บทที่ 293 – การต่อสู้ที่เหนือโลก
“ข้าขอโทษท่านพี่”
“ช่างเถอะ… เอาล่ะมาต่อกันเลยดีกว่า”
เมย์อากับเฟรย์ย่าคุยกันเสร็จก็หันมาทางเลทิเซีย พอเห็นแบบนั้นเลทิเซียก็กล่าวถามออกไป
“คุยกันเสร็จแล้วเหรอ?”
อันที่จริงถึงจะกล่าวเหมือนตัวเองรออีกฝ่ายก็จริง แต่เลทิเซียไม่ใช่คนแบบนั้นอยู่แล้วเธอเองก็วางแผนรับมืออีกฝ่ายเช่นกัน
ในขณะที่เลทิเซียกำลังจะตัดสินใจที่จะโจมตีนั้นเอง.. เสียงบางอย่างก็ดังขึ้นในหัวของเลทิเซีย เป็นเสียงขาดๆ หายๆ
“องค์หญิง.. ท่านอยู่—ที่ไหน.. กันคะ..?”
เสียงขาดๆ หายๆ ยากจะจับใจความดังขึ้น แต่การสื่อสารผ่านจิตแบบนี้เลทิเซียรับรู้ทันทีว่าเป็นลาน่า
แถมน้ำเสียงเธอดูร้อนรนแปลกๆ เลทิเซียจึงตอบกลับทันที
“มีอะไร ฉันโดนลอบโจมตี”
“อะไรนะคะ หรือว่าจะเป็น..”
“ใช่ น่าจะเป็นสองคนที่เธอเคยเล่าตอนนั้น”
แม้เสียงเธอจะขาดๆ หายๆ แต่ไม่ใช่ว่าเลทิเซียจะฟังไม่ออก เธอสามารถโต้ตอบได้ตามปกติ ถึงเลทิเซียจะไม่ค่อยได้ยินเสียงลาน่า
แต่ทางด้านลาน่าก็ได้ยินเสียงเลทิเซียชัดเจนกว่ามาก เพราะไม่ใช่คนที่ถูกปิดกั้น การสื่อสารผ่านจิตไม่เหมือนสัญญาณที่พออยู่ไกลเกินจะมีการสัญญาณขาดหาย
แต่เหมือนในเขตแดนของผู้หญิงที่เป็นพี่สาวของเฟรย์ย่าจะสามารถสะกัดกั้นได้แม้แต่การสื่อสารผ่านจิต
แต่ก็อย่างว่าลาน่าเป็นซัคคิวบัสกับสื่อสารผ่านจิตของเธอจะเรียกว่าการโทรจิตก็ไม่เชิงเพราะเป็นการสื่อสารผ่านทางอารมณ์บางอย่าง เพราะเธอเป็นซัคคิวบัสละนะ
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าเธอถึงไม่สามารถปิดกั้นการสื่อสารของลาน่าได้ แต่ก็เพราะเลทิเซียอยู่ในมิติแปลกๆ เลยทำให้เธอไม่ค่อยได้ยินลาน่าชัด
เพราะเลทิเซียหากตรงกันข้ามถ้าลาน่าน่ามาอยู่ในนี้เลทิเซียอยู่ด้านนอกคนที่ยังได้ยินไม่ชัดก็จะเป็นเลทิเซียอยู่ดี
เพราะคนที่ใช้ความสามารถนี้ไม่ใช่เลทิเซียแต่เป็นลาน่า ที่เป็นปัญหาไม่ใช่เรื่องเขตแดน.. แต่เป็นเพราะกำแพงที่แยกมิตินี้ออกจากมิติในโลกแห่งความเป็นจริงหลัก
ทำให้การสื่อสารค่อนข้างจะยุ่งยาก… อย่างไรก็ตามก็พอที่จะรู้เรื่องได้
“นี่มันเร็วเกินไปแล้วยังไม่หมดสัญญาเลยนะ…แค่กๆ ”
“ช่างเรื่องของฉันก่อน.. มีอะไรเกิดขึ้นก่อน…”
ในขณะที่ลาน่าอธิบายเธอก็ไอออกมาเหมือนกับเกิดเรื่องขึ้น เลทิเซียขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“อ่า.. แย่แล้วองค์หญิง.. โรงเรียนลิเบอร์ถูกลอบโจมตี..”
“ห้ะ.. หมายความว่าไง!!?”
เลทิเซียพูดด้วยเสียงตกใจ.. ลาน่าสูดหายใจเข้าลึกๆ .. พร้อมกับอธิบายช้าๆ
“คือว่า.. พวก…ได้บุกมาที่โรงเรียนเรา.. ตอนที่ท่านจาไกไป.. หลังจากนั้นก็…”
เสียงเธอที่ขาดหายไปทำให้เลทิเซียไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ดวงตาเผยแววร้อนรน.. ถ้าหากบาดแผลของลาน่าเกิดจากการต่อสู้ละก็..
หมายความว่าต้องเป็นศึกหนักแน่.. เพราะลาน่ายังไงซะก็เป็นถึงมือขวาของจอมมาร ฝีมือของเธอนั้นไม่ได้ด้อยเลย..
แน่นอนว่านักเรียนในโรงเรียนนี้ตอนนี้ก็ไม่ได้ธรรมดา อันที่จริงตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่มีการแข่งขันห้าโรงเรียน.. โรงเรียนลิเบอร์จะอยู่อันดับหนึ่งตลอด
เพราะว่าเลทิเซียได้แบ่งปันความรู้ให้คนอื่น.. ดั่งที่เธอกล่าวเธอจะสร้างอาณาจักรของตนเองขึ้นมา..
แต่ว่า.. หากลาน่าสามารถบาดเจ็บได้.. นักเรียนพวกนั้นคงไม่รอดเช่นกัน.. ภาพของทสึรุ.. ชาร์ล็อตและคนอื่นๆ ลอยขึ้นมา..
ดวงตาเลทิเซียเผยความร้อนรน เลทิเซียหันไปพูดกับซิลเวีย
“ซิลเวีย แย่แล้วพวกเราต้องรีบกลั—”
ก่อนที่ทันจะได้กล่าวจบพอหันไปด้านข้างก็เห็นกำปั้นสีดำทมิฬเป็นเกล็ดราวกับเกล็ดมังกรต่อยมาที่ใบหน้า..
ความรุนแรงที่สัมผัสได้จากหมัดที่ต่อยออกมานั้น.. มากพอที่จะถล่มเกาะสองสามเกาะได้สบายๆ ..
เลทิเซียขยับหัวหลบตามสัญชาตญาณ หมัดนั้นพุ่งแก้มเลทิเซียไปอย่างหวุดหวิด แรงลมมหาศาลที่ถูกต่อยออกไปนั้นเกิดคลื่นทำลายล้าง..
พร้อมกับพังทลายเมืองจำลองที่คล้ายกับเมืองหลวงในอาณาจักรอาเดฟไปราวกับเศษไม้ บ้านเมืองถล่มราบเป็นหน้ากลอง
ก่อนที่เฟรย์ย่าที่ลอยอยู่ด้านบนจะตะโกนขึ้นมา
“คุโระจังจัดการเลย”
ตุ๊กตาขาวดำในมือเธอถูกโยนลงมา เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นราวกับภูเขาที่มองไม่เห็นขอบเสียงคำรามของตุ๊กตาสีขาวดำไร้ซึ่งเสียง
แต่ทว่าคลื่นทำลายล้างนั้นกดทับเอาร่างของเลทิเซียเอาไว้จนมิอาจเคลื่อนไหวได้ ไม่สิ… ถ้าจะพูดให้ถูก..
กฎเกณฑ์ของโลกแห่งนี้แปรเปลี่ยนไปแล้วแนวคิดของการเคลื่อนไหวทุกอย่างถูกลบให้หายออกไป.. ทุกสิ่งอย่างในโลกนี้ไม่ว่าจะเศษหิน ดินฝุ่นหรือแม้แต่อะตอม
ทุกอย่างล้วนหยุดนิ่งการเคลื่อนไหวบนโลกถูกลบให้หายไป การเคลื่อนไหวในโลกนี้นั้นหยุดชะงักไปกะทันหัน
เลทิเซียเงยหน้าขึ้นพร้อมกับกำลังจะทำอะไรบางอย่างนั้นเอง..
เสียงดีดนิ้วปริศนาก็ดังขึ้นกฎเกณฑ์ทุกอย่างแปรเปลี่ยนอีกครั้ง แนวคิดแห่งการทำลายล้างล้วนถูกลบให้หายไป
ตุ๊กตาขาวดำที่ลอยอยู่กลางอากาศราวกับเกิดมาจากแนวคิดแห่งการทำลายล้าง.. เมื่อการทำลายล้างหายไปร่างมันก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็วกับเป็นตุ๊กตาดังเดิม
ภายในชั่ววินาทีเดียวกันนั้นเอง เลทิเซียปลดปล่อยพลังทั้งหมดแทบจะทันที ร่างมารถูกปลดปล่อยมาอีกครั้ง คลื่นพลังงานสีดำทมิฬพวยพุ่งออกมาจากร่าง
ทันทีที่พลังนี้พุ่งออกมา เมย์อาเองก็ไหวตัวทันเธอมลายหายไปจากตรงข้างเลทิเซีย แต่ทว่าเลทิเซียกลับสามารถเคลื่อนไหวได้เช่นกันแม้ไม่มีแนวคิดของการเคลื่อนไหว..
ราวกับว่าตัวตนของเธอนั้นอยู่นอกกรอบจำกัดของคำว่าแนวคิดไปแล้ว.. และทุกคนในนี้เองก็เป็นเช่นเลทิเซียพวกเขาสามารถเคลื่อนไหวได้
ในโลกที่กฎเกณฑ์แปแรเปลี่ยนไปมา แต่ทว่านั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่เลทิเซียทำ ทันทีที่ร่างมารเธอเผยออกมานั้นเองพลังลึกลับสามประการก็พวยพุ่งออกมาจากฝ่ามือ
เลทิเซียยกฝ่ามือออกไปชี้นิ้วไปข้างหน้าตัวเองพร้อมกับใช้เวทมนตร์ออกถึงสามแบบ.. เวทมนตร์ปีศาจ มนุษย์และกึ่งมนุษย์..
ราวกับเวทปีศาจนั้นได้รังสรรค์สิ่งที่เรียกว่ากฎเกณฑ์ขึ้นมาใหม่ดั่งที่เธอเคยได้ลบหมึกยักษ์ปริศนาให้ออกไปจากโลก
แต่นั่นยังไม่หยุดเวทมนตร์มนุษย์ที่ถูกบังคับใช้ก้ได้แทรกแซงเข้าไปยังกฎแห่งจักรวาล.. ที่เป็นระยะและเวลา.. ทุกๆ การเคลื่อนไหวล้วนจำต้องใช้ระยะและเวลา
เพียงแต่พี่น้องคู่นี้เขาสามารถเคลื่อนที่ได้แบบไม่ต้องใช้ระยะเวลาซึ่งเลทิเซียก็แทรกแซงเข้าไปในระยะและเวลา..
พร้อมกับบังคับให้..การเคลื่อนไหวอีกฝ่ายที่ไม่ใช้ทั้งระยะเวลาดุจการข้ามมิติกลับมาอยู่ในการเคลื่อนที่ทั่วไปเหมือนเดิม!
และเวทมนตร์กึ่งมนุษย์ที่ใช้ออกนั้น.. บังคับให้อีกฝ่ายนั้นอยู่ในฝ่ามือของเลทิเซียอย่างที่ควรจะเป็น
ราวกับนี่แหละคือความดั้งเดิมของธรรมชาติ.. จะพูดง่ายๆ จากการทะลุมิติของอีกฝ่ายถูกเลทิเซียเปลี่ยนเป้นอีกฝ่ายเดินมาให้เลทิเซียบีบคออย่างง่ายดาย
ทุกสิ่งอย่างเกิดขึ้นก่อนที่เวลาจะไหลไปข้างหน้า เมย์อาที่รู้สึกตัวอีกทีก็ตกอยู่ในมือของเลทิเซียแล้วอย่างน่าตกตะลึง..
ใช่.. ตลอดห้าปีที่ผ่านมาเลทิเซียนั้นรู้ว่าขอบเขตของโลกนี้นั้นอยู่สูงมาก.. พวกเทพที่สามารถรังสรรค์แนวคิดและกฎเกณฑ์ใหม่ๆ
พาลาดินที่สามารถสรรค์สร้างกฎใหม่ขึ้นมาเป็นแบบของตัวเอง.. หรือแม้แต่ร่างมารที่เปลี่ยนกฎแห่งสวรรค์ได้
ทุกอย่างที่ว่ามามันดูเกินจินตนาการไปไกล แต่พอมาอยู่ในสถานการณ์นี้มันไม่ได้ไกลขนาดนั้น ดังนั้นเธอจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองเก่งขึ้น..
และท้ายที่สุดก็นึกท่านี้ขึ้นมาใช้เวทมนตร์ทั้งสามออกมาเปลี่ยนแปลง ‘เรื่องราว’ ที่ควรจะเกิดให้เป็นไปตามที่ตนเองต้องการ
และ.. สังหาร!!
นี่แหละคือพลังอันไร้เทียมทานของเลทิเซียในยามนี้…. ต่อให้เป็นจอมมารที่ไม่โนผนึกพลังบางที.. พวกเขาคงสู้เลทิเซียในตอนนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ..
“ท่านพี่!”
แม้เมย์อาจะตกใจแต่เธอไม่ได้เปลี่ยนสีหน้ามากนัก ทว่าไม่ใช่สำหรับเฟรย์ย่าเธอตื่นตระหนกและกำลังจะเคลื่อนไหว..
แต่ทว่าเสียงดีดนิ้วก็ดังขึ้นอีกครั้ง..ส่งผลให้เฟรย์ย่าที่ควรจะลอยได้ก็ร่วงลงมากระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง..
แต่ก็ตามมาด้วยเสียงกระอักเลือด.. แน่นอนว่าไม่ใช่ของเฟรย์ย่าที่ร่วงแค่นี้ไม่ถึงกับถลอกด้วยซ้ำ.. แต่เป็นเสียงของซิลเวียที่ยืนห่างจากเลทิเซียไม่กี่เมตร
เธอเช็ดมุมปาก…
“สร้างมิติใหม่ที่สร้างกฎมาจำกัดพลังข้าสินะ.. แต่น่าเสียดายที่จำกัดได้ไม่หมด”