บทที่ 292 – การต่อสู้ชิงไหวพริบ
การปะทะที่รุนแรงซึ่งเกิดขึ้นกะทันหันนั้นไม่ได้สร้างความแตกตื่นให้ผู้คนอย่างน่าประหลาด เพราะไม่มีแสงแตกตื่นเลยในเมืองแห่งนี้
“เลทิเซีย!!”
ซิลเวียรีบพุ่งไปหาเลทิเซียด้วยความเป็นห่วงแต่ทว่า เงาสีดำหนึ่งก็พุ่งมาหาเธอด้วยความเร็วสูง ลำแสงสีดำตัดผ่านอากาศโจมตีใส่เธอ
แม้ซิลเวียจะไร้พลังในตอนนี้ แต่เธอหาได้ไร้ประสบการณ์ ไม่สิ ในฐานะเทพแห่งสงครามจะมีใครมาเทียบเคียงเธอได้กัน
ปฏิกิริยาตอบสนองดีเลิศทำให้เธอพลิกตัวหลบกลางอากาศได้อย่างรวดเร็ว แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ได้มีคนเดียว
เพราะในเวลาที่เธอบิดตัวหลบกลางอากาศ เสียงเหล็กกระทบกันปรากฏขึ้นด้านหลังของเธอพร้อมกับมีกำปั้นขนาดเล็กโจมตีใส่กลางหลัง
ซิลเวียหมุนตัวกลับไปหาอีกฝ่ายพร้อมกับตั้งการ์ด ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาอย่างไม่กักเก็บ แต่ทว่าทันทีที่ปล่อย กดเกณฑ์บางอย่างก็บีบอัดใส่เธอ
ส่งผลให้เธอถูกพลังตีกลับจนกระอักเลือด หมัดนั้นยังตรงใส่กลางอกของซิลเวียอย่างรุนแรง
ร่างซิลเวียดิ่งลงพื้นตามเลทิเซียไปติดๆ มันควรจะเป็นแบบนั้นแต่ทว่า หมัดนั้นกับยังไม่ถึงร่างซิลเวีย
เลทิเซียก็มาอยู่ข้างซิลเวียตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้พร้อมกับหมัดที่ซัดใส่เงาปริศนาดังกล่าวจนกระเด็นกลับหลังไปหลายตลบ
ซิลเวียกับเลทิเซียเองก็ถูกผลักดิ่งลงพื้นจนเกิดแรงปะทะอีกครั้ง..
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ข้าไม่เป็นไร.. ว่าแต่เจ้า…”
ซิลเวียมองเลทิเซีย พบว่าเธอไม่มีบาดแผลเลยสักนิดเดียว ซึ่งมันทำให้เธอแปลกใจไม่น้อย อันที่จริงต่อให้เลทิเซียก็อาจจะมีแผลบ้าง
จากการรอบโจมตีจากเงาปริศนาเมื่อกี้ แต่เหมือนจะไม่มี เหตุผลเป็นเพราะแม้จะมาเที่ยวสบายๆ เลทิเซียก้ไม่เคยลดการระวังตัว
เพราะเธอตามข่าวโลกใบนี้อยู่ตลอดจากลาน่า นั่นหมายความว่ามีโอกาสอยู่เยอะที่จะถูกหมายหัว
โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ไอ้คนที่เรียกตนเองว่าจักรพรรดิมังกรอะไรนั่น ที่แอบดูอยู่ห่างๆ แล้วมาทำเป็นผู้ดีทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ยื่นมือมายุ่ง
แถมยังทำลายอาณาจักรมิราลิสด้วย.. เลทิเซียหันไปมองรอบๆ พบว่ารอบตัวของเธอนั้นไม่มีคนอยู่แล้ว
“นี่มันหมายความว่าไง…”
แต่ในตอนนั้นเองเสียงที่เหมือนจะคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากฟากฟ้า..
“สุดยอดไหมล่ะ นี่คือพลังของท่านพี่ข้าไงล่ะ”
“ข้าบอกไปกี่หนแล้วว่าให้สำรวมหน่อยเฟรย์ย่า”
“ก็ท่านพี่เล่นยิงแสงบีมเลยนี่น่า ถ้าข้าทำตามเดี๋ยวมันซ้ำพอดีน่ะสิ”
“……”
เลทิเซียเงยหน้าขึ้นไปมอง ใช่ เธอเป็นเด็กผู้หญิงสองคนหนึ่งในนั้นคือคนที่เธอเคยเห็นมาก่อนแล้วเมื่อห้าปีก่อน
ในมิติชิ้นส่วนเวหา.. ไอ้เจ้าเทพมังกรแห่งความสิ้นหวัง… ส่วนอีกคนเหมือนจะเป็นพี่สาว อันที่จริงนี่เป็นครั้งที่สามที่เฟรย์ย่าได้เจอเลทิเซีย
แต่สำหรับเลทิเซียเป็นครั้งที่สองเท่านั้น เพราะครั้งหนึ่งเธอสลบไม่ได้สตินั่นเอง.. อย่างไรก็ตามพอเลทิเซียมองเห็นหน้าเฟรย์ย่า
ความทรงจำเมื่อตอนนั้นลอยกลับมาเลย.. เธอรู้ว่าในตอนนั้นไอ้ตัวนี้มันทำอะไรไว้บ้างและทราบถึงความแข็งแกร่งของมันดี
“เลทิเซียเจ้าพวกนี้มัน..ไม่ใช่คนบนโลกนี้”
ทันทีที่ซิลเวียมองดวงตาของเธอก็มองทะลุผ่านร่างกายของพวกเขาราวกับว่ามองเข้าไปเห็นถึงต้นกำเนิดบางอย่าง..
น่าแปลกที่เธอไม่รู้ว่าเลทิเซียมาจากต่างโลกเหมือนกัน แต่พอเป็นสองคนนี้เธอรู้ทันที เลทิเซียพยักหน้าตอบ..
“ใช่… รู้สึกว่าจะมาจากชิ้นส่วนเวหาน่ะ.. แถมความแข็งแกร่งมัน…”
“อาจะมากกว่าข้าซะอีก”
เลทิเซียที่ได้ยินแบบนั้นก็หรี่ตาลง อันที่จริงซิลเวียยังไม่รู้ว่าพลังของตัวเองถูกผนึก นั่นหมายความว่าเธอยังคิดว่าตัวเองมีพลังเท่าตอนอยู่บนโลกเทพ..
แต่เธอบอกว่า.. เจ้าพวกนี้อาจจะเก่งงกว่า.. นี่มันหมายความว่าเจ้าพวกนี้ที่มาจากต่างโลกนี่.. เก่งกว่าเทพซะอีก?
เลทิเซียขมวดคิ้ว เธอคิดแผนไว้มากมายหากมีคนที่แข็งแกร่งกว่าตนเองก็พอจะมีวิธีรับมือ.. แต่อีกฝ่ายดันเก่งกว่าเทพเลยนะ
ในขณะเดียวกันเมย์อาผู้เป็นพี่สาวของเฟรย์ย่า เทพมังกรแห่งวินัยก็กล่าวขึ้นพลางถอนหายใจ
“เอาเถอะ นี่ก็เพื่อเผ่าของพวกเรา.. เขตแดนแห่งระเบียบของข้าอยู่ได้ไม่นานในต้นกำเนิดนี้หรอกนะ รีบจัดการเถอะ”
“เข้าใจแล้วน่า ท่านพี่เองก็เอาจริงด้วยล่ะ”
ทั้งคู่คุยกันเสร็จไม่รอให้เลทิเซียคิดแผน เฟรย์ย่าก็ยกนิ้วขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่เลทิเซียกับซิลเวีย
“เจอกันรอบนี้ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปหรอกนะ หลบให้ทันล่ะ”
เธอพูดแบบนั้นเสร็จ… ลมหายใจมังกรถูกยิงออกมา ลำแสงสีเทานั้นพุ่งดิ่งใสเลทิเซียด้วยความเร็วที่เหนือกว่าแสง
แต่เลทิเซียนั้นตอบสนองราวกับสายฟ้า เธอผลักซิลเวียออกด้านข้างพร้อมกับหลบไปอีกข้างทำให้ลำแสงนั้นพุ่งทะลุผ่านลงดิน
“หลบดีนี่.. แต่ข้าบอกไปแล้วนะหลบดีๆ ดีสองครั้งหมายความว่าไม่ใช่แค่ครั้งเดียวไงล่ะ”
ทันทีที่เฟรย์ย่ากล่าวแบบนั้น เลทิเซียก็เบิกตากว้าง ลำแสงที่พุ่งทะลุผ่านลงไปใต้พื้นกินกลับไม่หายไปเพราะมันวกกลับมาใส่เธออย่างรวดเร็ว
เลทิเเซียตอบสนองอย่างว่องไวดาบสีดำในมือปัดใส่ลำแสงสีเทานั้นจนมันถูกปัดออกด้านข้าง
“รู้ตัวแล้วเหรอว่ามันคือ… การโจมตีที่ต้องโดนแน่นอน… แต่น่าเสียดายถึงโดนไปแล้วมันก็ไม่หยุดหรอกนะ เพราะนั่นคือ… ลำแสงที่จะฆ่าเจ้าให้ตายไม่ใช่โดนเจ้าแน่นอนไงล่ะ”
เฟรย์ย่าสาธยายอย่างมีความสุข มั่นใจมากว่าลำแสงนี้จะฆ่าเลทิเซียได้.. เพราะอันที่จริงลำแสงนี้หากปล่อยใส่ซิลเวียที่มีพลังเต็มที
เธอยังตายได้เลย.. แต่ทว่า…นี่คือเลทิเซีย
“งั้นแค่ตายก็พอใช่ไหม?”
เลทิเซียกล่าวแบบนั้นพร้อมกับกางแขนออกลำแสงสีดำพุ่งทะลวงใส่หัวใจของเลทิเซียจนหน้าอกเป็นรู..
ยังไม่พอวิญญาณของเธอยังถูกกัดกร่อนราวกับ.. ถูกฆ่ายันวิญญาณและสลายหายไปทั้งแบบนั้น..
“เลทิเซีย!”
ซิลเวียตะโกนออกมาด้วยความตกใจ ในฐานะที่เป็นเทพเธอใกล้ชิดกับวิญญาณในระดับหนึ่ง เธอรู้ว่าโลกนี้วิญญาณไม่มีทางดับสลาย
ต่อให้ตายก็แค่ไปปรโลกและถูกชำระบาปและไปเกิดใหม่ในฐานะคนใหม่เท่านั้น.. แต่ทว่า.. ทำไมเลทิเซียถูกทำลายวิญญาณได้กัน
“เอ๊ะ ง่ายไปปะเนี่ย”
เฟรย์ย่าที่มองอยู่ก็กล่าวอย่างแปลกใจ ถึงจะมั่นใจมากว่าสามารถฆ่าได้ด้วยท่านี้ แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ต่อต้านเลย แต่ทว่าฉับพลันนั้นเอง..
“ง่ายมาก ฉันหมายถึงเธอน่ะ”
ฝ่ามือเลทิเซียจับไหล่อีกฝ่ายเอาไว้พร้อมกับกล่าวขึ้น.. เฟรย์ย่าเบิกตากว้างแต่ไม่ทันได้ตอบสนอง
“ฉันคืนให้นะ”
พอกล่าวเสร็จการโจมตีที่พึ่งเกิดขึ้นทั้งหมดก็มาอยู่บนร่างของเฟรย์ย่า หน้าอกเธอก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นมีรูโหว่พร้อมกับดวงวิญญาณถูกกัดกินและ..เริ่มมลายหายไป
นี่คือพลังของอามาเระ..
“ข้าบอกไปแล้วว่าอย่าประมาท”
เสียงของเมย์อาดังขึ้นจากด้านหลังของเลทิเซียพร้อมกับแทงมือเข้าไปในหน้าอกของเลทิเซียจนทะลุ
แต่ทันทีที่ทำแบบนั้นเมย์อาเองก็เกิดเหตุการณ์คล้ายกับเฟรย์ย่าขึ้นตามมาติดๆ .. ใช่ที่เลทิเซียแกล้งทำเป็นมาแตะตัวเฟรย์ย่าก่อนค่อยทำให้เธอโดนสิ่งที่ตัวเองโดน
เหมือนกับการเคาน์เตอร์ที่ต้องแตะตัวคนที่จะเคาน์เตอร์ก่อน อีกทั้งยังโดนโจมตีจนหายไปจริงๆ ก่อน ที่จริงเธอทำมาหลอกเมย์อา
เพราะความจริงแล้วความสามารถของอามาเระนั้นไร้ขอบเขตอย่างแท้จริง.. และพอโดนลอบโจมตีจากเมย์อา
เลทิเซียก็แค่สวนการโจมตีกลับ.. แต่ที่เลทิเซียคาดไม่ถึงคือไม่คิดว่าเธอจะทำแค่ควักหัวใจ..
หากเป็นเวลานี้ควรจะใช้ท่าสังหารเธอไม่ใช่หรือ..
“มองออกงั้นเหรอ”
เลทิเซียที่ลอยอยู่บนอากาศก็สลายหายไป พร้อมกับตื่นขึ้นมาบนพื้นในร่างที่พึ่งถูกทำลายไป..
เมื่อกี้คือการสร้างร่างแห่งธรรมชาติขึ้นมาเป็นการผสมระหว่างเวทมนตร์กึ่งมนุษย์และเวทมนตร์มนุษย์ขึ้นมา
ทำให้เธอเหมือนแยกร่างได้ แต่ไม่ใช่การแยกร่าง เป็นการย้ายดวงวิญญาณไปอยู่ในร่างนั้นแทนเสียมากกว่า แรงบันดาลใจท่านี้ได้มาจากไวท์นั่นเอง
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมร่างกายหลักของเธอถึงไม่มีวิญญาณ เพราะเธอย้ายไปอยู่ในร่างนั้นนั่นเอง.. แต่ดูเหมือนว่าคนพี่..จะดูออกงั้นเหรอ…
เป็นการต่อสู้ที่ชิงไหวพริบกันโดยสิ้นเชิง!