การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 268

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 268 – ความเจ็บปวดที่แท้จริง

ดวงตาของชาร์ล็อตที่ปิดสนิทก็ค่อยๆ ลืมขึ้นมาอย่างช้าๆ แต่เพราะเธอถูกตีอย่างรุนแรงจนสลบมันทำให้ทันทีที่เธอฟื้นขึ้นมาสติเธอยังไม่ครบมากนัก

ได้ยินเพียงเสียงของใครสักคนดังขึ้น

“เด็กขนาดนี้เป็นคาร์ดินัลนี่นะ?”

“อย่าประมาทพวกคลั่งศาสนาเหล่านี้เชียวล่ะ เจ้าพวกนี้ค่อนข้างปากแข็งเลยล่ะต่อให้เป็นเด็ก ข้าก็คิดว่าพวกมันไม่น่าจะเอาเด็กธรรมดามากุมความลับสำคัญหรอก”

“นั่นสิ ข้าเห็นด้วยนะ งานของพวกเรามีแค่รีดข้อมูลให้ได้มากที่สุดก็เพียงพอแล้ว”

เสียงคนหลายคนพูดคุยออกความเห็น มันจึงทำให้ชาร์ล็อตที่ฟื้นตื่นขึ้นมากลับมามีจิตสำนึกที่ชัดเจนอีกครั้ง

เธอมองไปรอบๆ ด้วยความสับสน ตอนนี้เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้อันหนึ่งในห้องที่รอบๆ มีทั้งอาวุธและของน่ากลัวอื่นๆ

แถมความอับชื้นที่ไร้แสงส่องเข้ามาบางทีที่นี่คงเป็นใต้ดิน ร่างกายเธอเหมือนถูกมัดติดเก้าอี้ แขนที่ถูกมัดแนบกับที่วางแขนทั้งสองข้าง

ขาถูกมัดติดกับขาเก้าอี้หน้าทั้งสองข้าง พอเธอพยายามดิ้นรนก็กลับไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ทำให้เธอตระหนักว่าที่รัดเธอติดกับเก้าอี้ไม่ใช่เชือก

แต่มันแข็งเหมือนเหล็ก เพราะว่ามีผ้าปกด้านหน้าไว้มันเลยทำให้เธอไม่รู้ว่าที่มัดเธอติดกับเก้าอี้คืออะไรกันแน่

พอเธอดิ้นรนตามสัญชาตญาณ มันเลยทำให้กลุ่มคนเหล่านั้นสัมผัสถึงการตื่นของชาร์ล็อต

“ดูเหมือนท่านคาร์ดินัลของพวกเราจะฟื้นแล้วนะ คงได้เวลาถามหาความจริงแล้วล่ะ”

ชายร่างใหญ่ที่เป็นหัวหน้าก็เดินมาหาชาร์ล็อตที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เพราะทั้งสายตาและท่าทางของเขาน่ากลัวมากทำให้ชาร์ล็อตพยายามดิ้นรนแรงขึ้น

“พวกเจ้าเป็นใคร ต้องการอะไรจากข้า”

ชาร์ล็อตที่ตกอยู่ในความหวาดกลัวก็ตะโกนตอบโต้ออกมาครั้งแรก ทำให้ชายร่างใหญ่ชะงักเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมา

“นั่นสินะ พวกเรายังไม่ได้แนะนำตัวสินะ ข้ามีชื่อว่าไดมะ เป็นหัวหน้ากองทหารรับจ้างที่รับงานทุกประเภทน่ะ”

“….ทหารรับจ้าง?”

ชาร์ล็อตสับสน อีกฝ่ายไม่ใช่โจรป่าอย่างที่ฮิสครอมเคยบอก แต่เหมือนจะเป็นทหารรับจ้าง แบบนั้นก็หมายความว่า..

มีคนจ้างมาให้ลักพาตัวเธองั้นเหรอ แต่ว่าทำไมล่ะ ไม่น่าจะเป็นไปได้นี่น่า.. ชาร์ล็อตไม่เข้าใจสถานการณ์

แต่แน่นอนว่าเธอไม่ได้มีสมาธิพอที่จะวิเคราะห์เรื่องเหล่านั้นในเวลานี้ ในตอนนั้นเองคนที่ชื่อว่าไดมะก็พูดต่อ

“ใช่แล้วล่ะ อืม ข้าคงไม่ต้องพูดมากเนอะ ท่านคาร์ดินัลคงจะรู้ว่าพวกเราต้องการอะไร?”

“คาร์ดินัล.. เจ้าพูดอะไร..ข้าไม่ใช่—”

“ฮ่าๆๆๆ”

ก่อนที่เธอจะได้พูดจบก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะถากถางของทหารรับจ้างหลายคนที่นั่งอยู่ห่างออกไป และตามมาด้วยคำพูดเหน็บแนม

“ไม่คิดว่าศาสนาโอโรโบรอสจะมีคาร์ดินัลที่ตีหน้าซื่อแบบนั้นเป็น ข้าได้ยินว่าคาร์ดินัลส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ผ่านประสบการณ์อันโชกโชนมา ไม่คิดว่าจะโชกโชนขนาดนี้”

“โชกโชนจนตีหน้าซื่อเหมือนเด็กได้เนียนขนาดนี้”

พวกเขาอดที่จะรู้สึกขำไม่ได้

“เดี๋ยวสิ พูดอะไรข้าไม่ใช่..”

ชาร์ล็อตที่สับสนและกังวลรีบพยายามอธิบาย แต่เหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจเรื่องที่เธอพูดเพราะคิดว่ามันไร้สาระ

แน่นอนทหารรับจ้างเช่นพวกเขาย่อมมีประสบการณ์ในการรีดเค้นหาข้อมูลอยู่มากเลยก็ว่าได้

นั่นหมายความว่าคำพูดไร้สาระของมนุษย์เพื่อให้พวกเขาตายใจหรือการแสดงตบตา พวกเขาเคยทำพลาด เคยทำผิดมานักต่อนัก

ทุกความผิดพลาดเกิดเป็นการเรียนรู้ทำให้พวกเขาไม่คิดจะเชื่อคำพูดของเหยื่อก่อนที่จะโดนพวกเขารีดเค้นแน่ๆ

มนุษย์จะปากพล่อยต่อเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังเท่านั้น ซึ่งหากพิจารณาว่าเหยื่อเป็นถึงคาร์ดินัลผู้ยิ่งใหญ่แม้อยู่ในสภาพเด็ก

นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าอีกฝ่ายจะปากแข็งขนาดไหน เพราะคาร์ดินัลเป็นยศที่ในศาสนจักรก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

แค่นั้นก็น่าจะบอกถึงความสำคัญของตัวตนนี้เลย และในขณะเดียวกันก็กุมความลับของศาสนจักรไว้มากเช่นกัน

พวกเขาไม่คิดจะประมาทเลยแม้แต่น้อย… ไดมะก็พูดขึ้น

“อย่ามาทำเป็นไขสือ คิดว่าจะหลอกพวกเราได้หรือไง ชุดของเจ้ามันก็ยืนยันแล้วไม่ใช่เหรอ นี่คิดว่าพวกข้าโง่งั้นเหรอ นี่แหละนะพวกบัดซบที่โตบนกองเงินกองทอง”

ไดมะพูดอย่างมีอคติราวกับเหล่าชนชั้นสูงคือศัตรูตัวฉกาจของเขา อย่างไรก็ตามเขาก็พูดต่อด้วยความเฉยชาว่า

“เอาเถอะ อีกเดี๋ยวเจ้าเองก็พูดทุกอย่างออกมาเอง”

