บทที่ 403 – เทพธิดา..ที่ไม่ควรตาย?
เมื่อเลทิเซียกลับมายังฐานทัพของกลุ่มผู้แสวงหาสันติสุขเธอก็มาดูเด็กในหลอดแก้วก่อนเลย.. แม้ในหลอดแก้วจะมีมดลูกเทียมห่อหุ้มไว้อยู่
แต่ดวงตาของเลทิเซียก็สามารถมองทะลุเข้าไปในภายในนั้นก็เจอกับเด็กที่เป็นรูปเป็นร่างแล้วเพราะนี่ก็ผ่านมาแปดเดือนแล้วนั่นเอง
“เป็นยังไงบ้าง..นับว่าประสบความสำเร็จไหม?”
เมอร์สันปรากฏตัวขึ้นพร้อมพูด เลทิเซียก็พยักหน้า..
“แม้ข้าจะมีหลายอย่างที่อยากจะพูดกับเจ้า.. แต่ว่าตอนนี้เหมือนจะไม่ใช่เวลาสินะ”
เมอร์สันพูดขึ้น อันที่จริงตลอดแปดเดือนที่ผ่านมาเขาติดตามข่าวสารตลอดเวลา และเหมือนสิ่งที่เลทิเซียสัญญากับเขาใกล้จะเป็นจริงแล้ว
หากมันเป็นจริงเมื่อไหร่.. เขาจะต้องเชื่อฟังเลทิเซียอย่างเลี่ยงไม่ได้.. ไม่สิ หากสงครามหยุดลงเขาก็ต้องยอมรับในความสามารถของอีกฝ่ายเท่านั้นแล้วล่ะ
“นายเองก็ถอยไปก่อน ต่อจากนี้เป็นหน้าที่ของฉัน”
เลทิเซียไล่อีกฝ่ายออกไป พร้อมกับหลับตาลงและเงยหน้าขึ้นไปด้านบน ราวกับมองทะลุเพดานขึ้นเห็นท้องฟ้าอันกว้างใหญ่
และมองทะลุข้ามผ่านกำแพงที่สี่เข้าไปจนเห็นดินแดนของเหล่าทวยเทพ!
แผนการเริ่มขึ้นแล้ว!
การช่วงชิงดวงวิญญาณ! เลทิเซียหลับตาลงใช้กระแสจิตตัวเองเคลื่อนผ่านห้วงความว่างเปล่ามากมายตามหาสายธารวิญญาณ
ตามหาเส้นทางของดวงวิญญาณที่ลอยมาจากทะเลวิญญาณเพื่อผ่านเข้าสู่แดนเทพ ผ่านพิธีมอบทักษะก่อนจะมาเกิดใหม่
โชคยังดีที่เลทิเซียจำประสบการณ์ตอนที่เธอข้ามมายังโลกนี้ได้.. เธอจึงสามารถตามหาต้นตอของเขตแดนที่จะมอบทักษะให้กับมนุษย์ได้
ด้วยพลังอันมากล้น และด้วยทักษะมากมายของเลทิเซีย ทุกครั้งที่กระแสจิตเคลื่อนที่ผ่านความว่างเปล่าในแดนเทพไม่มีใครสามารถสัมผัสได้
แม้แต่เทพสูงสุดก็ยังไม่อาจจะเจอ.. อีกทั้งเพราะเลทิเซียใกล้ชิดกับซิลเวียมาก ทำให้เธอรู้จักพลังของเหล่าเทพธิดาไม่น้อย
ดังนั้นเธอจึงสามารถที่จะซ่อนจากพวกเทพธิดาได้.. อันที่จริงเธอพยายามจะตามหาซิลเวีย.. เพราะอยากจะเห็นหน้าซิลเวียสักครั้งในชีวิต
เธอจึงแอบเข้าไปยังใจกลางของแดนเทพ.. แต่เธอรู้ว่าไม่ควรทำแบบนั้นจึงต้องถอยออกมาอย่างช่วยไม่ได้..
เธอมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายของเธอเหมือนเดิม ก่อนที่จะเห็นสายธารวิญญาณของแดนเทพ.. และไม่รู้ว่าโชคดีหรือความบังเอิญยังไง
เทพธิดาที่ดูแลการเกิดใหม่ เธอได้ผลักไสวิญญาณนั้นลงมาด้วยความหงุดหงิดทำให้วิญญาณนั้นลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ
ดวงตาของเลทิเซียเบิกกว้าง ก่อนที่จะชี้นิ้วไปที่วิญญาณนั้น..
“น่าจะเป็นวิญญาณที่มีพรสวรรค์พอสมควร!”
ถึงเลทิเซียจะไม่เคยเห็นดวงวิญญาณมาก่อนแต่เธอมั่นใจว่าวิญญาณตรงหน้าอย่างน้อยก็มีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์อย่างแน่นอน
เพียงแค่นี้ก็พอแล้ว!เลทิเซียใช้พลังของตัวเองในการแอบดึงเอาวิญญาณนั้นออกมาจากสายธารวิญญาณ
และเลทิเซียในฐานทัพของกลุ่มแสวงหาสันติสุขก็ลืมตาขึ้นก่อนจะสะบัดปลายนิ้วชี้ไปทางร่างของสิ่งมีชีวิตเทียม
ดวงวิญญาณนั้นราวกับเป็นปลาที่เจอน้ำเมื่อเห็นร่างกายก็ไหลเข้าไปราวกับว่านี่เป็นรูปแบบหนึ่งของกฎแห่งความเป็นจริง
เลทิเซียสะบัดมือหนึ่งครั้งในตอนนั้นเองเด็กที่อยู่ในมดลูกเทียมที่ลอยอยู่ในหลอดแก้ว ก็ราวกับมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ !
“สำเร็จแล้ว!”
เลทิเซียตื่นเต้นอย่างมาก ก่อนที่จะกดนิ้วลงไปยังหลอดแก้วทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างภายในหลอดแก้วหยุดนิ่งลง
“เมอร์สัน!!”
เลทิเซียตะโกนออกมาส่งผลให้เขาเดินออกมาหาเลทิเซีย แม้เขาจะไม่ได้สนใจสิ่งมีชีวิตเทียมแล้วเพราะสงครามนั้นใกล้จะยุติแล้ว
แต่ว่าก็ยังตื่นเต้นอยู่ดี เพราะอย่างไรซะนี่คือการสร้างสิ่งมีชีวิตเทียมที่ฝืนกฎของโลกสร้างขึ้นมานะ
ไม่ใช่ทั้งโฮมุนครุสหรือแม้แต่ร่างกายเทียม แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถือกำเนิดขึ้นมาด้วยวิทยาการของพวกเขา!
เลทิเซียระงับความตื่นเต้นเอาไว้พร้อมกับออกคำสั่ง
“ฉันหยุดเวลาภายในหลอดนี้เอาไว้แล้ว.. หน้าที่ของนายหลังจากนี้คือดูแลวิ่งนี้จนไปถึงอีกห้าร้อยปีข้างหน้า.. ให้หาใครสักคนมาอุ้มท้องเด็กคนนี้”
“ฟังไว้สิ่งที่นายต้องทำมีเพียงแค่ทำให้ใครสักคน ‘เปรียบดั่งมารดา’ ไม่จำเป็นต้องมีลูกจริงๆ วิธีการนั้นง่ายมากเพียงแค่สลับมดลูกเทียมนี้เข้าไปในตัวใครสักคน หลังจากนั้นหนึ่งเดือนก็จะถึงเวลาคลอดแล้ว”
“ไม่ต้องห่วงพอถึงเวลาที่จะต้องสลับมดลูกเทียมนี้ เวทมนตร์ที่หยุดเวลาเอาไว้จะหายไปเอง..”
“นี่เป็นแผนการที่จะถูกขัดขวางไม่ได้ ฟังเอาไว้นะ”
ในขณะที่เลทิเซียพูดจบ เธอกำลังจะกล่าวอะไรบางอย่างต่ออีกสักหน่อย เพื่อย้ำกับเมอร์สันอีกสักรอบ
เพราะนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้เจอกับเขา เพราะยังไงซะเลทิเซียคิดว่าพอหยุดสงครามได้เธอจะข้ามเวลากลับไปตอนปัจจุบันทันทีเพื่อ…ดูผลลัพธ์
แต่ว่าในตอนนั้นเองร่างกายเลทิเซียก็สั่นเล็กน้อยเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความตกใจ
“บ้าน่า .. เป็นไปไม่ได้?!”
“มีอะไรเหรอ?”
ไม่บ่อยนักที่จะเห็นเลทิเซียตกใจอะไรแบบนี้ เขาไม่ได้มีพลังจิตที่แข็งแกร่งเหมือนกับเลทิเซีย.. ไม่สิ อันที่จริงบัดนี้บนโลกไม่มีใครสัมผัสได้นอกจากเลทิเซีย
ใช่แล้วตอนนี้ บนท้องฟ้าบัดนี้มีรอยแยกเล็กๆ เกิดขึ้น รอยแยกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากความบิดเบี้ยวของห้วงมิติ
แต่เกิดจากแระตูทางผ่านเข้าสู่ดินแดนที่สูงกว่า!และการที่จะสร้างปรากฏการณ์แบบนี้ได้มีเพียงแค่…
สิ่งมีชีวิตที่สูงกว่า เทพธิดาลงมาโลกเบื้องล่าง คงไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ว่ามาเพราะอะไร หากเทพธิดาอยากมาเยือนโลกมนุษย์
สิ่งที่พวกเธอทำจะลงมาผ่านหอคอยพระเจ้า.. แต่ว่า การปรากฏตัวแบบนี้จะเป็นปรากฏตัวเพื่อมาทำอะไรบางอย่าง
พลังของเทพธิดาจะไม่ถูกผนึก! และหากเป็นแบบนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอลงมาเพื่ออะไร.. เพื่อเอาวิญญาณกลับคืนไป!
เลทิเซียมีความมั่นใจว่าตัวเองสามารถเอาชนะเทพธิดาได้ แต่อย่าลืมว่าเทพธิดาเป็นเหมือนระบบหนึ่งของกฎโลก
แต่ตัวตนของเลทิเซียเป็นเหมือนสิ่งแปลกปลอม.. กล่าวคือหากเธอต้องการเอาวิญญาณคืนไป เลทิเซียไม่มีทางทำอะไรได้
และหากฆ่าเพื่อแย่งชิง.. ศัตรูของเลทิเซียอาจจะไม่ใช่เทพธิดาอีกต่อไป แต่กลายเป็นภาพสะท้อนของเทพผู้สร้าง!
ควรทำยังไงดี?
เลทิเซียมั่นใจว่าตัวเองแอบขโมยมาได้โดยไม่มีใครสังเกตแท้ๆ แต่ทำไมเธอถึงรู้ล่ะ.. ไม่สิ นี่ไม่ใช่เวลาจะมาคิดอะไรแบบนั้น
คิดสิ! คิดสิ… จริงสิ!หากลบตัวตนของเธอล่ะ… ลบตัวตนของเธอให้กลายเป็นความว่างเปล่า ความว่างเปล่านั้นไม่มีกฎเกณฑ์ไหนเข้าถึงได้
กล่าวคือ.. หากลบเธอออกจากความจริงภาพสะท้อนจะไม่ปรากฏ.. ไม่สิ หากเธอไม่ได้มีโชคชะตาที่ต้องตายอยู่ที่นี่ก็จะปรากฏอยู่ดี…
แต่ในตอนนั้นเองเทพธิดาก็ราวกับใช้ดวงตาพิเศษเพื่อค้นหาว่าวิญญาณที่ตัวเองตามหาอยู่ไหน เลทิเซียไม่มีเวลามารีรออีกต่อไป
เธอตะโกนออกมา
“เมอร์สัน นายปกป้องหลอดแก้วนั้นไว้ให้ดี!”
เธอกล่าวเช่นนั้นเสร็จร่างกายก็หายไป ก่อนที่จะปรากฏขึ้นบนท้องฟ้ากลายเป็นลำแสงพุ่งตรงใส่เทพธิดา
ระเบิดพลังลบล้างทุกสิ่งทุกอย่างออกมา ทำให้เทพธิดาคนนั้นเบิกตากว้าง เธอเหมือนจะตกใจและตอบสนองทันควัน
“เจ้าเป็นใคร?!”
แต่ยังไม่ทันได้ตอบ.. ลูกบาศก์สีดำก็ปรากฏขึ้นพุ่งตรงไปทางเทพธิดา ท่าที่รุนแรงและควบคุมได้ยากที่สุดของเลทิเซียถูกใช้ออกโดยไม่ลังเล..
เมื่อเป็นแบบนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหวังว่าลูกบาศก์จะไม่ทำให้เวลาบิดเบี้ยวนะ!เลทิเซียปล่อยลูกบาศก์นั้นใส่เทพธิดา
เทพธิดาคนที่ควบคุมความเป็นความตายไม่มีกำลังพอที่จะหยุดยั้งสิ่งนี้ได้เลย.. ไม่สิ ต่อให้ทั้งแดนเทพร่วมมือกันหยุดก็คงหยุดสิ่งนี้ไม่ได้
เธอพยายามจะถอยร่นออกห่างแต่ลูกบาศก์ลบเอาเสื้อผ้าอาภรณ์เธอออกไปจนหมด ตามด้วยแขนขา..และดวงวิญญาณ!
แต่ทว่าเมื่อแสงนั้นสาดส่องกระทบใบหน้าของเธอดวงตาเลทิเซียก็เผยแววแห่งความตกใจ เธอตะโกนออกมา
“ไม่!!”
แต่ว่าลูกบาศก์นั้นก็ลบเทพธิดาออกไปมากกว่าครึ่ง และพอมันหายไปพื้นที่รอบด้านก็แตกพังทลาย….. กลายเป็นช่องว่างของความเป็นจริง
ส่งผลให้ร่างของเทพธิดาคนนั้นถูกดูดเข้าไป
เลทิเซียคำรามลั่น กระโดดพุ่งตามเข้าไป
“เธอจะตายไม่ได้!!”