การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 267

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 267 – ทางเลือกของอันน่า

“นี่มันไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่”

พออีกฝ่ายพูดแบบนั้นออกมา อันน่าก็พูดขึ้นด้วยความโกรธ แต่ฮิสครอมก็ยกมือพร้อมพูด

“ฟังข้าให้จบก่อนสิ.. ถึงจะแค่ชั่วคราวแต่ถ้าเจ้าห้ามใช้ความคิด ห้ามใช้อารมณ์.. ห้ามรู้สึกถึงความต้องการตัวเอง.. เธอก็จะอยู่ได้นานอยู่”

“แต่ที่เจ้าจะทำคือการคืนชีพอีกตัวตนของเจ้า.. ไม่ใช่ดึงกลับมาเพียงแค่ชั่วระยะเวลาสั้นๆ มาข้าเข้าใจถูกใช่ไหม”

พออีกฝ่ายถามแบบนั้น อันน่าก็กัดริมฝีปากพยักหน้าตอบ.. ห้ามแสดงความต้องการ.. ห้ามรัก ห้ามคิดถึง.. ห้ามมีเจตจำนง..งั้นสินะ

ฮิสครอมที่เห็นการตอบรับนั้นจึงพูดต่อ

“ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เจ้าต้องทำคือทำให้อีกตัวตนของเจ้ายอมรับตัวเจ้า.. ยอมรับในสิ่งที่เจ้าเป็น.. ยอมรับในเจตจำนงของตนเอง”

“เรื่องนี้ข้าว่าเจ้ารู้ดีกว่าข้านะ แต่ว่า.. ข้าจะบอกอะไรสักหน่อย.. ถ้าหากเธอยอมรับเจ้าแล้ว ตัวเจ้าจะหายไปโดยสมบูรณ์ไม่สามารถฟื้นคืนขึ้นมาได้อีก”

“เพราะว่าตัวตนของเจ้าได้หุบกลืนอีกตัวตนไปแล้ว นั่นหมายความว่าในร่างกายของเจ้าในตอนนั้นมีเพียงเจตจำนงเดียวที่สามารถดำรงอยู่.. หากทำไม่สำเร็จตัวเจ้าอีกคนจะหายไปแทนแบบตลอดกาล… แต่ถ้าหากทำสำเร็จ.. คนที่จะหายไปคือเจ้า!”

“พูดง่ายๆ ก็คือ แค่สลับตัวคนที่ต้องหายไปแค่นั้น”

พอได้ยินแบบนั้นอันน่าก็ใจสั่นขึ้นมา.. ถึงแม้จะเตรียมใจมาแล้วแต่พออีกฝ่ายมาพูดแบบนี้มันก็ทำให้เธอรู้สึกว้าวุ่น..

จะไม่ได้รู้สึกอีกแล้วสินะ… อันน่ากัดริมฝีปากพร้อมกับถาม

“แล้วใช้งานไพ่…”

“ข้าบอกไปแล้วว่าไพ่นี้มันแทนตัวตนของเจ้าในปัจจุบัน.. เจ้ามองดูในไพ่ดีๆ อีกรอบมันมีใบหน้ายิ้มและร้องไห้ มันเปรียบเสมือนเจ้าและอีกตัวตนถูกใช่ไหม? ข้าเชื่อว่ารอสักหนึ่งวันหลังจากที่อีกตัวตนหนึ่งเจ้าหายไป ไพ่ใบนี้ก็จะเหลือเพียงใบหน้าร้องไห้ที่แทนถึงตัวตนของเจ้านั่นแหละ”

“หรือก็คือจะไม่สามารถปลุกอีกครึ่งหนึ่งขึ้นมาได้แล้ว และวิธีที่พวกเราทำคือแค่ทำให้เจตจำนงเจ้าถูกอีกฝ่ายมาแทนที่ชั่วคราวเท่านั้น..”

อันน่าที่ได้ยินแบบนั้น เมื่อนึกถึงใบหน้าที่สดใสของชาร์ล็อตและใบหน้าที่หวาดระแวงของเลทิเซีย..

มันก็ทำให้เธอหัวเราะออกมาดังๆ เสียงหัวเราะนั้นอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกอยุติธรรม.. เธอในตอนนี้รู้สึกโดดเดี่ยวราวกับบนโลกไม่เหลืออะไรแล้ว

เสียงหัวเราะของเธอมันอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะกล่าว หยาดน้ำตาที่ไหลผ่านม่านตามันทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นสู้กับหยาดฝนที่ร่วงหล่นจากนภา

“ข้าเข้าใจแล้ว.. ข้าเข้าใจแล้ว”

“ข้าจะทำ”

เธอค่อยๆ หันลงมามองฮิสครอมพร้อมกับตอบกลับ ดวงตาของเธอมีทั้งน้ำตาและหยาดฝนไหลผสมปนเปกันไปหมด

ดังความรู้สึกที่ไม่อาจจะบรรยายออกมาได้ยามนี้ เธอไร้ซึ่งทางเลือก.. หากเลือกที่จะอยู่ต่อก็จะมีแค่สายตาที่หวาดระแวงจากเลทิเซีย

เพราะเธอทำแบบนั้นมาตลอด.. ทำให้เลทิเซียรู้สึกว่าตนเองอันตรายทำให้เธอไม่อยากเข้าใกล้ตนเอง และเลือกเข้าใกล้ชาร์ล็อตมากกว่าตัวเอง

เธอทำเพื่อชาร์ล็อตที่ในสักวันตัวเธอจะหายไป.. จะได้มีเพื่อน.. ใช่.. แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นความเจ็บปวดของเธอเอง

โดดเดี่ยว.. สายตาที่หวาดระแวงที่จ้องมาพอมานึกในยามนี้เธอกลับรู้สึกเหมือนกับหัวใจถูกบีบรัดจากอะไรสักอย่าง

เธอพยายามจะนึกถึงสายตาที่เป็นมิตรจากเลทิเซียที่มองมาที่ตัวเองไม่ออกเลย.. นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงนึกแต่สายตาที่หวาดระแวงของเลทิเซีย

เธออยากจะรู้บ้างจัง.. อยากจะสัมผัสบ้างจัง.. ว่าสายตาที่ชาร์ล็อตโดนเลทิเซียมองมันรู้สึกยังไง..

แต่อ่า.. เวลาบนโลกนี้ไม่เคยรอใคร.. ไพ่ในมือของฮิสครอมเหมือนกับเชือกเส้นหนึ่งที่เมื่อเธอหยิบเชือกเส้นนั้นก็จะมาผูกที่คอของเธอแขวนบนต้นไม้

สิ่งที่เธอทำตลอดมา.. มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวดที่สุด.. พอมาคิดว่าตนเองจะไม่ได้คุยกับเลทิเซียแล้ว

ไม่ได้นั่งบนตัวของเลทิเซียตอนหลับแล้ว ไม่ได้เห็นใบหน้าตอนหลับของเธอคนนั้นแล้วมันก็ทำให้ไหล่ทั้งสองข้างของเธอสั่น

“ทำไมมันถึงได้น่ากลัวขนาดนี้นะการตายน่ะ…”

เธอพึมพำด้วยความสับสนและว้าวุ่นใจ เธอในตอนนี้อยากจะเห็นแก่ตัวสักครั้ง.. อยากจะปฏิเสธที่จะคืนชีพชาร์ล็อต..

เธอน่ะจะเห็นแก่ตัวได้หรือเปล่านะ.. ไม่ ไม่ ไม่

เธอต้องทำเพื่อตัวชาร์ล็อต..

ฮิสครอมมองอันน่าเงียบๆ เขาไม่ได้เร่งอีกฝ่ายเพียงแต่พูดเบาๆ ว่า

“บางทีการตายของเจ้าคงจะเป็นการตายที่น่ากลัวที่สุด.. เพราะเจ้าเป็นหนึ่งในสองของอีกตัวตน.. นั่นหมายความว่าเมื่อเจ้าหายไป.. เจ้าก็ไม่มีทางกลับคืนสู่ความดั้งเดิมของพระผู้เป็นเจ้า… เพราะที่หายไปก็แค่ความทรงจำบางอย่างไม่ใช่ชีวิต คนทุกคนล้วนมีเวลาเช่นนั้น”

ฮิสครอมกล่าว บางที นี่อาจจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาปรากฏตัวที่เขาพูดด้วยความจริงใจยกเว้นตอนพูดถึงเรื่องพระผู้เป็นเจ้า

เขานับถือพระผู้เป็นเจ้าสุดใจเขามีความเชื่อว่าความตายนั้นไม่ได้น่ากลัวมันเพียงแค่การกลับคืนสู่รากเหง้า กลับคืนสู่ความดั้งเดิมแห่งพระผู้เป็นเจ้า

ดังนั้นเมื่อมาเจอเคสแบบนี้.. แม้แต่ตัวเขาก็ยังสะเทือนใจพร้อมกับรู้สึกว่า.. ช่างเป็นเด็กที่น่าสงสาร..

อันน่าไม่ได้ฟังเสียงของฮิสครอมแม้แต่น้อยเธอเพียงจมปลักลงไปยังความรู้สึกต่างๆ นานา

นี่คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้รู้สึก ได้เสียใจได้ร้องไห้.. เพราะหลังจากนี้หน้าที่ทุกอย่างจะเป็นของชาร์ล็อต

“ข้าน่ะ…”

จู่ๆ เธอก็พูดขึ้นมา ทำให้ฮิสครอมหันมาสนใจ

“ข้าน่ะชอบเลทิเซีย.. ชอบเธอมากไม่แพ้ชาร์ล็อต.. อยากจะอยู่เคียงข้าง อยากจะคอยเป็นคนที่อยู่ใกล้ในเวลาที่เธอเศร้า ในเวลาที่เสียใจ ในเวลาที่โดดเดี่ยวเหมือนกับข้าในตอนนี้.. ความอ้างว้างมันน่ากลัว.. ข้าน่ะไม่อยากตาย ข้าไม่อยากหายไป..”

“….”

“แต่ว่าข้าน่ะ.. ไม่สามารถมีความต้องการของตัวเองได้หรอกใช่ไหม.. ก็ข้ามันตัวปลอมนี่น่า”

เธอหันไปมองฮิสครอมแล้วก็พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยน้ำตา เธอตัดสินใจไปแล้ว.. ตัวปลอมอย่างเธอเมื่อถึงเวลาก็ต้องหายไปในสักวัน

เธอมีห้าที่เพียงแค่นั้น..

“เจ้า…”

ฮิสครอมอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ตัดสินใจว่าเลิกที่จะพูดเรื่องที่อยากจะพูด อันน่าเช็ดน้ำตา

เธอกล่าวกับฮิสครอม

“การที่จะทำให้อันน่ามาแทนที่ข้า ก็ต้องทำให้เธอเกลียดในสิ่งที่เหมือนกับข้า รับรู้ในสิ่งที่เหมือนกับข้า ยอมรับในความโหดร้ายของโลกใบนี้เหมือนข้าถูกไหม”

“ใช่แล้ว”

ฮิสครอมพยักหน้าตอบเธอ อันที่จริงเรื่องนี้คนที่รู้ดีกว่าเขาคืออันน่านั่นแหละ ดังนั้นจึงได้แต่พยักหน้าไปตามที่เข้าใจ

อันน่าพูดต่อ

“แต่ว่าจะทำให้เธอเข้าใจในเรื่องนั้นได้ยังไง ถ้าเจ้ารู้ถึงขนาดเรื่องในอนาคต เจ้ารู้นะว่าตลอดมาชาร์ล็อตไม่เคยยอมรับความคิดของฉันเลย”

“แน่นอน ข้าถึงได้บอกไปตอนแรก สิ่งที่เจ้าต้องทำคืออดทน”

“มันหมายความว่าไง”

“หมายความว่า แค่ทำให้เธอเจอเรื่องโหดร้ายทารุณที่สุดตั้งแต่เกิดมาก็พอ”

“…..”

พอคำพูดนี้ดังออกจากปากอันน่าก็ไม่มีคำจะกล่าว เธอรู้แล้วถึงแผนการอีกฝ่าย ถึงแม้เธอจะปฏิเสธที่จะทำตามความต้องการของตัวเอง

แต่พอพูดถึงสิ่งที่ชาร์ล็อตต้องเจอ.. อันน่าก็กัดริมฝีปากเบาๆ เธอเริ่มที่จะลังเล.. ตัวตนของเธอมีเพื่อปกป้องชาร์ล็อตนี่น่า..

แต่ถ้าหากยอมรับ.. ไม่ใช่เท่ากับว่าหักหลังความจริงที่ว่าดังกล่าวนั้นหรอกเหรอ.. เธอกัดริมฝีปากตอบ

“แต่ว่า.. ข้าต้องปกป้องชาร์ล็อตสิ.. ไม่ใช่แบบนี้..”

“ฟังข้านะ นี่เป็นทางเลือกเดียวภายในระยะเวลาสั้นๆ ที่เราสามารถเรียกตัวตนอีกตัวของเจ้าขึ้นมาได้ หากเจ้าปฏิเสธ.. สิ่งที่รออยู่มีเพียงความตายของคนคนนั้นของเจ้าเท่านั้น”

เขาพูดขึ้นอย่างมีเหตุผล..

“อีกอย่าง.. เจ้าบอกว่าเจ้ามีหน้าที่ปกป้องชาร์ล็อตไม่ใช่หรือยังไง หากเจ้าปล่อยไปแบบนี้มันก็เท่ากับว่าเจ้าเลือกตัวเองมากกว่าชาร์ล็อต.. นั่นไม่ต่างจากความเห็นแก่ตัวเลยนะ”

“ไม่ใช่นะ!!!”

อันน่ารีบพูดทันที.. เธอที่พยายามตัดใจจากการมีชีวิตต่อ ก็พูดออกมาทันที ไม่มีคนรู้ว่าเธอตัดสินใจเรื่องนั้นด้วยความลำบากและเจ็บปวดขนาดไหน

พออีกฝ่ายพูดแบบนั้นออกมา ต่อให้เป็นอันน่าก็ยังหวั่นไหว

“นี่ก็เพื่อชาร์ล็อต ตัวตนอีกคนของเจ้า”

หากไม่ยอมรับเธอก้จะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวทิ้งให้ชาร์ล็อตหายไปเพื่อให้ตนเองมีชีวิตต่อ ทั้งๆ ที่ตัวเธอเป็นแค่ของปลอมที่ไม่ควรมีสิทธิ์นั้นแท้ๆ

เธอไม่มีทางแบกรับบาปนั้นพร้อมกับมีชีวิตต่อไปได้หรอก..

ดังนั้นทางเลือกจงเหลือเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น…

ใช่.. เธอต้องบอกกับตัวเองว่า นี่ก็เพื่อชาร์ล็อต

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท