การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 332

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 332 – ปณิธานแห่งต้นกำเนิด

เสียงกรีดร้องของนิล..เจ้าหมึกยักษ์ดังขึ้นส่งผลให้โลกทั้งใบมันแตกหัก.. มุมมองทุกอย่างในระยะสายตาของเลทิเซียพังทลาย

ร่างกายของนิลตัวน้อยที่อยู่บนท้องฟ้าต่างพร่าเลือนลงหลายส่วน วินาทีนี้เลทิเซียเข้าใจสถานการณ์ยิ่งกว่าใคร

ผสมกับคำพูดของเจ้าหมึกยักษ์ด้านข้างเธอเมื่อครู่ทำให้เรื่องราวทุกอย่างมันไขกระจ่างเรียบร้อยแล้ว!

แต่เหตุการณ์ยังไม่สิ้นสุด ห่างไกลออกไป.. ตรงจุดที่ตระกูลของนิลตั้งอยู่ก็มีแสงสีขาวเส้นหนึ่งพุ่งตรงขึ้นมาใส่นิล

ราวกับว่านิลนั้นเป็นศัตรูตัวฉกาจ.. ซึ่งดาบเล่มนั้นเพียงพริบตาที่เผยตัวออกมาก็ส่งผลให้ความมืดมิดอันบริสุทธิ์ปกคลุมแปดทิศ

นี่ไม่ใช่ความมืดแห่งความชั่วร้าย.. แต่เป็นความมืดที่ไร้สิ่งเจือปน ไร้ความรู้สึกเจอปน เป็นความมืดจริงแท้ตรงข้ามเพียงกับแสงสว่าง..

แต่หารู้ไม่ว่า..ความมืดก็คือแสง.. เพียงแต่เป็นแสงสีดำเท่านั้น.. เพราะความมืดจะสาดส่องไปทุกจุดที่ไม่มีแสง

และแสงจะสาดส่องปัดเป่าความมืด.. โดยรวมแล้วคำว่าสว่างกับมืดนั้นไม่ต่างกันเลยแม้แต่นิด..

บางทีอาจจะเป็นความรู้สึกผิดต่อบิดา..หรืออาจจะเป็นเพราะมารดาผู้อยากให้ลูกสาวไม่กลายเป็นความมืดอันชั่วร้าย

ดาบเล่มนี้จึงได้หลอมรวมความมืดมิดเข้ากับความเป็นแสงสว่างหรือตัวตนที่จะนำทุกอย่างไปสู่ความรุ่งเรือง..

กลายเป็นแสงทมิฬแห่งความมืดที่บริสุทธิ์..และแกร่งกร้าวราวกับอสนีบาต!

ดาบผ่าดาราสวรรค์ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว!

และเพียงพริบตานั้นทุกอย่าง คำถามมากมายในหัวของเลทิเซียล้วนได้รับการไขกระจ่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นิลหรือเจ้าหมึกยักษ์คือสิ่งที่ต้องถูกกำจัดโดยไวท์… วิญญาณที่สถิตอยู่กับเลทิเซีย.. นี่เป็นชะตาของพี่น้องที่ถูกบังคับให้ต้องห้ำหั่นกัน!

บางทีดาบผ่าดาราสวรรค์อาจจะไม่ได้มีธาตุมืดอย่างที่เลทิเซียครอบครอง และอาจจะไม่ได้มีอสนีบาตแกร่งกร้าวเช่นนี้

หากเธอได้กำจัดนิลไปตอนแรก.. เพราะปมในใจของไวท์คือการเป็นเด็กที่ไม่ดี.. เพราะตัวเองขัดคำพูดของพ่อ..

ดังนั้นเธอต้องกำจัด.. กำจัดปีศาจอสูรที่เป็นศัตรู บางทีมันอาจจะไม่ใช่ความต้องการแต่กลายเป็นสัญชาตญาณโดยที่ไม่รู้ตัว

เธอกลัวที่จะถูกทอดทิ้ง..บิดาทอดทิ้ง..เจ้านายทอดทิ้ง.. เพราะงั้นเธอจึงต้องกำจัดปีศาจ.. กำจัดและต้องกำจัดเท่านั้น

ซึ่งหากตามแผนของเจ้าพวกต้นตระกูลของไวท์วางเอาไว้.. ตัวไวท์จะกำจัดอสูรหมึกกลืนกินได้และตัวของเธอจะพลิกผันจากความมืดเป็นแสงสว่าง

เพราะตัวเธอจะกลายเป็นคนที่นำพาความรุ่งโรจน์มาแทน แต่แน่นอนว่าทุกอย่างไม่เป็นตามที่พวกมันคาดหวัง

จึงกลายเป็นว่า..ในตอนนี้ไวท์จึงเป็นกระบี่ที่ต้องการสังหารปีศาจอสูร.. ซึ่งการที่จะสามารถลบล้างปมนี้ได้บางทีมีเพียงแต่คงต้องสังหารนิลหรือเจ้าหมึกยักษ์เท่านั้น

“……ทำไม..”

เลทิเซียก้มหัวต่ำลงเล็กน้อย ตอนนี้เธอไม่รู้แล้วว่าอันไหนเป็นมิตร อันไหนเป็นศัตรู.. ภาพของนิลเด็กผู้หญิงที่มีสายตาที่น่าสงสาร

เหมือนกับแบกรับบาปอะไรบางอย่างเอาไว้..

ไวท์เด็กผู้หญิงที่ตื่นเต้นไปกับทุกอย่าง โดดเดี่ยวมานานแสนนาน .. ตอนนี้เธอได้มีทั้งอิสระและเสรีภาพ

“นายท่าน อาหารอันนี้อร่อยมากเลย มันเรียกว่าอะไรงั้นเหรอ”

มือของเธอกำแน่นจนเล็กของเธอจิกเข้าไปในฝ่ามือเธอมีเลือดไหลซิบ ในโลกที่ทุกอย่างแทบจะพังถล่มนั้น

ราวกับว่ามีเพียงเลทิเซียผู้เดียวที่ไม่ได้อยู่ในโลกเหล่านั้น.. ทำไม.. เธอต้องมาเห็นอะไรแบบนี้..

ทำไม….

พี่น้อง…

ฆ่ากันเอง?

นั่นเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากตัวเลทิเซียที่รักครอบครัวเหนือสิ่งอื่นใดมากที่สุด.. ทำไมถึงต้องทำแบบนั้น..

ทำไม…

เลทิเซียไม่อาจหาคำตอบได้เธอเงยหน้าขึ้นไปมองนิลร่างเล็กที่กำลังกลายร่างเป็นอสุรกายน่าเกลียดน่ากลัว

มองไปที่แสงสีขาวที่ภายในเหมือนเป็นสีทมิฬที่โจมตีใส่นิลร่างเล็กกลางอากาศด้วยความเกลียดชังและเคียดแค้น..

เสียงกรีดร้องของเจ้าหมึกยักษ์ที่อยู่ข้างๆ เธอ..

และคมดาบเล่มเล็กที่อยู่บนมือของเธอมีใบหน้างุนงงของไวท์สะท้อนออกมาให้เห็น..

“ฉันต้อง…ไม่ให้มันเกิดขึ้น”

เลทิเซียกล่าวเช่นนั้น ดวงตาของเธอแดงก่ำจนน่ากลัว.. บางทีเหตุผลที่เลทิเซียสามารถมองเห็นภาพนี้ได้อาจจะเป็นเพราะตอนนั้น..

ตอนที่เลือดเนื้อของเจ้าหมึกยักษ์เข้ามาในตัวของเธอทำให้โลกที่มันสร้างส่งผลในตัวของเธอด้วย

เป็นเหตุผลที่มีเพียงแค่เลทิเซียกับเจ้าหมึกยักษ์ที่มองเห็นฉากนี้.. ส่วนซิลเวียไม่สามารถมองเห็นได้

แต่เรื่องนั้นเลทิเซียในตอนนี้ไม่ได้สนใจ.. เธอไม่อยากจะเห็นภาพของพี่น้องฆ่ากันเอง..นี่ไม่ใช่แค่ทำเพื่อนิลหรือไวท์ที่อาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองต้องฆ่าฟันกับพี่น้องฝาแฝด

แต่มันยังเป็นการทำเพื่อตัวเลทิเซียเองมากที่สุด.. ไม่ว่าจะเป็นเจ้าผู้กล้าสองคนที่ฆ่าสเตฟานี่ไป..

เลทิเซียเกลียดมันมาก.. เกลียดมันจนอยากจะฆ่ามันสักหมื่นๆ รอบ แต่เธอกลับไม่เคยดูถูกความสัมพันธ์ของพวกมัน

ใช่ ความรู้สึกของพวกมันคือความรู้สึกที่พยายามจะเปลี่ยนแปลงโลกเพื่อครอบครัว.. ถึงแม้มันจะไม่ถูกแต่นั่นก็ทำให้เลทิเซียตระหนักรู้ได้ว่า

ไม่ว่าจะครอบครัวหรือเพื่อนพ้องทุกอย่างล้วนแล้วแต่สำคัญ.. ไม่ใช่ว่าหากเธอต้องช่วยเพื่อนหรือครอบครัว..เธอต้องช่วยใครก่อน?

ครอบครัวเหรอ? หรือเพื่อนกันล่ะ..?

ไม่.. เธอจะช่วยทั้งคู่ เพราะไม่ว่าจะสูญเสียใครไปสุดท้ายแล้วสิ่งที่รอเธออยู่มีเพียงความเจ็บปวดเท่านั้น..

ตอนนี้เองก็เช่นกัน.. นิลอาจจะไม่ใช่.. แต่ไวท์คือคนที่เลทิเซียให้ความสำคัญมาก.. เธอยังไม่ได้กินอาหารอร่อยๆ อีกหลายอย่าง

เธอยังไม่ได้มีชีวิตอยู่บนโลกอีกหลายปีอย่างมีความสุข เลทิเซียไม่มีทางยอมให้ไวท์ต้องรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องมารู้ว่าคนที่ตัวเองสังหารไปเป็นพี่น้องฝาแฝด

ครอบครัว..เองก็สำคัญกับนิล..นิลเองก็สำคัญกับเลทิเซีย

ครอบครัว..เพื่อน..

ทุกอย่างต่างหลอมรวมกันกลายเป็นเลทิเซียในตอนนี้..

เธอจะไม่มีทางให้เรื่องราวนั้นเกิดขึ้น

“ฉัน..จะไม่ให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด!!!”

เลทิเซียคำรามกร้าวขึ้นมาพร้อมกับโลกทั้งใบที่แตกเสี่ยงๆ ออก กลายเป็นความว่างเปล่า เสียงกรีดร้องของเจ้าหมึกยักษ์..

ไม่สิ.. นิล.. เสียงร้องของเธออัดแน่นไปด้วยความบ้าคลั่ง

“เป็นแค่ตัวปลอม.. เป็นแค่ตัวปลอม…. ข้า.. ข้าตัวจริง.. ทำไม..”

เสียงร้องที่เต็มไปด้วยความสับสนดังขึ้น เงาร่างสีดำที่ต่อสู้กับซิลเวียเองก็สลายหายไปเช่นกัน ความบ้าคลั่งของเธอนั้นผลักร่างเลทิเซียปลิวลิ่วโดยไร้แรงกระแทก

ซึ่งเลทิเซียอาศัยจังหวะนี้ใช้ปณิธานอันแกร่งกล้าของเธอเรียกร้องถึงต้นกำเนิด.. สาเหตุที่พวกเธอดำรงอยู่ในความว่างเปล่าแห่งนี้ได้หาใช่เพราะตัวพวกเธอเอง

แต่เป็นเพราะต้นกำเนิดที่ปกป้องพวกเธออยู่ เมื่อพิจารณาจากจุดนี้ดีๆ ละก็.. พวกเธอสามารถกลับคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้!

เพราะพวกเธอเชื่อมต่ออยู่ สาเหตุที่ทั้งเลทิเซียและซิลเวียสามารถเคลื่อนที่ในโลกนี้ได้ล้วนเป็นเช่นนั้น..

ดังนั้นการที่จะตั้งปณิธานว่ากลับโลกที่พวกเธอเคยอยู่ได้นั้น ย่อมเป็นเรื่องปกติ แต่ปณิธานนั้นต้องแข็งแกร่งขนาดไหนถึงจะต่อต้านแนวคิดแห่งความว่างเปล่า

และหยิบยืมพลังแห่งต้นกำเนิดมาได้ล่ะ?

คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น..

เรื่องนี้เลทิเซียรู้ดีกว่าใครเพราะตัวตนที่เป็นตัวแทนของต้นกำเนิดและแข็งแกร่งที่สุดอยู่ใกล้เธอที่สุด..

“อามาเระ!”

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน