บทที่ 267 – ทางเลือกของอันน่า
“นี่มันไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่”
พออีกฝ่ายพูดแบบนั้นออกมา อันน่าก็พูดขึ้นด้วยความโกรธ แต่ฮิสครอมก็ยกมือพร้อมพูด
“ฟังข้าให้จบก่อนสิ.. ถึงจะแค่ชั่วคราวแต่ถ้าเจ้าห้ามใช้ความคิด ห้ามใช้อารมณ์.. ห้ามรู้สึกถึงความต้องการตัวเอง.. เธอก็จะอยู่ได้นานอยู่”
“แต่ที่เจ้าจะทำคือการคืนชีพอีกตัวตนของเจ้า.. ไม่ใช่ดึงกลับมาเพียงแค่ชั่วระยะเวลาสั้นๆ มาข้าเข้าใจถูกใช่ไหม”
พออีกฝ่ายถามแบบนั้น อันน่าก็กัดริมฝีปากพยักหน้าตอบ.. ห้ามแสดงความต้องการ.. ห้ามรัก ห้ามคิดถึง.. ห้ามมีเจตจำนง..งั้นสินะ
ฮิสครอมที่เห็นการตอบรับนั้นจึงพูดต่อ
“ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เจ้าต้องทำคือทำให้อีกตัวตนของเจ้ายอมรับตัวเจ้า.. ยอมรับในสิ่งที่เจ้าเป็น.. ยอมรับในเจตจำนงของตนเอง”
“เรื่องนี้ข้าว่าเจ้ารู้ดีกว่าข้านะ แต่ว่า.. ข้าจะบอกอะไรสักหน่อย.. ถ้าหากเธอยอมรับเจ้าแล้ว ตัวเจ้าจะหายไปโดยสมบูรณ์ไม่สามารถฟื้นคืนขึ้นมาได้อีก”
“เพราะว่าตัวตนของเจ้าได้หุบกลืนอีกตัวตนไปแล้ว นั่นหมายความว่าในร่างกายของเจ้าในตอนนั้นมีเพียงเจตจำนงเดียวที่สามารถดำรงอยู่.. หากทำไม่สำเร็จตัวเจ้าอีกคนจะหายไปแทนแบบตลอดกาล… แต่ถ้าหากทำสำเร็จ.. คนที่จะหายไปคือเจ้า!”
“พูดง่ายๆ ก็คือ แค่สลับตัวคนที่ต้องหายไปแค่นั้น”
พอได้ยินแบบนั้นอันน่าก็ใจสั่นขึ้นมา.. ถึงแม้จะเตรียมใจมาแล้วแต่พออีกฝ่ายมาพูดแบบนี้มันก็ทำให้เธอรู้สึกว้าวุ่น..
จะไม่ได้รู้สึกอีกแล้วสินะ… อันน่ากัดริมฝีปากพร้อมกับถาม
“แล้วใช้งานไพ่…”
“ข้าบอกไปแล้วว่าไพ่นี้มันแทนตัวตนของเจ้าในปัจจุบัน.. เจ้ามองดูในไพ่ดีๆ อีกรอบมันมีใบหน้ายิ้มและร้องไห้ มันเปรียบเสมือนเจ้าและอีกตัวตนถูกใช่ไหม? ข้าเชื่อว่ารอสักหนึ่งวันหลังจากที่อีกตัวตนหนึ่งเจ้าหายไป ไพ่ใบนี้ก็จะเหลือเพียงใบหน้าร้องไห้ที่แทนถึงตัวตนของเจ้านั่นแหละ”
“หรือก็คือจะไม่สามารถปลุกอีกครึ่งหนึ่งขึ้นมาได้แล้ว และวิธีที่พวกเราทำคือแค่ทำให้เจตจำนงเจ้าถูกอีกฝ่ายมาแทนที่ชั่วคราวเท่านั้น..”
อันน่าที่ได้ยินแบบนั้น เมื่อนึกถึงใบหน้าที่สดใสของชาร์ล็อตและใบหน้าที่หวาดระแวงของเลทิเซีย..
มันก็ทำให้เธอหัวเราะออกมาดังๆ เสียงหัวเราะนั้นอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกอยุติธรรม.. เธอในตอนนี้รู้สึกโดดเดี่ยวราวกับบนโลกไม่เหลืออะไรแล้ว
เสียงหัวเราะของเธอมันอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะกล่าว หยาดน้ำตาที่ไหลผ่านม่านตามันทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นสู้กับหยาดฝนที่ร่วงหล่นจากนภา
“ข้าเข้าใจแล้ว.. ข้าเข้าใจแล้ว”
“ข้าจะทำ”
เธอค่อยๆ หันลงมามองฮิสครอมพร้อมกับตอบกลับ ดวงตาของเธอมีทั้งน้ำตาและหยาดฝนไหลผสมปนเปกันไปหมด
ดังความรู้สึกที่ไม่อาจจะบรรยายออกมาได้ยามนี้ เธอไร้ซึ่งทางเลือก.. หากเลือกที่จะอยู่ต่อก็จะมีแค่สายตาที่หวาดระแวงจากเลทิเซีย
เพราะเธอทำแบบนั้นมาตลอด.. ทำให้เลทิเซียรู้สึกว่าตนเองอันตรายทำให้เธอไม่อยากเข้าใกล้ตนเอง และเลือกเข้าใกล้ชาร์ล็อตมากกว่าตัวเอง
เธอทำเพื่อชาร์ล็อตที่ในสักวันตัวเธอจะหายไป.. จะได้มีเพื่อน.. ใช่.. แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นความเจ็บปวดของเธอเอง
โดดเดี่ยว.. สายตาที่หวาดระแวงที่จ้องมาพอมานึกในยามนี้เธอกลับรู้สึกเหมือนกับหัวใจถูกบีบรัดจากอะไรสักอย่าง
เธอพยายามจะนึกถึงสายตาที่เป็นมิตรจากเลทิเซียที่มองมาที่ตัวเองไม่ออกเลย.. นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงนึกแต่สายตาที่หวาดระแวงของเลทิเซีย
เธออยากจะรู้บ้างจัง.. อยากจะสัมผัสบ้างจัง.. ว่าสายตาที่ชาร์ล็อตโดนเลทิเซียมองมันรู้สึกยังไง..
แต่อ่า.. เวลาบนโลกนี้ไม่เคยรอใคร.. ไพ่ในมือของฮิสครอมเหมือนกับเชือกเส้นหนึ่งที่เมื่อเธอหยิบเชือกเส้นนั้นก็จะมาผูกที่คอของเธอแขวนบนต้นไม้
สิ่งที่เธอทำตลอดมา.. มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวดที่สุด.. พอมาคิดว่าตนเองจะไม่ได้คุยกับเลทิเซียแล้ว
ไม่ได้นั่งบนตัวของเลทิเซียตอนหลับแล้ว ไม่ได้เห็นใบหน้าตอนหลับของเธอคนนั้นแล้วมันก็ทำให้ไหล่ทั้งสองข้างของเธอสั่น
“ทำไมมันถึงได้น่ากลัวขนาดนี้นะการตายน่ะ…”
เธอพึมพำด้วยความสับสนและว้าวุ่นใจ เธอในตอนนี้อยากจะเห็นแก่ตัวสักครั้ง.. อยากจะปฏิเสธที่จะคืนชีพชาร์ล็อต..
เธอน่ะจะเห็นแก่ตัวได้หรือเปล่านะ.. ไม่ ไม่ ไม่
เธอต้องทำเพื่อตัวชาร์ล็อต..
ฮิสครอมมองอันน่าเงียบๆ เขาไม่ได้เร่งอีกฝ่ายเพียงแต่พูดเบาๆ ว่า
“บางทีการตายของเจ้าคงจะเป็นการตายที่น่ากลัวที่สุด.. เพราะเจ้าเป็นหนึ่งในสองของอีกตัวตน.. นั่นหมายความว่าเมื่อเจ้าหายไป.. เจ้าก็ไม่มีทางกลับคืนสู่ความดั้งเดิมของพระผู้เป็นเจ้า… เพราะที่หายไปก็แค่ความทรงจำบางอย่างไม่ใช่ชีวิต คนทุกคนล้วนมีเวลาเช่นนั้น”
ฮิสครอมกล่าว บางที นี่อาจจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาปรากฏตัวที่เขาพูดด้วยความจริงใจยกเว้นตอนพูดถึงเรื่องพระผู้เป็นเจ้า
เขานับถือพระผู้เป็นเจ้าสุดใจเขามีความเชื่อว่าความตายนั้นไม่ได้น่ากลัวมันเพียงแค่การกลับคืนสู่รากเหง้า กลับคืนสู่ความดั้งเดิมแห่งพระผู้เป็นเจ้า
ดังนั้นเมื่อมาเจอเคสแบบนี้.. แม้แต่ตัวเขาก็ยังสะเทือนใจพร้อมกับรู้สึกว่า.. ช่างเป็นเด็กที่น่าสงสาร..
อันน่าไม่ได้ฟังเสียงของฮิสครอมแม้แต่น้อยเธอเพียงจมปลักลงไปยังความรู้สึกต่างๆ นานา
นี่คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้รู้สึก ได้เสียใจได้ร้องไห้.. เพราะหลังจากนี้หน้าที่ทุกอย่างจะเป็นของชาร์ล็อต
“ข้าน่ะ…”
จู่ๆ เธอก็พูดขึ้นมา ทำให้ฮิสครอมหันมาสนใจ
“ข้าน่ะชอบเลทิเซีย.. ชอบเธอมากไม่แพ้ชาร์ล็อต.. อยากจะอยู่เคียงข้าง อยากจะคอยเป็นคนที่อยู่ใกล้ในเวลาที่เธอเศร้า ในเวลาที่เสียใจ ในเวลาที่โดดเดี่ยวเหมือนกับข้าในตอนนี้.. ความอ้างว้างมันน่ากลัว.. ข้าน่ะไม่อยากตาย ข้าไม่อยากหายไป..”
“….”
“แต่ว่าข้าน่ะ.. ไม่สามารถมีความต้องการของตัวเองได้หรอกใช่ไหม.. ก็ข้ามันตัวปลอมนี่น่า”
เธอหันไปมองฮิสครอมแล้วก็พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยน้ำตา เธอตัดสินใจไปแล้ว.. ตัวปลอมอย่างเธอเมื่อถึงเวลาก็ต้องหายไปในสักวัน
เธอมีห้าที่เพียงแค่นั้น..
“เจ้า…”
ฮิสครอมอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ตัดสินใจว่าเลิกที่จะพูดเรื่องที่อยากจะพูด อันน่าเช็ดน้ำตา
เธอกล่าวกับฮิสครอม
“การที่จะทำให้อันน่ามาแทนที่ข้า ก็ต้องทำให้เธอเกลียดในสิ่งที่เหมือนกับข้า รับรู้ในสิ่งที่เหมือนกับข้า ยอมรับในความโหดร้ายของโลกใบนี้เหมือนข้าถูกไหม”
“ใช่แล้ว”
ฮิสครอมพยักหน้าตอบเธอ อันที่จริงเรื่องนี้คนที่รู้ดีกว่าเขาคืออันน่านั่นแหละ ดังนั้นจึงได้แต่พยักหน้าไปตามที่เข้าใจ
อันน่าพูดต่อ
“แต่ว่าจะทำให้เธอเข้าใจในเรื่องนั้นได้ยังไง ถ้าเจ้ารู้ถึงขนาดเรื่องในอนาคต เจ้ารู้นะว่าตลอดมาชาร์ล็อตไม่เคยยอมรับความคิดของฉันเลย”
“แน่นอน ข้าถึงได้บอกไปตอนแรก สิ่งที่เจ้าต้องทำคืออดทน”
“มันหมายความว่าไง”
“หมายความว่า แค่ทำให้เธอเจอเรื่องโหดร้ายทารุณที่สุดตั้งแต่เกิดมาก็พอ”
“…..”
พอคำพูดนี้ดังออกจากปากอันน่าก็ไม่มีคำจะกล่าว เธอรู้แล้วถึงแผนการอีกฝ่าย ถึงแม้เธอจะปฏิเสธที่จะทำตามความต้องการของตัวเอง
แต่พอพูดถึงสิ่งที่ชาร์ล็อตต้องเจอ.. อันน่าก็กัดริมฝีปากเบาๆ เธอเริ่มที่จะลังเล.. ตัวตนของเธอมีเพื่อปกป้องชาร์ล็อตนี่น่า..
แต่ถ้าหากยอมรับ.. ไม่ใช่เท่ากับว่าหักหลังความจริงที่ว่าดังกล่าวนั้นหรอกเหรอ.. เธอกัดริมฝีปากตอบ
“แต่ว่า.. ข้าต้องปกป้องชาร์ล็อตสิ.. ไม่ใช่แบบนี้..”
“ฟังข้านะ นี่เป็นทางเลือกเดียวภายในระยะเวลาสั้นๆ ที่เราสามารถเรียกตัวตนอีกตัวของเจ้าขึ้นมาได้ หากเจ้าปฏิเสธ.. สิ่งที่รออยู่มีเพียงความตายของคนคนนั้นของเจ้าเท่านั้น”
เขาพูดขึ้นอย่างมีเหตุผล..
“อีกอย่าง.. เจ้าบอกว่าเจ้ามีหน้าที่ปกป้องชาร์ล็อตไม่ใช่หรือยังไง หากเจ้าปล่อยไปแบบนี้มันก็เท่ากับว่าเจ้าเลือกตัวเองมากกว่าชาร์ล็อต.. นั่นไม่ต่างจากความเห็นแก่ตัวเลยนะ”
“ไม่ใช่นะ!!!”
อันน่ารีบพูดทันที.. เธอที่พยายามตัดใจจากการมีชีวิตต่อ ก็พูดออกมาทันที ไม่มีคนรู้ว่าเธอตัดสินใจเรื่องนั้นด้วยความลำบากและเจ็บปวดขนาดไหน
พออีกฝ่ายพูดแบบนั้นออกมา ต่อให้เป็นอันน่าก็ยังหวั่นไหว
“นี่ก็เพื่อชาร์ล็อต ตัวตนอีกคนของเจ้า”
หากไม่ยอมรับเธอก้จะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวทิ้งให้ชาร์ล็อตหายไปเพื่อให้ตนเองมีชีวิตต่อ ทั้งๆ ที่ตัวเธอเป็นแค่ของปลอมที่ไม่ควรมีสิทธิ์นั้นแท้ๆ
เธอไม่มีทางแบกรับบาปนั้นพร้อมกับมีชีวิตต่อไปได้หรอก..
ดังนั้นทางเลือกจงเหลือเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น…
ใช่.. เธอต้องบอกกับตัวเองว่า นี่ก็เพื่อชาร์ล็อต