ไดมะยิ้มอย่างชั่วร้ายพร้อมกับหันหลังให้ชาร์ล็อตที่กำลังสับสน เขาเดินจากไปพร้อมกับพรรคพวกหลายคนออกจากห้องใต้ดินแห่งนี้

เหลือไว้เพียงชายที่หน้าแหลมคนหนึ่งชายคนนี้มีหน้าตาค่อนข้างประหลาด เพราะเขาผอมมาก แต่ตัวสูงมากจนทำให้ดูน่ากลัว

“แดนัล ฝากที่เหลือด้วย”

ไดมะพูดแล้วก็เดินจากไป ชายที่ชื่อว่าแดนัลก็หัวเราะคิกคักออกมาด้วยเสียงที่มีความสุข พร้อมกับพูดตอบไดมะ

“ไว้ใจได้เลยลูกพี่ นี่แหละงานถนัดของข้า”

เขาเดินมาหาชาร์ล็อตด้วยรอยยิ้มน่ากลัว แถมมองดูแล้วเหมือนน้ำลายจะไหลออกจากมุมปากด้วย

เขาเดินมาหาชาร์ล็อตด้วยสีหน้าวิปลาสพร้อมกับใช้มือหยาบกระด้างลูบใบหน้าของเธอ

“ข้า.. ข้า…ไม่ใช่”

เธอกลัวตัวสั่นพยายามจะพูดตอบโต้เพื่อเอาตัวรอด แต่อีกฝ่ายก็หัวเราะออกมาด้วยเสียงแปลกๆ

“เคียกๆ ไม่ต้องห่วงๆ ผิวสวยๆ ของเจ้าข้าจะดูแลเป็นอย่างดีเลย ฮ่า ๆ”

เสียงหัวเราะที่แปลกประหลาดของเขาแลบลิ้นออกมาเลียบนใบหน้าเล็กๆ ของชาร์ล็อตมันทำให้เธอหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

“อันน่า อันน่า.. ช่วยข้าด้วย..”

ชาร์ล็อตพยายามจะดิ้นรนและตะโกนขอความช่วยเหลือทำให้แดนัลแปลกใจแต่ก็หัวเราะอย่างพอใจ

“ไม่ต้องเป็นห่วงที่นี่ไม่มีใครมาช่วยเจ้าได้ ฮ่าๆ”

เขาพูดเสร็จแล้วก็ดึงผ้าที่ปกแขนของชาร์ล็อตออก เบื้องหน้าเธอมีเหล็กที่ล็อกแขนเธอติดกับเก้าอี้อยู่

แต่ตรงฝ่ามือมีอุปกรณ์เหล็กบางอย่างรูปร่างแปลกประหลาดมีทั้งสปริง.. นิ้วทั้งห้าของเธอถูกเหล็กเหล่านี้ล็อกไว้แน่นหนาแต่ละนิ้วอย่างประณีต

ที่เล็กของเธอมีเหล็กชิ้นหนึ่งสอดเข้าไปใต้นั้น ..

“นี่มันอะไร..”

เธอสับสนเพราะไม่เคยเห็นของแบบนี้มาก่อน แดนัลก็หัวเราะอย่างพอใจ เขาเอามือทั้งสองข้างลูบบนเหล็กและหลังมือชาร์ล็อต

“อ่า.. งดงาม..งดงามเกินไปแล้ว”

เขาค่อยๆ วางงนิ้วลงไปยังจุดหนึ่งตรงกันข้ามกับเล็บนิ้วโป้งของชาร์ล็อต ตรงนั้นมันมีเหล็กติดสปริงอยู่เขาค่อยๆ กดลงช้าๆ ..

“แคร่ก”

อาจจะเป็นเพราะมันเก่าแล้วเลยมีเสียงแกร่กของสนิม แต่ภายใต้เสียงแกร่กนั้น เล็บนิ้วโป้งของชาร์ล็อตก็เริ่มถูกดึงออกจากผิวหนังอย่างช้าๆ

จากปลายเล็บ.. ดวงตาที่สับสนของเธอก็หดตัวลงด้วยความเจ็บปวด ปากของเธอกรีดร้องออกมาสุดเสียง จนคอแทบแตก

“เจ็บ เจ็บๆๆ!!!”

น้ำตาไหลออกมาจากหางตาของเธอ เสียงกรีดร้องของเธอทำเอาแดนัลขนลุกซู่ไปทั้งร่างกายด้วยความตื่นเต้น

แต่ในตอนนั้นเอง

“อ้ะ ข้าลืมไปเลย”

เขาปล่อยมือจากที่กดตรงนั้นที่ยังถอดเล็บนิ้วโป้งของชาร์ล็อตไปได้แค่ครึ่งเล็บมันทำให้เล็บที่ยังไม่ถูกดึงขึ้นมาทิ่มเข้าไปใต้ผิวหนังใต้เล็บของเธอ

“เจ็บๆ ข้า.. ข้า อ้า”

เสียงกรีดร้องอันสิ้นหวังดังออกมาจากปากของเธอ น้ำหูน้ำตาไหลอย่างอเนจอนาถ แดนัลเดินกลับมาพร้อมกับกระดาษแผ่นหนึ่ง

เขาอ่านในนั้นพร้อมกับถาม

“สิ่งที่ศาสนาของพวกเจ้า.. เอ่อ.. ตรงนี้มันอ่านว่าไงนะ?”

เขาเอามือเคาะหัวตัวเองด้วยความสงสัย แต่ก็นึกออกในเวลาต่อมา

“อ้อ สิ่งที่ศาสนาของพวกเจ้าต้องการคือการชุบชีวิตพระเจ้าตามที่พล่ามมาจริงๆ เหรอ ไม่สิ.. ตามที่เคยบรรยาย.. เอ้ หรือพูด อ้าก เจ้าจะเขียนให้มันเป็นศัพท์อ่านยากทำไมฟะ ช่างมันละกัน”

เขาโยนกระดาษเสร็จก็ตบมือลงตรงที่ถอดเล็บนิ้วโป้งซ้ายของชาร์ล็อตจนฉีกขาดออกจากนิ้วอย่างโหดร้าย

เลือดสีแดงฉานสาดกระจายออกจากนิ้วโป้งทำให้เสียงกรีดร้องแหบพร่าของชาร์ล็อตดังกึกก้องยิ่งกว่าเดิม

เธอเป็นเหมือนเด็กธรรมดาที่ไร้ซึ่งพิษร้ายอะไร.. ไม่เคยเจอความเจ็บปวดหรือความน่ากลัวเพราะทุกอย่างมันไปอยู่กับอันน่าทั้งหมด

แน่นอนว่าเธอไม่รู้ เธอคิดว่าโลกมันสดใส.. มันมีเพียงแค่สีขาว.. ใช่ สำหรับเธอโลกใบนี้มันยังมีแค่สีขาว..

จนกระทั่ง

“เจ็บๆ ข้าผิดไปแล้ว.. ข้าผิดไปแล้ว ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ”

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเจ็บปวดขนาดนี้ เธอเกลียดมัน.. ความเจ็บปวดนี้ เธอปฏิเสธมัน.. มันต้องไม่ใช่แบบนี้

“อันน่า.. อันน่า”

เสียงร้องไห้ที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังของเธอนั้นกึกก้องไปทั่วทั้งห้องใต้ดินพร้อมกับความบ้าคลั่งของแดนัลที่ค่อยๆ ถอนเล็บเธออย่างโหดร้าย

ชาร์ล็อตทำได้เพียงร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังน้ำตาไหลพาดจากดวงตาที่เหลือกออกมาจนแทบจะถลนออกจากเบ้า น้ำลายไหลฟูมฟายดูไม่ได้

จนหมดสติไปทั้งแบบนั้น…

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท