การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 344

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

บทที่ 344 – คำว่าลาก่อน

“สวะ..ชั้นต่ำ? อ่อนแอกว่าฉัน..?”

เลทิเซียที่ในตอนนี้นั้นที่กำลังเกิดคำถามมากมายกลับได้รับคำตอบเช่นนั้นมา.. ซิลเวียเนี่ยนะ.. ซิลเวียกับไวท์เนี่ยนะอ่อนแอกว่าฉันคนนี้?

ไวท์ที่เธอพายามอย่างหนักคนเดียว โดดเดี่ยวอยู่นานแค่ไหนไม่มีคนรู้ กับซิลเวียที่สามารถตายได้เพื่อคนแบบเธอ..

คนแบบนี้เนี่ยนะเรียกว่าเป็นคนอ่อนแอ.. คนแบบนี้เรียกว่าเป็นสวะ? ไม่เข้าใจ.. ไม่เข้าใจ…

ไม่เข้าใจเลยสักนิด..ดวงตาอันมืดมัวของเลทิเซียอัดแน่นไปด้วยความสับสนและลังเล.. มากด้วยความเย็นชาระลอกหนึ่ง

จิตใจของเลทิเซียค่อยๆ จางหายไปพร้อมกับภาพวาดเปลวไฟในจิตใจที่กำลังดับลงอย่าเงียบเชียบ..

หาก..สองคนนั้นคือสวะชั้นต่ำ..และคนอ่อนแอแล้วเธอเป็นอะไร.. เลทิเซียไม่ต่ำตมยิ่งกว่านั้นอีกเหรอ..

แล้วแกล่ะเป็นอะไร.. ทุกคนบนโลกนี้ล่ะเป็นอะไร..มันมีค่าอะไรให้เธอสนใจไยดีอยู่อีกงั้นเหรอ..

มนุษย์… แกเองก็เคยเป็นมนุษย์ด้วยสินะ..มนุษย์ที่ชื่อนิล…มนุษย์……..

ดวงตาของนิลจ้องไปที่เลทิเซียกำลังนั่งคลุกอยู่กับร่างไร้วิญญาณสองร่าง.. นี่คือภาพที่มันต้องการที่จะเห็น

ไม่ใช่เพียงแค่ฆ่า.. ไม่ใช่เพียงแค่ล้างแค้น ต้องทำให้มันเจ็บปวดตั้งแต่ภายในหัวใจจนถึงโลกภายนอก.. แต่ภายใต้สายตาที่จับจ้องไปเบื้องหน้ามันรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ใช่..

อย่างไรก็ตามภายใต้ความหยิ่งยโสของมันก็ไม่อาจยอมให้ตัวเองถูกข่มได้ ในขณะที่มันกำลังจะกล่าวอะไรสักอย่างนั้นเอง

“หุบปาก… แกไม่มีสิทธิ์มาพูดถึงพวกเธอแบบนั้น”

ทันทีที่คำพูดดังขึ้นดวงตาของเลทิเซียก็เงยขึ้นมา.. บัดนี้ดวงตาของเลทิเซียข้างหนึ่งกลับกลายเป็นสีแดงทมิฬ…

ร่างกายของนิลพลันบิดเบี้ยวภายในชั่วพริบตาที่สายตาของเลทิเซียกระทบร่างมันก่อนที่จะ…สลายหายไปทันที..

ร่างกายของนิลไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยของเลือด เลทิเซียค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างช้าๆ .. ร่างของไวท์และซิลเวียค่อยๆ ลอยขึ้นมา

เลทิเซียยกมือขึ้นไปข้างหน้าอย่างเงียบเชียบ… บัดนั้นเองร่างของนิลที่ถูกทำลายจนหายไปพลันปรากฏขึ้นมา..

คอของเธอพลันถูกบีบอยู่ภายใต้ฝ่ามือของเลทิเซียอย่างน่าตกตะลึง.. ในขณะที่เลทิเซียกวาดสายตาผ่านไวท์…

ดวงตาของเธอเผยความลังเล..นิลคือน้องสาวของไวท์.. นี่ไม่ใช่เพื่อล้างแค้นให้ไวท์หรืออะไร.. แต่เป็นการฆ่าเพื่อตัวของเธอเอง..

คนตรงหน้าคือมนุษย์..มนุษย์ที่กลายร่างเป็นปีศาจ.. แต่ก็ยังเป็นมนุษย์สำหรับเลทิเซีย.. บางทีแล้วมนุษย์ก็คงเป็นแบบนี้กันหมดทุกคน

ในขณะที่ดวงตาของนิลเบิกกว้างด้วยความสับสนนั้นดวงตาของเลทิเซียก็จดจ้องไปที่นิล…

“เธอในตอนนี้…คือนิลที่ฉันรู้จัก…”

“หรือเป็นนิล..ที่กลายเป็นปีศาจ?”

คำถามนี้ไม่ได้เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ..เพราะทันทีที่กล่าวฝ่ามือของเลทิเซียก็บีบลงบนคอของเธอ

ภายใต้ความสับสนที่ได้รับคำถามจากเลทิเซีย.. บางทีนั่นอาจจะเป็นคำถามที่เธอไม่อาจหาคำตอบได้ตลอดชีวิต

แต่นั่นไม่เกี่ยวกันแล้ว..เพราะนี่คือความรู้สึกของเลทิเซีย..

“ไวท์ฉัน..ขอโทษนะ”

เลทิเซียกล่าวพึมพำ…ร่างของนิลที่ไม่ควรจะถูกฆ่าได้กลับตายได้อย่างง่ายดาย… ทักษะที่ใช้ฆ่าอีกฝ่ายได้นั้นมันมีมากมาย

จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเลทิเซียในตอนนี้เลย.. จะอมตะตราบใดที่ความว่างเปล่ายังอยู่ก็ไม่เกี่ยวกัน

เพราะความสามารถของเธอในยามนี้.. มันสามารถเมินข้อบังคับนั้นได้อย่างง่ายดาย.. เพราะว่า..นั่นแหละคือทักษะ

ความแข็งแกร่งนี้เลทิเซียเข้าใจดีกว่าใคร เพราะทันทีที่ทำสัญญาข้อมูลทุกอย่างก็ปรากฏขึ้นในหัวของเลทิเซีย..

ดวงตาของเลทิเซียก้มลงไปมองซิลเวียที่ลอยอยู่ด้านข้าง..

อารมณ์มากมายที่ไม่สามารถกล่าวออกมาเป็นคำพูดได้นั้นทำให้อารมณ์เธอในตอนนี้ปั่นป่วนมากยิ่งกว่าอะไร..

เธอไม่อยากจะชินกับความรู้สึกเหล่านี้และไม่กล้าที่จะชินด้วยเช่นกัน.. ความตายของคนสำคัญ.. การเปลี่ยนแปลงที่เลี่ยงไม่ได้

การเปลี่ยนแปลงที่สูญเสียคนสำคัญโดยการแลกมากับพลังที่ไร้เทียมทานอย่างงั้นเหรอ… เลทิเซียหัวเราะออกมาเบาๆ ในลำคอ..

การที่เธอสามารถฆ่านิลได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวนั่นก็อธิบายทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งกว่าอะไรแล้วว่าเลทิเซียในยามนี้แข็งแกร่ง

เธอก้าวขาหนึ่งก้าวก่อนที่จะสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย..หากเธอปรากฏขึ้นอีกครั้งก็จะเป็นที่ภายในอาณาจักรอาเดฟเหมือนเดิมเวลาเดิม

เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นในนี้คือโลกที่ไร้ซึ่งกาลเวลากล่าวคือเวลานั้นไม่ได้เดินหนีจากไปไหนนั่นเอง..

แต่ทว่าในความว่างเปล่าอันมืดมิดนี้นั้นพลันมีเงาร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้น มันชี้นิ้วไปทางที่เลทิเซียเคยอยู่ก่อนที่วัตถุทรงกลมบางอ่างจะพุ่งลงไปและแตกออก

วินาทีที่มันแตกออกนั้นเอง ดวงตาของเลทิเซียพลันสับสน.. ปากของเธอกระอักเลือดออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

แม้ว่ามันจะหายแทบในทันทีเลยก็ตาม.. แต่ไม่ว่าเลทิเซียจะพยายามสัมผัสอย่างไรก็ไม่อาจตามหาต้นตอนั้นเจอ

ทั้งที่เธอแข็งแกร่งขนาดนี้กลับมี… คนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเธออีก เลทิเซียรู้ว่าคนแบบนั้นมีเพียงไม่กี่คน…

และหนึ่งในนั้นคือผู้หญิง..ผมสีทองคนนั้น… และผลกระทบบางอย่างที่เลทิเซียเจอไม่รู้ว่ามันคืออะไรร่างเธอก็ปรากฏขึ้นภายในอาณาจักรอาเดฟเหมือนเดิมแล้ว

แน่นอนทุกอย่างนี้มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไวมาก… จนไม่อาจพูดได้ว่าไวขนาดไหน…

หลังจากที่เลทิเซียจากไปนั้นเอง.. หญิงสาวคนหนึ่งก็เหยียบลงบนความว่างเปล่าราวกับเป็นสวนหลังบ้านของเธอ..

“ไวท์… เธอมีความสุขแล้วหรือยัง?”

“ค่ะ…นายท่าน.. แต่ว่า..ท่านเลทิเซีย..”

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก… เธอคนนั้นจะต้องเติบโตได้มากกว่านี้”

“ขอบคุณค่ะ”

“ไวท์…ตลอดมาฉันขอโทษนะ..”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ.. เพราะนายท่านทิ้งข้า..ข้าถึงได้พบกับนายท่านที่แสนวิเศษอีกคนหนึ่งไงล่ะ”

“อืม..ทั้งๆ ที่เจ้าต้องตายและต้องถูกน้องสาวตัวเองฆ่าน่ะนะ”

“ข้ารู้อยู่แล้วล่ะค่ะ.. ตั้งแต่ที่ท่านเลทิเซียแสดงท่าทีแบบนั้นออกมา..และนายท่านเองก็ไม่ใช้ข้าสังหารนิล..ทั้งๆ ที่ทำได้แท้”

ไวท์กล่าวด้วยรอยยิ้ม.. ดวงตาอันใสซื่อที่เต็มไปด้วยความไร้สาระของเธอในตอนที่เคยแสดงออกมาหายไปจนหมด..

ทุกอย่างที่เลทิเซียรู้ ทุกอย่างที่เลทิเซียเข้าใจเด็กคนนี้ล้วนเข้าใจจนหมดทุกอย่าง.. และการแสดงออกของเลทิเซียนั้นก็ยืนยันว่านายท่านคนใหม่นี้..

ห่วงใยเธอขนาดไหน.. อีกทั้งห้าปีก่อนเธอคนนี้ยังห่วงใยเธอ หากอยากจะพูดก็ต้องไปพูดด้วยตัวเองสิ..

คำพูดเหล่านั้นอาจจะออกมาจากอารมณ์เล็กๆ ของเลทิเซียในยามนั้นหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่สำหรับไวท์นั้นมันมีค่ามากยิ่งกว่าอะไรบนโลกใบนี้

“นายท่านคะ.. ขอบคุณที่ช่วยดึงฉันไว้ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตนะคะ..”

“อืม…”

“และ..บางทีคำพูดนี้ข้าไม่สามารถพูดได้ตัวเองแล้วจริงๆ ล่ะท่านเลทิเซีย.. เพราะงั้นนายท่านฝากไปบอกท่านเลทิเซียด้วยได้ไหมคะว่า…”

“……”

“ช่วงเวลาที่อยู่กับเธอคือ..ช่วงเวลาที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต.. ข้าเองก็ชอบท่านเลทิเซียไม่แพ้คนอื่นๆ นะคะ.. แล้วก็ขอโทษที่ไม่ได้พูดว่า.. ‘ลาก่อน’ ค่ะ”

“……….”

เสียงนั้นค่อยๆ สลายมลายหายไปในเถ้าธุลี.. เด็กผู้หญิงผมสีเหลืองยกมือขึ้นพยายามจะทำอะไรสักอย่างแต่ก็หยุดเอาไว้..

ดวงตาของเธอหันไปมองเลทิเซียที่อยู่คนละห้วงมิติ.. ปากของเธอพึมพำ..

“บางที.. นี่แหละคือความแตกต่างระหว่างฉันกับเธอ..คุณนางเอกสุดที่รักของท่านแม่มด”

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน