การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 275

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 275 – ลบการดำรงอยู่

ไหล่ที่ถูกกอดแน่นด้วยแขนทั้งสองข้างของเลทิเซียก็สั่นไหวเล็กน้อย.. ความรู้สึกถูกกอดโดยใครสักคนนี้..

ชาร์ล็อตไม่รู้ว่านี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่า แต่ทว่าเมื่อชาร์ล็อตถูกกอด ร่างกายที่พยายามต่อต้านนั้นก็สั่นไหว

เต็มไปด้วยความงุนงง เธอสัมผัสถึงความอบอุ่นนี้ได้ เป็นความอบอุ่นที่เป็นรูปเป็นร่าง.. ที่เหมือนเกิดมาเพื่อมอบให้เธอเพียงคนเดียวในตอนนี้..

แต่ว่า.. แบบนี้มันดีสำหรับเธอแล้วอย่างงั้นเหรอ.. แล้วอันน่าล่ะ.. อันน่าที่หายไปชาร์ล็อตควรจะทำอย่างไร..

ตัวอันน่าน่ะ.. ตลอดมาเธอมัวแต่เอาปฏิเสธคนอื่นอยู่เสมอ.. จนแม้แต่ตอนที่เธอจากไป ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าทำไม..

แล้วการที่ตัวชาร์ล็อตมารู้สึกแบบนี้ มาดีใจแบบนี้.. อยู่คนเดียวมันได้งั้นเหรอ.. ไม่ใช่ว่ามันไม่ต่างจากการหักหลังเธออย่างงั้นเหรอ

อันที่จริงชาร์ล็อตที่เติบโตมากับอันน่า เธอรู้ดีกว่าใคร.. ว่าอันน่าคงไม่ได้หายไปเพราะคำพูดเลทิเซียหรอก..

ถึงจะไม่รู้เหตุผล แต่อาจจะเป็นเพราะเธอคิดอะไรอยู่ของเธอนั่นแหละ..

การโทษเลทิเซียนั้นเป็นเพียงข้ออ้างให้กับเธอเท่านั้น.. เพราะในตอนนี้เธอไม่รู้ว่าอันน่าทำไมถึงหายไป ทำไมถึงจากไปโดยไม่มีคำร่ำลา

เพราะงั้นชาร์ล็อตจึงได้สับสนในเส้นทางของตัวเองว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป

เพราะตลอดมาเธอเอาแต่พึ่งอันน่า.. พอมารู้ว่าคนโลกนี้โหดร้ายเช่นนี้แล้วเธอควรจะทำยังไงดี..

ทุกอย่าง ทุกคำพูดตั้งแต่วันนั้น วันที่ทะเลาะกับเลทิเซีย ชาร์ล็อตแทบจะใช้ชีวิตอยู่ในวังเวงเช่นนี้.. ไม่มีคนตอบคำถามของเธอได้นอกจากตัวเธอเอง

ความสับสนที่ไร้คำจะบรรยายมันจึงระเบิดออกมากลายเป็นความโกรธ.. ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัส..

เป็นความรู้สึกที่เคยอยู่กับอันน่าเพียงเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงเชื่อคำพูดของฮิสครอมและมายืนอยู่ตรงนี้ พอเลทิเซียปรากฏขึ้น ความโกรธที่อัดแน่นมันจึงถูกทิ้งใส่เลทิเซีย

ใช่ เธอโทษทุกอย่างให้เลทิเซียเพื่อให้ตัวเองสบายใจ.. ถึงจะอย่างไรซะชาร์ล็อตก็อายุเพียงสิบสามปีเท่านั้น

เธอเป็นเพียงเด็กที่ต้องแบกรับปัญหามากมาย เธอไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เหมือนสเตฟานี่ที่ถูกสถานการณ์บีบบังคับให้เรียนรู้

ไม่มีปัญหากับครอบครัวที่ยากจะไถ่ถอนเหมือนเซเรสหรือไม่ได้มีพลังในการมองเห็นอนาคตเหมือนกับโคลเอ้

เธอเป็นเด็กอย่างแท้จริงที่ไม่รู้จักความดีชั่วของโลกใบนี้จนกระทั่งเมื่อไม่นานที่ผ่านมา.. เธอไม่รู้จริงๆ ..

เพราะงั้นถึงได้ถูกควบคุมโดยฮิสครอม.. แม้บุคลิกเธอจะแปรเปลี่ยนแต่ท้ายที่สุดแล้วเธอยังเป็นเด็กเมื่อได้รับความอบอุ่นที่ไม่เคยเจอ

มันก็ต้องสับสนและลังเล แต่ตัวตนของอันน่ายังฝังลึกในใจ ตัวเธอในตอนนี้มีความสุขอยู่แบบนี้ มันดีต่ออันน่าจริงๆ เหรอ

เพราะความรู้สึกด้านลบที่ไม่เคยมีมาอยู่กับเธอจึงมีทั้งความกังวล สับสนและไม่เข้าใจเต็มไปหมด จากไม่เคยคิดอะไรเลยกลายเป็นว่าแทบจะคิดทุกๆ อย่าง

เธอในตอนนี้เป็นเช่นนั้น..

และจะเป็นแบบนั้นไม่ได้…เช่นกัน..

“ปล่อยข้า!!!”

ชาร์ล็อตพยายามจะดิ้นรนและตะโกน แบบนี้.. แบบนี้มันขี้โกง ถึงจะหาเหตุผลที่สวยหรูมาอธิบายแต่ท้ายที่สุดทุกอย่างก็เริ่มต้นจากตัวเลทิเซีย

ชาร์ล็อตไม่ผิดที่จะโทษเธอคนนี้ แน่นอนเลทิเซียเองก็รู้เรื่องนั้นดี.. แต่เลทิเซียเองก็เลือกทางเดินแล้ว..

เมื่อก้าวไปในเส้นทางที่ตัวเองตั้งไว้ เลทิเซียจะเป็นคนที่ไม่มีความสงสัยต่อความคิดของตัวเองเลย.. เรื่องนี้เอานิสัยเลทิเซียที่ผ่านมาเป็นหลักประกัน

ตลอดมาเธอเชื่อในสิ่งที่ตนเองเชื่อแทบจะไม่เคยนึกสงสัย.. นั่นเป็นเพราะว่าตลอดมาเธอเชื่อแบบนั้นนั่นเอง..

แต่ในตอนนี้เธอได้เปลี่ยนไปแล้ว และทางเลือกของเธอก็จะไม่มีทางสั่นคลอนโดยง่ายอย่างแน่นอน

“ฉันน่ะนะ.. สูญเสียไปมากมายเกินพอแล้วล่ะชาร์ล็อต… สเตฟานี่.. เซเรส โคลเอ้และอันน่าเองก็สำคัญกับฉันเช่นกัน..”

“สี่คนเลยนะ.. เพื่อนที่แสนสำคัญสี่คนของฉันตายไปหมดแล้วชาร์ล็อต.. พวกเธอตายเพราะมีฉันเป็นต้นเหตุทุกคนเลย”

เลทิเซียกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเบาๆ จนแม้แต่ชาร์ล็อตยังสังเกตเห็นแต่เพราะถูกกอดแน่น ใบหน้าของเลทิเซียพาดข้ามไหล่ไปเธอจึงไม่มีทางรู้ว่าเลทิเซียในยามนี้ทำหน้าแบบไหนกันแน่

“เพราะงั้น.. ฉันน่ะ.. ไม่มีทางที่จะเสียเธอไปอีกคนแน่ชาร์ล็อต… ไม่มีทางที่จะปล่อยมือเธอไปอีกแล้ว… ไม่ยอมให้เธอทำสีหน้าเจ็บปวดแบบนั้นอีกเช่นกัน”

“ฉันขอโทษกับทุกอย่างที่ฉันทำในอดีต.. ฉันไม่คิดว่าเธอจะยกโทษให้กับคนแบบฉัน.. แต่ว่า.. แต่ว่านั่นก็ไม่เกี่ยวกับเหตุผลที่ฉันจะพาเธอไปจากสถานที่เฮงซวยแบบนี้เหมือนกัน”

“ฉันจะทำให้เธอ..มีความสุขให้ได้… เพราะแบบนั้นมันเหมาะกับคนแบบนั้นมากกว่าไงล่ะ.. เธอน่ะไม่เหมาะที่จะแสดงสีหน้าน่ากลัวแบบนั้นเลยสักนิด”

“เพราะงั้น..กลับกันเถอะ..”

เสียงอ่อนโรยจากเลทิเซียนั้นทำให้ชาร์ล็อตสัมผัสว่าน้ำเสียงของอีกฝ่ายมีทั้งความเหนื่อยล้าและว่างเปล่า..

แน่นอนล่ะ ในรยะเวลาสั้นๆ .. ที่พึ่งผ่านมาเพื่อนเธอตายไปถึงสามสี่คน.. เธอเหนื่อยมากพอแล้ว.. ไม่อยากจะเสียใจอีกแล้ว..

ดังนั้นคำพูดที่ดังขึ้นก่อนหน้านี้ทั้งยังเต็มไปด้วยความเสียใจรู้สึกผิด..และอัดแน่นไปด้วยคำขอร้องอ้อนวอน..

น้ำแข็งที่อยู่ภายในใจของชาร์ล็อตสั่นคลอน.. เธอสับสนหัวใจเต้นระรัว.. คำพูดกับคนที่เคยชอบ..

ไม่สิ คนที่ชอบแม้จะยังคงมีความเกลียดชังในเวลาเดียวกัน..บางที นี่คงเป็นสิ่งที่เรียกว่าทั้งรักทั้งเกลียดในเวลาเดียวกัน..

เมื่อเธอถูกพูดแบบนั้นใส่.. มันก็ทำให้หัวใจสั่นไหว.. แต่เธอยังปฏิเสธ

แต่ไม่ว่าจะปฏิเสธยังไงสุดท้ายแล้วก็ไม่อาจปฏิเสธมันได้อย่างแน่นอนอยู่ดี นั่นคือสิ่งที่พิสูจน์ว่าเธอนั้นไม่ต่างจากมนุษย์เลย

เธอก้มหน้าลงพร้อมกับกล่าว.. การดิ้นรนที่ค่อยๆ เบาลง..

“ขี้โกง.. แบบนั้นมันขี้โกงเกินไปแล้ว.. ทั้งๆ ที่เป็นเลทิเซียแท้ๆ .. ทั้งที่เป็นต้นเหตุแท้… ทำไม..พอทำเสียงแบบนั้น.. ข้าถึงได้..”

“ชาร์ล็อต..”

“ข้าน่ะ.. ข้าน่ะ… เพื่ออันน่าแล้วต้องล้างแค้นให้เธอให้ได้.. ฉันน่ะ.. มีความสุขอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก”

ในที่สุดชาร์ล็อตก็ยอมที่จะพูดคุยกับเลทิเซียอย่างแท้จริง.. แต่พอชาร์ล็อตพูดแบบนั้นเลทิเซียก็ส่ายหน้าอย่างอ่อนโยน

“ไม่… เธอลองนึกให้ออกสิ.. ตลอดเวลาที่อยู่กับอันน่า ตลอดเวลาที่พวกเธออยู่ด้วยกันมา อันน่าน่ะ—”

“ทำเพื่อข้า!!เรื่องนั้นข้ารู้อยู่แล้วล่ะ.. แต่ก็เพราะแบบนั้น.. ข้าน่ะยังไม่เคยตอบแทนเธอเลย.. ไม่พอ พอเธอตายข้ายังไปมีความสุขอยู่คนเดียวอีกแบบนั้นมัน.. แบบนั้นมันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือไง”

เธอร้องออกมา แต่เลทิเซียกลับผละเธอออกจากอ้อมกอด มือสองข้างเลทิเซียจับที่ไหลของชาร์ล็อตสายตาของเธอจ้องทะลุเข้าไปในดวงตาของชาร์ล็อต..

“แล้วเธอคิดว่า.. แบบนั้นคือสิ่งที่อันน่าต้องการจริงๆ อย่างงั้นเหรอ…”

“แต่นั่นมันก็แค่ข้ออ้างในการมีความสุขไม่ใช่หรือไงกัน”

ชาร์ล็อตปฏิเสธความคิดนั้น เพราะถึงมันจะดูดี แต่มันก็เป็นคนพูดฝ่ายเดียวเอาดีเข้าตัวเพื่อที่จำให้ตนเองสามารถมีชีวิตอยู่โดยไม่เสียใจ

แบบนั้นมันก็เห็นแก่ตัว.. ที่ชาร์ล็อตต้องการไม่ใช่ความจริงแบบนั้นสักหน่อย.. แต่ทว่าเลทิเซียก็ยังยืนยันคำเดิม

“มันต้องไม่ใช่แบบนั้นอยู่แล้วนี่ ที่อันน่าทำทุกอย่างไม่ใช่ว่าเพราะต้องการให้เธอมีความสุขไม่ใช่หรือไงกัน!!”

ในชั่ววินาทีนั้น เสียงของเลทิเซียดังก้องไปสู่โสตประสาท.. ภาพอันน่าในหัวของชาร์ล็อตก็ลอยเข้ามาไม่หยุด..

ใช่ ทุกอย่างที่อันน่าทำน่ะเพื่อเธอทั้งนั้น พอมามองย้อนดูในตอนนี้ตัวอันน่าที่ทำร้ายคนอื่นก็เพื่อปกป้องชาร์ล็อตทั้งนั้นเลย

“ข้า…”

เธอไม่รู้.. ไม่สิ เธออาจจะรู้แต่เธอแค่ไม่อาจจะเห็นแก่ตัวได้.. แต่เมื่อคิดลบอยู่แบบนั้นมันกลับกลายเป็นว่าเหมือนเธอกำลังดูถูกอันน่าอยู่เสียเอง

อันน่าจะแค้นตนเองแน่ที่ตนเองมีความสุขแม้อันน่าจะตาย.. แบบนั้นไม่ใช่ว่ามันคือการดูถูกอันน่ามากกว่าเดิมอีกเหรอ..

“ข้า…”

ทุกสิ่งอย่างที่เลทิเซียกล่าวออกมาวนอยู่ในหัว.. รอยยิ้ม เสียงพูด คำต่อรอง การเรียนรู้หรือการเติบโต

ทุกอย่าง ความสัมพันธ์ของเธอกับอันน่าเพียงแค่สองคนลอยเคว้งขึ้นมาในหัว.. มันราวกับเป็นแสงระยิบระยับที่ล้ำค่าที่สุดสำหรับเธอ

เป็นเหมือนกับมวลดาราบนฟากฟ้ายามราตรี.. แต่แสงนั้นก็ไม่สามรถเกิดขึ้นใหม่ได้อีกแล้ว ทั้งความสุขของอันน่า ทั้งความโกรธทั้งการปกป้องจากอันน่า.

มันไม่สามารถเกิดขึ้นได้อีกแล้ว.. เธออยากจะกุมแสงนั้นไว้.. ใช่ ไม่ใช่การดูถูกแสงแห่งความทรงจำเหล่านี้..

แต่เป็นการเก็บมันไว้และจดจำมันตลอดกาล.. น้ำตาเธอไหลออกมาจากดวงตาอีกครั้ง.. เป็นน้ำตาที่โศกเศร้าที่ยากจะบรรยาย..

เป็นเหมือนน้ำตาแห่งการจากลาอย่างแท้จริง… แท่นน้ำแข็งภายในอกของเธอค่อยๆ แตกสลายลง.. เธอเงยหน้าขึ้น.. เงยหน้าขึ้นมองเลทิเซีย

น้ำตาที่ไหลบ่าออกจากเดวงตาน้ำมูกที่ไหลออกจากจมูกราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่ง.. ที่สูญเสียครอบครัวไป..

“ข้า.. สามารถ… มีความสุขได้จริงๆ ใช่ไหม..”

เลทิเซียยิ้มออกมา..

“นั่นแน่นอนอยู่แล้ว.. ไม่สิ.. ฉันจะเป็นคนที่ทำให้เธอมีความสุขเอง..”

“…..”

ความอ่อนโยนที่ส่งผ่านมานั้นทำให้หัวใจที่แห้งเฉาของเธอกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง.. แต่ทว่าในชั่วพริบตาต่อมาเลทิเซียก็ผลักชาร์ล็อตจนล้มลงไป

ทำให้เธอสับสน แต่ในพริบตาต่อมาโซ่สีทองและสีแดงหลายสิบเส้นที่พันกันเป็นเกลียวก็พุ่งทะลวงผ่านหน้าอกของเลทิเซียส่งผลให้เลือกสาดกระจายไปทั่วอาบบนร่างของชาร์ล็อต..

ปลายโซ่ที่พุ่งทะลุมีหัวใจสีแดงฉานเท่ากำปั้นของเลทิเซียอยู่.. ทว่ามันไม่หยุดเพียงแค่นั้น.. โซ่ที่เคยกลายเป็นเกลียวก็แยกจากกัน..

ภาพอันโหดร้ายบังเกิดขึ้น เมื่อโซ่ทะลุผ่านหน้าอกเลทิเซียมันก็แยกออกจากกันพุ่งเข้าไปโอบรัดเลทิเซียและ..โซ่นั้นบีบรัดร่างกายเลทิเซียจนเลือดสาดออกมาจากร่องโซ่และในเวลาเดียวกัน..

ร่างกายของเลทิเซียก็สูญสลายหายไปจากโลกใบนี้.. ทั้งๆ ที่พลังมันไม่ควรจะมีผลกับเลทิเซียเพราะการสะท้อนของอามาเระ…

แต่ทว่ามันกลับเกิดขึ้น.. การดำรงอยู่.. ดวงวิญญาณ..กายหยาบทุกอย่างของเลทิเซีย.. ถูกลบออกไปเหลือเพียงเลือดที่อาบอยู่บนร่างของชาร์ล็อตเท่านั้นที่เป็นของจริง..

“อา.. อา… อา..”

ปากของชาร์ล็อตได้เพียงส่งเสียงด้วยความสับสนออกมา..

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท