พยัคฆ์เมฆาที่กำลังต่อสู้กับอสรพิษใบไม้ร่วงนั้นได้สังเกตเห็นก้อนหินนั้นลอยไปทางลูกของมันพยัคฆ์เมฆาจึงคำราม
” โฮก… ”
และอาศัยจังหวะที่มีฝุ่นจากการฟาดหางนั้นหลงเหลืออยู่วิ่งเข้าไปเพื่อป้องกันเศษหินที่กระเด็นเข้าใส่ลูกของพยัคฆ์เมฆา
แต่แล้วตอนนั้นเองที่อสรพิษใบไม้ร่วงที่เห็นเเบบนั้นจึงฉวยโอกาสเข้าจู่โจมพยัคฆ์เมฆาที่กำลังปกป้องลูกของมันจากเศษหินอยู่
ฟาดหางขนาดใหญ่เข้าใส่กลางลำตัวของพยัคฆ์เมฆาทำให้พยัคฆ์เมฆากระเด็นไปอีกฝั่งและเข้าจู่โจมอย่างต่อเนื่อง
แต่ด้วยความเร็วของพยัคฆ์เมฆาได้หลบการโจมตีที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องได้จึงทำให้ทั้งสองฝั่งก็เริ่มมีบาดแผลต่างปรากฎขึ้นตามร่าง
เฟยหลงที่ได้เฝ้ามองการต่อสู้ระหว่างสัตว์อสูรทั้งสองอยู่ไม่ไกลเกินไป
ได้เห็นว่าข้างหลังของพยัคฆ์เมฆานอกจากลูกของมันแล้วยังมีผลไม้สีเขียวครามลูกหนึ่งซึ่งข้างในอัดแน่นไปด้วยพลังปราณบริสุทธิ์
เมื่อเฟยหลงเห็นผลไม้ลูกนั้นเมื่อค้นหาจากความทรงจำตอนที่เป็นเซียนก็ได้รู้ว่าผลไม้นั้นคือ
“มันคือผลวายุคราม”
เฟยหลงได้พูดชื่อผลไม้สีเขียวครามออกมา
ซึ่งเป็นสิ่งมีค่ามากสำหรับผู้ฝึกตนที่อยู่ขอบเขตก่อกำเนิดขั้นที่เใ9ปรารถนาซึ่งสามารถทำให้ทะลวงสู่ขอบเขตวิญญาณได้มากยิ่งขึ้น
ซึ่งตอนนี้แม้กระเฟยหลงก็ต้องการที่จะนำมาเพื่อเพิ่มขั้นพลังของตนให้สูงยิ่งขึ้น
การต่อสู้ดำเนินต่อไปจนเริ่มเห็นว่าสัตว์อสูรทั้งสองตัวเริ่มอ่อนเเรงลงมากแล้วยังมีบาลแผลมากมายตอนนั้นเองที่อสรพิษใบไม้ร่วงได้ระเบิดพลังทั้งหมดพุ่งเข้าใส่พยัคฆ์เมฆาแล้วกัดลงข้างลำตัว
แต่พยัคฆ์เมฆาก็ไม่ได้ยอมได้ใช้กรงเล็บทั้งสองข้างจู่โจมใส่ดวงตาอสรพิษใบไม้ร่วงแต่การโจมตีก็ยังไม่จบเเค่นั้น
พยัคฆ์เมฆาได้ระเบิดพลังและกัดลงบนหัวของอสรพิษใบไม้ร่วงอย่างเเรง
ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครยอมใครและก็เป็นอสรพิษใบไม้ร่วงที่ไม่สามารถทนกับพิษบาดแผลและได้ตกตายลง
ส่วนฝ่ายของพยัคฆ์เมฆาถึงจะต่อสู้กับอสรพิษใบไม้ร่วงและได้รับชัยชนะในท้ายที่สุดแต่เพราะบาดแผลต่างบนร่างกายและพิษจากการโดนกัดโดยเขี้ยว
ทำให้ร่างกายของพยัคฆ์เมฆารู้สึกอ่อนแรงและล้มลงไปนอนบนพื้น
ลูกพยัคฆ์เมฆาที่เห็นแม่ของมันชนะแต่ก็ล้มลงไปในท้ายที่สุดจึงรีบวิ่งออกไปหาเเม่ของมัน
ซึ่งพยัคฆ์เมฆาได้คำรามออกมาเบาเพื่อปลอบลูกน้อยของมันที่กำลังเป็นห่วงมันอยู่
” โฮก…… ”
เฟยหลงที่เห็นเหตุการณ์ก็รู้แล้วว่าพยัคฆ์เมฆาตัวนี้ไม่สามารถมีชีวิตรอดได้อีกต่อไป
จึงเดินออกจากที่ส่อนตัวแล้วเข้าไปหาเมื่อพยัคฆ์เมฆาเห็นเฟยหลงก็ส่งเสียงขู่อย่างอ่อนแรง
” โฮก….”
เฟยหลงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของพยัคฆ์เมฆาแล้วมองเข้าไปในตาของมัน
เมื่อดวงตาพยัคฆ์เมฆาสบตากับเฟยหลงแล้วรู้สึกว่ามนุษย์ตรงหน้าถึงอ่อนแอแต่ว่าให้ความรู้สึกกดดันแบบแปลกกับดวงวิญญาณของมัน
เฟยหลงได้เห็นอารมณ์สับส้อนหลากหลายอย่างในดวงตาของพยัคฆ์เมฆาจึงกล่าวว่า
” ข้าไม่ได้มาทำร้ายเจ้าหรือลูกเจ้าแต่อย่างใดข้าเพียงเดินผ่านมาและเห็นการต่อสู้ระหว่างพวกเจ้าก็เท่านั้นข้าไม่มีเจตนาร้าย ”
พยัคฆ์เมฆาสัมผัสได้ถึงความจริงใจและการกระทำของมนุษย์ตรงหน้าซึ่งมันสามารถฆ่าเฟยหลงได้ทุกเมื่อแต่เมื่อเห็นการกระทำของเฟยหลง
จึงลดการป้องกันตัวลงและคำรามเรียกลูกน้อยของมันให้เข้ามาแล้วคำรามเพื่อบอกอะไรบางอย่างกับลูกของมัน
เฟยหลงได้ยืนรอจนมันบอกทุกสิ่งกับลูกน้อยของมันเสร็จจึงเห็นมันหันมามองเฟยหลงและคำรามพร้อมกับใช้ศีรษะดันลูกพยัคฆ์เมฆามาตรงหน้าเฟยหลง
เหมือนกับจะบอกว่าให้พาลูกของมันตามเฟยหลงไปด้วยข้อแลกเปลี่ยนคือเฟยหลงสามารถนำผลวายุครามไปด้วยได้
ซึ่งเฟยหลงได้พยักหน้าเป็นการตกลงเมื่อพยัคฆ์เมฆาเห็นดังนั้นจึงดันลูกน้อยของมันออกมาตรงหน้าเฟยหลง
และส่งสายตาให้ไปหยิบผลวายุครามมาได้เมื่อเห็นดังนั้นเฟยหลงเลยหยิบผลวายุครามและเดินกลับมาตรงหน้ามันและกล่าวกับลูกพยัคฆ์เมฆาว่า
” นี่เจ้าตัวน้อยมากับข้าเถอะมารดาของเจ้าฝากให้ข้าดูแลเจ้าโดยตอบแทนด้วยผลวายุคราม ”
เหมือนกับว่าลูกพยัคฆ์เมฆาเข้าใจสิ่งที่เฟยหลงกล่าวแล้วเดินมาตรงหน้าเฟยหลงแล้วหันหลังกลับไปมองแม่ของมันเป็ครั้งสุดท้ายแล้วเห็นว่าแม่ของมันได้หลับตาลงแล้วจึงเดินมาหยุดอยู่ด้านข้างเฟยหลง
ก่อนเดินจากมาเฟยหลงได้ฝังร่างของพยัคฆ์เมฆาและเก็บแก่นของอสรพิษใบไม้ร่วงเพียงอย่างเดียว
เพราะเนื้อของมันมีมากเกินไปแล้วยังมีพิษร้ายแรงอยู่ส่วนพวกหนังเฟยหลงได้เก็บไว้บางส่วนไม่มากนัก
เฟยหลงที่เห็นเจ้าตัวน้อยเดินตามมาจนหยุดตรงหน้าจึงอุ้มมันขึ้นมาคิดว่าให้เรียกว่าเจ้าตัวน้อยมันอย่างเดียวแปลกๆอยู่จึงตัดสินใจตั้งชื่อให้มัน
” เอาละตั้งเเต่นี้ต่อไปชื่อของเจ้าคือ ”
” เสี่ยวไป๋ “