ้นหวังภายในใจกำลังกรีดร้อง..

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่เชือกก็ถูกแขวนขึ้นและเธอก็เอาคอมาใส่เชือกไปเสียแล้ว.. การขาดหายใจตายไม่ใช่เรื่องที่ไม่เจ็บปวดทรมาน

แต่มันทรมานเสียยิ่งกว่าตกจากที่สูงหรือถูกฆ่าตัดคอเสียอีก.. เพราะสิ่งเหล่านั้นน่ะ.. มันเกิดขึ้นในชั่วพริบตา

แต่การผูกคอตายน่ะ.. เธอจะค่อยๆ ขาดอากาศหายใจช้าๆ .. ไม่สามารถสูดลมหายใจเข้าหรืออกได้ หน้าอกรู้สึกเหมือนมีอะไรมาอุดเอาไว้

เธอพยายามจะดิ้นรนตามสัญชาตญาณแต่ไม่ว่าจะดิ้นยังไงดวงตาก็พร่าเลือนลงเรื่อยๆ ..

“อ่า..”

ในตอนนั้น ตอนที่เธอจะลาจากโลกใบนี้.. ราวกับว่าเธอมองเห็นหน้าสเตฟานี่อยู่ฝั่งหนึ่งของแม่น้ำแห่งความตาย

“ข้า..ตามเจ้ามาทันแล้วสินะ”

ภายใต้วินาทีก่อนที่จะ ตายภาพในอดีตหวนย้อนคืนกลับมาจนหมดราวกับเป็นหนังชีวิตม้วนสุดท้าย เจออะไรต่างๆ มากมาย

ตอนอายุไม่กี่ขวบถูกจับไปเป็นทาสโดยพ่อแม่แท้ๆ ..

ต่อมาได้รู้จักกับคนคนหนึ่ง

เธอสอนเรื่องราวชีวิต

สอนให้มีรอยยิ้ม และเธอก็จากไป

ผ่านไปปีต่อมาได้ออกมา ก็พบว่าท่านแม่ได้ตกตายไปแล้ว

ไม่เพียงเท่านั้นยังถูกครอบครัวปฏิเสธเรื่อยมาจนไร้ทางแก้.. จนพยายามจะปล้นเด็กคนหนึ่งเข้า..

แต่กลับกลายเป็นว่าโดนเล่นงานเสียเองจนท้ายที่สุดก็ลืมเรื่องราวในอดีต.. ไปแต่แลกมาด้วยกับการที่หัวไหลลื่น

เธอตัดสินใจที่จะเข้าโรงเรียน.. และก็ได้เจอกับเพื่อนที่พึ่งพาซึ่งกันและกัน.. ได้รู้จักกับเพื่อนคนที่หนึ่งก็มีเพื่อนคนที่สอง

แต่ทว่าชะตาฟ้าดินช่างเล่นตลก.. เธอกลับต้องมากลายเป็นฆาตกรที่ฆ่าสังหารครอบครัวของเพื่อนสนิท

ไม่ใช่เท่านั้นเธอก็ยังถูกเพื่อนสนิทคนนั้นโกรธแค้นและชิงชัง.. มันแน่นอนอยู่แล้วการที่จะโดนโกรธเกลียดน่ะ..

ในความเป็นจริงเธอควรยื่นคอให้สเตฟานี่สับดีๆ ซะด้วยซ้ำ.. เพียงแต่ว่าเธอไม่เพียงแต่จะไม่รู้สึกผิดกลับเป็นคนฆ่าเพื่อนสนิทที่สุดของตัวเอง

โดนเพื่อนอีกคนด่าว่าไปตายซะเถอะ….

แต่ในตอนที่สติหลุดออกจากร่างความจริงอันโหดร้ายก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง.. เพื่อนคนที่สองกลับกลายเป็นคนที่ทำให้ตนเองเสียความทรงจำ

และเป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่าง.. เธอพยายามจะโทษเพื่อนคนนั้น.. แต่ในใจเธอรู้ดียิ่งกว่าใครว่า..

หากไม่มีเธอคนนี้.. เธอก็คงไม่ได้มาเจอกับสเตฟานี่ตั้งแต่แรกหรือได้พบกับความสุข.. จริงอยู่ในตอนนี้เธออาจจะยังไม่ตายเหมือนตอนนี้..

แต่ททว่า.. เธอกลับไม่รู้สึกเสียใจ.. สิ่งเดียวที่เธอเสียใจคือเรื่องของสเตฟานี่..

ดังนั้นเธอจึงกล่าวขึ้น..

“สเตฟานี่.. ข้าจะไปหาเจ้าแล้วนะ”

………

[จะขอย้ำอีกสักหน… ไม่ว่าจะสเตฟานี่ โคลเอ้หรือเซเรส.. เป็นแค่เด็กที่ยังพึ่งจะเริ่มรู้จักโลก.. เป็นแค่เด็กอายุสิบกว่าปีเท่านั้น – ผู้เขียน]

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท