การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 274

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 274 – ฉันจะไม่ยอมสูญเสียอีกแล้ว

เลทิเซียค่อยๆ ก้มหน้ากลับคืนมาจ้องมองไปที่ชาร์ล็อต.. ที่ดวงตาไม่มีคราบน้ำตาเหลืออยู่แล้ว.. เธอก้าวเดินเข้าไปหาชาร์ล็อตพร้อมกับพูดขึ้น

“ถึงฉันอาจจะทำเหมือนอันน่าไม่ได้.. เพราะเธอคนนั้นน่ะสุดยอดเกินไป.. สุดยอดจริงๆ ”

เสียงของเลทิเซียเบาลง เพียงตาขายังคงก้าวเข้าไปหาชาร์ล็อตที่กำลังสับสนกับท่าทางของเลทิเซีย

“เจ้า..”

เธอพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ดวงตาของเลทิเซียจดจ้องไปที่เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ

“แต่ว่า!!!”

เสียงของเลทิเซียกึกก้องคำที่เธอพูดนั้นดังขึ้นไปทั่วพื้นที่ตรงข้ามกับคำพูดแรกราวกับว่าสิ่งที่เธอต้องการ

สิ่งที่เธอจะสื่อมันก่อรูปร่างขึ้นมาในอกชัดขึ้น คำพูดที่เปล่งออกไปจึงมีเพียงความมั่นใจและมาดมั่น

“นั่นก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะปล่อยให้เธอเจ็บปวดกับเรื่องราวในอดีต จมปลักอยู่กับที่ไม่ก้าวไปข้างหน้า ฉันเชื่อว่าอันน่าเองก็ไม่ได้ต้องการแบบนั้น”

คำพูดของเลทิเซียชัดเจนขึ้น แต่คนอื่นฟังกลับรู้สึกงุนงง มีเพียงชาร์ล็อตเท่านั้นที่สับสนและหัวใจเต้นระรัว

ราวกับความรู้สึกมากมายมันกำลังกรีดร้อง ไม่ใช่แค่ความรู้สึกของชาร์ล็อตแต่เป็นความรู้สึกของอันน่าด้วยเช่นกัน

“เจ้าพูดอะไร…”

ชาร์ล็อตถอยไปด้านหลังมือกุมหน้าอก เธอไม่เข้าใจว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไรมันจึงทำให้เธอสับสน.. อาจจะเป็นความเกลียดชัง

ความงุนงงหรือมากไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายอารมณ์ แต่อย่างไรก็ตามฝีเท้าของเลทิเซียก็ยังคงเข้าใกล้ชาร์ล็อตอย่างรวดเร็ว

“ฉันน่ะ.. อาจไม่สามารถบอกได้ว่าเข้าใจความรู้สึกเธอในตอนนี้.. ไม่สิ มันไม่มีทางเข้าใจได้อยู่แล้ว”

“ต่อให้มีเหตุผล ต่อให้มีหลักฐาน แต่ความไม่แน่นอนที่ไม่มีเหตุผลอะไรก็คืออารมณ์ของสิ่งมีชีวิตได้ชัดเจน.. เพราะงั้น.. ถึงไม่สามารถอ่านจิตใจของคนอื่นได้”

เลทิเซียพูดมาถึงตรงนี้เธอก็หัวเราะให้กับตัวเอง หากมีพลังที่สามารถอ่านใจอ่านความคิดและความรู้สึกคนอื่นได้ เธอคงไม่ก้าวเท้าผิดเหมือนในตอนนี้

แม้แต่ตอนนี้เอง เธอก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกหรือความคิดของเซเรสที่เลือกที่จะจากไปเลย.. หากเธอสามารถเห็นถึงอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นได้..

บางทีเธอคงจะช่วยไว้ได้.. แต่ว่า..

“แต่ว่าก็เพราะแบบนั้นเอง ฉันถึงได้มาอยู่ตรงนี้.. ฉันถึงได้เลือกแบบนี้ เพราะคิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุด..”

“ฉันไม่ต้องการจะเห็นสีหน้าเจ็บปวดของเธออีก ฉันไม่อยากให้เธอร้องไห้อีก.. เพราะว่าสำหรับฉันเธอคือคนสำคัญ”

เลทิเซียพูดเสร็จไหล่ของชาร์ล็อตก็สั่น.. ใช่ เธอในตอนนี้ราวกับมีความรู้สึกยินดีบางอย่างผลิดอกขึ้นมาในใจ

ทั้งๆ ที่คนคนนี้ทำแบบนั้นกับเธอ ทั้งๆ ที่คนคนนี้ทำให้อันน่าหายไป.. ทำไม.. ทำไมเธอถึงได้รู้สึกแบบนั้นกันนะ..

ตลอดมา เธอนั้นมีความคาดหวังว่าจะได้รับการยอมรับจากเลทิเซีย.. เธออยากจะเป็นเพื่อนกับเธอคนนี้..

เธออยากจะอยู่ข้างๆ ในตอนแรกเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแต่เมื่อเวลาผ่านไปเธอถึงได้เข้าใจว่า.. เธอคนนี้เป็นคนที่มีนิสัยที่ดี

ถึงปากบอกจะรำคาญแต่ก็จะเอาอาหารให้ซิลเวียเสมอ.. เป็นคนที่พยายามใส่ใจความคิดคนอื่นเสมอ…

ตรงส่วนนี้อาจจะเป็นเพราะเลทิเซียต้องทำเพื่อที่จะหลบหลีกสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อตนเอง.. แต่ในมุมมองของชาร์ล็อตมันเป็นเช่นนั้น

เป็นคนที่ขยันกว่าใครๆ เธอตั้งใจเรียนแม้บางอย่างจะรู้อยู่แล้วเธอก็ยังจดลงสมุดอยู่ดี.. ทุกอย่างที่ว่ามามันทำให้ชาร์ล็อตรู้สึกว่า..

บางทีถ้าได้เป็นเพื่อนกับคนคนนี้คงจะดี เพราะงั้นเธอจึงพยายามเพื่อที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของอีกฝ่ายเสมอมา..

จนเวลาผ่านไปความสัมพันธ์ทั้งคู่แน่นแฟ้นขึ้น แม้จะเพียงในมุมมองของชาร์ล็อตเพราะทุกครั้งที่เลทิเซียเข้าใกล้เธอจะเป้นท่าทางที่ผ่อนคลายอยู่เสมอ

ซึ่งแน่นอนว่าชาร์ล็อตไม่ทราบถึงเหตุผลของการกระทำอันน่าที่ต้องการให้เป็นแบบนี้ เพราะงั้นเธอถึงได้คิดว่าเธอกับเลทิเซียเป็นเพื่อนกันแล้ว

แต่พอเหตุการณ์นั้น เหตุการณ์ที่เลทิเซียระเบิดอารมณ์ใส่ มันทำให้ความคิดทั้งหมดของชาร์ล็อตหายไป..

เธอเข้าใจผิดมาโดยตลอด.. ใช่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจนเธอผิดหวัง.. อีกฝ่ายไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นเพื่อนเลย..

แต่ว่าตลอดระยะเวลาหลายวันหลังจากนั้น.. เธอยังคงคาดหวังอยู่ว่าเลทิเซียจะเปลี่ยนใจ เพราะงั้นเธอจึงไม่ได้จากไปในทันที..

แน่นอนว่าถึงแม้จะถูกทำแบบนั้นใส่แต่ก็เพราะชาร์ล็อตเป็นคนเช่นนั้น เธอถึงได้คาดหวังอยู่ลึกๆ ว่า มันต้องไม่เป็นแบบนี้.. ไม่ใช่แบบนี้..

เธอรอ.. รอ..และก็รอแต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน เลทิเซียกลับไม่ได้พูดอะไร จนเธอเลือกที่จะจากไป

เธอได้แต่หัวเราะสมเพชให้ตัวเองที่ยังคาดหวัง.. พร้อมกับตัดสินใจจากไป.. แต่ด้วยความที่ตัดไม่ขาดเธอจึงทิ้งจดหมายไว้ให้ด้วย..

พอมาคิดถึงเรื่องราวในตอนนั้นชาร์ล็อตถึงได้รู้ว่าตัวเองมันน่าสมเพชขนาดไหน… จนกระทั่งคำพูดนั้นหลุดออกมาจากปากเลทิเซีย

หัวใจของเธอสั่นสะท้านราวกับความหวังอันริบรี่ที่อยู่ในใจถูกจุดติดมาอีกครั้ง มือของเธอกุมหน้าอกด้วยความสับสน

“ไม่.. ไม่ใช่แบบนี้…”

มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ ถ้าหากเธอไปดีใจกับอะไรแบบนี้… ไปดีใจกับคำพูดของคนที่ทำให้อันน่าหายไปแบบนี้..

มันก็ไม่ต่างจากการ..หักหลังเธอไม่ใช่หรือไง.. ชาร์ล็อตปฏิเสธความรู้สึกของตัวเอง แต่มันช่างน่าตลกที่ยิ่งปฏิเสธความดีใจนั้นยิ่งชัดเจนขึ้น

“ไม่ๆ … ข้า.. ข้าต้องไม่เห็นแก่ตัวแบบนี้…”

เธอพึมพำด้วยความสับสน.. แต่ทว่าหัวใจของเธอกลับเต้นระรัวขึ้น เสียงหัวใจที่เต้นอยู่ในอกมันดังชัดขึ้นราวกับหูของเธอจ่ออยู่กับหน้าอกตัวเอง..

เสียงหัวใจที่สั่นระรัวไปด้วยความดีใจ.. แบบนี้มัน.. แบบนี้มัน…

“มันต้องไม่ใช่แบบนี้”

เธอตะโกนออกมาพร้อมกับยกมือขึ้น เสียงหัวใจที่เต้นราวกับกำลังมีความสุขนั้นเธอโกรธ.. โกรธมัน.. โกรธตัวเอง…

มาดีใจอะไรกัน.. เธอจะเห็นแก่ตัวไม่ได้โดยเฉพาะกับอันน่าที่หายไป.. เพราะงั้น.. เพราะงั้น

“หยุดสักทีเถอะ”

เธอร้องออกมาพร้อมกับแทงมือเข้าไปในหน้าอกอย่างรวดเร็วพยายามจะทำลายหัวใจของตัวเธอเอง.. แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ว่าพลังฟื้นฟูของอสูรจะทำงานหรือเปล่า

เพราะบางครั้งก็อาจจะตายจริง บางครั้งก็อาจจะฟื้นฟู ดังนั้น.. พวกเขาไม่มีทางรู้เลยว่าหากชาร์ล็อตตายในตอนนี้เธอจะตายจริงๆ หรือเปล่า

ฮิสครอมที่เห็นภาพนี้เองก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าเด็กที่ชื่อเลทิเซียนี่จะมีอิทธิพลต่อชาร์ล็อตขนาดนี้..

ในขณะที่เขากำลังจะไปหยุด แต่ทว่าเลทิเซียกลับเร็วกว่า ร่างกายเธอปรากฏอยู่ด้านหน้าของชาร์ล็อตพร้อมกับจับมือข้างนั้นของเธอไว้

“มันต้องไม่ใช่แบบนี้.. ไม่ใช่แบบนี้.. ข้า..ข้า…”

เธอพยายามดิ้นรนแต่ว่าแรงของเธอไม่เพียงพอต่อการดิ้นรนให้หลุดจากมือเลทิเซียที่ใช้เวทมนตร์เสริมกำลังได้แน่นอน

เลทิเซียที่มองใบหน้าของชาร์ล็อตดวงตาของเธอเผยถึงความอ่อนโยน.. อย่างน้อย.. ในตอนนี้.. ชาร์ล็อตก็อยู่ใกล้เธอที่สุดแล้ว..เธอไม่มีทาง..จะสูญเสียไปอีกแน่..

ไม่มีวัน..

“ปล่อยข้า.. เจ้ามันฆาตกร.. ฆาตกร..”

เธอร้องไห้ออกมาด้วยน้ำตาพร้อมกับดิ้นรน

“ฉันขอโทษ”

เลทิเซียตอบด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินเพียงแค่สองคน

“ขอโทษ.. ขอโทษงั้นเหรอ.. ฮ่าๆ .. คิดว่าคำขอโทษมันชุบชีวิตอันน่าขึ้นมาได้หรือเปล่า .. เป็นเพราะเจ้า!!!!”

เธอร้องออกมาด้วยความโมโห.. เลทิเซียไม่ได้ปฏิเสธหรือบอกปัด

“ถึงแบบนั้น.. ฉันก็จะไม่ยอมปล่อยอยู่ดี.. เพราะว่า.. ฉันไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรไปอีกคนแน่.. การสูญเสียน่ะมันมากเกินพอแล้วล่ะ.. เพราะงั้นกลับกันเถอะ”

เลทิเซียกล่าวเสร็จก็ปล่อยมือออกจากแขนอีกฝ่ายเพียงแต่เธอไม่ได้ถอยออก ตรงกันข้ามเธอยกมือขึ้นและโอบกอดชาร์ล็อตเอาไว้

“ฉันไม่ยอมสูญเสียเธอไปอีกคนแน่.. เพราะว่าเธอคือคนสำคัญของฉัน”

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท