บทที่ 274 – ฉันจะไม่ยอมสูญเสียอีกแล้ว
เลทิเซียค่อยๆ ก้มหน้ากลับคืนมาจ้องมองไปที่ชาร์ล็อต.. ที่ดวงตาไม่มีคราบน้ำตาเหลืออยู่แล้ว.. เธอก้าวเดินเข้าไปหาชาร์ล็อตพร้อมกับพูดขึ้น
“ถึงฉันอาจจะทำเหมือนอันน่าไม่ได้.. เพราะเธอคนนั้นน่ะสุดยอดเกินไป.. สุดยอดจริงๆ ”
เสียงของเลทิเซียเบาลง เพียงตาขายังคงก้าวเข้าไปหาชาร์ล็อตที่กำลังสับสนกับท่าทางของเลทิเซีย
“เจ้า..”
เธอพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ดวงตาของเลทิเซียจดจ้องไปที่เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ
“แต่ว่า!!!”
เสียงของเลทิเซียกึกก้องคำที่เธอพูดนั้นดังขึ้นไปทั่วพื้นที่ตรงข้ามกับคำพูดแรกราวกับว่าสิ่งที่เธอต้องการ
สิ่งที่เธอจะสื่อมันก่อรูปร่างขึ้นมาในอกชัดขึ้น คำพูดที่เปล่งออกไปจึงมีเพียงความมั่นใจและมาดมั่น
“นั่นก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะปล่อยให้เธอเจ็บปวดกับเรื่องราวในอดีต จมปลักอยู่กับที่ไม่ก้าวไปข้างหน้า ฉันเชื่อว่าอันน่าเองก็ไม่ได้ต้องการแบบนั้น”
คำพูดของเลทิเซียชัดเจนขึ้น แต่คนอื่นฟังกลับรู้สึกงุนงง มีเพียงชาร์ล็อตเท่านั้นที่สับสนและหัวใจเต้นระรัว
ราวกับความรู้สึกมากมายมันกำลังกรีดร้อง ไม่ใช่แค่ความรู้สึกของชาร์ล็อตแต่เป็นความรู้สึกของอันน่าด้วยเช่นกัน
“เจ้าพูดอะไร…”
ชาร์ล็อตถอยไปด้านหลังมือกุมหน้าอก เธอไม่เข้าใจว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไรมันจึงทำให้เธอสับสน.. อาจจะเป็นความเกลียดชัง
ความงุนงงหรือมากไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายอารมณ์ แต่อย่างไรก็ตามฝีเท้าของเลทิเซียก็ยังคงเข้าใกล้ชาร์ล็อตอย่างรวดเร็ว
“ฉันน่ะ.. อาจไม่สามารถบอกได้ว่าเข้าใจความรู้สึกเธอในตอนนี้.. ไม่สิ มันไม่มีทางเข้าใจได้อยู่แล้ว”
“ต่อให้มีเหตุผล ต่อให้มีหลักฐาน แต่ความไม่แน่นอนที่ไม่มีเหตุผลอะไรก็คืออารมณ์ของสิ่งมีชีวิตได้ชัดเจน.. เพราะงั้น.. ถึงไม่สามารถอ่านจิตใจของคนอื่นได้”
เลทิเซียพูดมาถึงตรงนี้เธอก็หัวเราะให้กับตัวเอง หากมีพลังที่สามารถอ่านใจอ่านความคิดและความรู้สึกคนอื่นได้ เธอคงไม่ก้าวเท้าผิดเหมือนในตอนนี้
แม้แต่ตอนนี้เอง เธอก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกหรือความคิดของเซเรสที่เลือกที่จะจากไปเลย.. หากเธอสามารถเห็นถึงอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นได้..
บางทีเธอคงจะช่วยไว้ได้.. แต่ว่า..
“แต่ว่าก็เพราะแบบนั้นเอง ฉันถึงได้มาอยู่ตรงนี้.. ฉันถึงได้เลือกแบบนี้ เพราะคิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุด..”
“ฉันไม่ต้องการจะเห็นสีหน้าเจ็บปวดของเธออีก ฉันไม่อยากให้เธอร้องไห้อีก.. เพราะว่าสำหรับฉันเธอคือคนสำคัญ”
เลทิเซียพูดเสร็จไหล่ของชาร์ล็อตก็สั่น.. ใช่ เธอในตอนนี้ราวกับมีความรู้สึกยินดีบางอย่างผลิดอกขึ้นมาในใจ
ทั้งๆ ที่คนคนนี้ทำแบบนั้นกับเธอ ทั้งๆ ที่คนคนนี้ทำให้อันน่าหายไป.. ทำไม.. ทำไมเธอถึงได้รู้สึกแบบนั้นกันนะ..
ตลอดมา เธอนั้นมีความคาดหวังว่าจะได้รับการยอมรับจากเลทิเซีย.. เธออยากจะเป็นเพื่อนกับเธอคนนี้..
เธออยากจะอยู่ข้างๆ ในตอนแรกเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแต่เมื่อเวลาผ่านไปเธอถึงได้เข้าใจว่า.. เธอคนนี้เป็นคนที่มีนิสัยที่ดี
ถึงปากบอกจะรำคาญแต่ก็จะเอาอาหารให้ซิลเวียเสมอ.. เป็นคนที่พยายามใส่ใจความคิดคนอื่นเสมอ…
ตรงส่วนนี้อาจจะเป็นเพราะเลทิเซียต้องทำเพื่อที่จะหลบหลีกสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อตนเอง.. แต่ในมุมมองของชาร์ล็อตมันเป็นเช่นนั้น
เป็นคนที่ขยันกว่าใครๆ เธอตั้งใจเรียนแม้บางอย่างจะรู้อยู่แล้วเธอก็ยังจดลงสมุดอยู่ดี.. ทุกอย่างที่ว่ามามันทำให้ชาร์ล็อตรู้สึกว่า..
บางทีถ้าได้เป็นเพื่อนกับคนคนนี้คงจะดี เพราะงั้นเธอจึงพยายามเพื่อที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของอีกฝ่ายเสมอมา..
จนเวลาผ่านไปความสัมพันธ์ทั้งคู่แน่นแฟ้นขึ้น แม้จะเพียงในมุมมองของชาร์ล็อตเพราะทุกครั้งที่เลทิเซียเข้าใกล้เธอจะเป้นท่าทางที่ผ่อนคลายอยู่เสมอ
ซึ่งแน่นอนว่าชาร์ล็อตไม่ทราบถึงเหตุผลของการกระทำอันน่าที่ต้องการให้เป็นแบบนี้ เพราะงั้นเธอถึงได้คิดว่าเธอกับเลทิเซียเป็นเพื่อนกันแล้ว
แต่พอเหตุการณ์นั้น เหตุการณ์ที่เลทิเซียระเบิดอารมณ์ใส่ มันทำให้ความคิดทั้งหมดของชาร์ล็อตหายไป..
เธอเข้าใจผิดมาโดยตลอด.. ใช่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจนเธอผิดหวัง.. อีกฝ่ายไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นเพื่อนเลย..
แต่ว่าตลอดระยะเวลาหลายวันหลังจากนั้น.. เธอยังคงคาดหวังอยู่ว่าเลทิเซียจะเปลี่ยนใจ เพราะงั้นเธอจึงไม่ได้จากไปในทันที..
แน่นอนว่าถึงแม้จะถูกทำแบบนั้นใส่แต่ก็เพราะชาร์ล็อตเป็นคนเช่นนั้น เธอถึงได้คาดหวังอยู่ลึกๆ ว่า มันต้องไม่เป็นแบบนี้.. ไม่ใช่แบบนี้..
เธอรอ.. รอ..และก็รอแต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน เลทิเซียกลับไม่ได้พูดอะไร จนเธอเลือกที่จะจากไป
เธอได้แต่หัวเราะสมเพชให้ตัวเองที่ยังคาดหวัง.. พร้อมกับตัดสินใจจากไป.. แต่ด้วยความที่ตัดไม่ขาดเธอจึงทิ้งจดหมายไว้ให้ด้วย..
พอมาคิดถึงเรื่องราวในตอนนั้นชาร์ล็อตถึงได้รู้ว่าตัวเองมันน่าสมเพชขนาดไหน… จนกระทั่งคำพูดนั้นหลุดออกมาจากปากเลทิเซีย
หัวใจของเธอสั่นสะท้านราวกับความหวังอันริบรี่ที่อยู่ในใจถูกจุดติดมาอีกครั้ง มือของเธอกุมหน้าอกด้วยความสับสน
“ไม่.. ไม่ใช่แบบนี้…”
มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ ถ้าหากเธอไปดีใจกับอะไรแบบนี้… ไปดีใจกับคำพูดของคนที่ทำให้อันน่าหายไปแบบนี้..
มันก็ไม่ต่างจากการ..หักหลังเธอไม่ใช่หรือไง.. ชาร์ล็อตปฏิเสธความรู้สึกของตัวเอง แต่มันช่างน่าตลกที่ยิ่งปฏิเสธความดีใจนั้นยิ่งชัดเจนขึ้น
“ไม่ๆ … ข้า.. ข้าต้องไม่เห็นแก่ตัวแบบนี้…”
เธอพึมพำด้วยความสับสน.. แต่ทว่าหัวใจของเธอกลับเต้นระรัวขึ้น เสียงหัวใจที่เต้นอยู่ในอกมันดังชัดขึ้นราวกับหูของเธอจ่ออยู่กับหน้าอกตัวเอง..
เสียงหัวใจที่สั่นระรัวไปด้วยความดีใจ.. แบบนี้มัน.. แบบนี้มัน…
“มันต้องไม่ใช่แบบนี้”
เธอตะโกนออกมาพร้อมกับยกมือขึ้น เสียงหัวใจที่เต้นราวกับกำลังมีความสุขนั้นเธอโกรธ.. โกรธมัน.. โกรธตัวเอง…
มาดีใจอะไรกัน.. เธอจะเห็นแก่ตัวไม่ได้โดยเฉพาะกับอันน่าที่หายไป.. เพราะงั้น.. เพราะงั้น
“หยุดสักทีเถอะ”
เธอร้องออกมาพร้อมกับแทงมือเข้าไปในหน้าอกอย่างรวดเร็วพยายามจะทำลายหัวใจของตัวเธอเอง.. แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ว่าพลังฟื้นฟูของอสูรจะทำงานหรือเปล่า
เพราะบางครั้งก็อาจจะตายจริง บางครั้งก็อาจจะฟื้นฟู ดังนั้น.. พวกเขาไม่มีทางรู้เลยว่าหากชาร์ล็อตตายในตอนนี้เธอจะตายจริงๆ หรือเปล่า
ฮิสครอมที่เห็นภาพนี้เองก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าเด็กที่ชื่อเลทิเซียนี่จะมีอิทธิพลต่อชาร์ล็อตขนาดนี้..
ในขณะที่เขากำลังจะไปหยุด แต่ทว่าเลทิเซียกลับเร็วกว่า ร่างกายเธอปรากฏอยู่ด้านหน้าของชาร์ล็อตพร้อมกับจับมือข้างนั้นของเธอไว้
“มันต้องไม่ใช่แบบนี้.. ไม่ใช่แบบนี้.. ข้า..ข้า…”
เธอพยายามดิ้นรนแต่ว่าแรงของเธอไม่เพียงพอต่อการดิ้นรนให้หลุดจากมือเลทิเซียที่ใช้เวทมนตร์เสริมกำลังได้แน่นอน
เลทิเซียที่มองใบหน้าของชาร์ล็อตดวงตาของเธอเผยถึงความอ่อนโยน.. อย่างน้อย.. ในตอนนี้.. ชาร์ล็อตก็อยู่ใกล้เธอที่สุดแล้ว..เธอไม่มีทาง..จะสูญเสียไปอีกแน่..
ไม่มีวัน..
“ปล่อยข้า.. เจ้ามันฆาตกร.. ฆาตกร..”
เธอร้องไห้ออกมาด้วยน้ำตาพร้อมกับดิ้นรน
“ฉันขอโทษ”
เลทิเซียตอบด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินเพียงแค่สองคน
“ขอโทษ.. ขอโทษงั้นเหรอ.. ฮ่าๆ .. คิดว่าคำขอโทษมันชุบชีวิตอันน่าขึ้นมาได้หรือเปล่า .. เป็นเพราะเจ้า!!!!”
เธอร้องออกมาด้วยความโมโห.. เลทิเซียไม่ได้ปฏิเสธหรือบอกปัด
“ถึงแบบนั้น.. ฉันก็จะไม่ยอมปล่อยอยู่ดี.. เพราะว่า.. ฉันไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรไปอีกคนแน่.. การสูญเสียน่ะมันมากเกินพอแล้วล่ะ.. เพราะงั้นกลับกันเถอะ”
เลทิเซียกล่าวเสร็จก็ปล่อยมือออกจากแขนอีกฝ่ายเพียงแต่เธอไม่ได้ถอยออก ตรงกันข้ามเธอยกมือขึ้นและโอบกอดชาร์ล็อตเอาไว้
“ฉันไม่ยอมสูญเสียเธอไปอีกคนแน่.. เพราะว่าเธอคือคนสำคัญของฉัน”