เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 6 กลับเข้าเมือง

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เฟยหลงและเสี่ยวไป๋ทั้งสองได้ใช้ชีวิตและล่าสัตว์อสูรต่างมากเป็นเวลา​หนึ่งสัปดาห์​ในหุบเขาวายุ

เเล้วดูจากเวลาที่ได้ต่อสู้และบ่มเพาะในหุบเขาวายุจนตอนนี้ยกระดับการฝึกตนของตนเองขึ้นจนถึงขอบเขตก่อกำเนิด​ขั้น5แล้ว

ซึ่งระหว่างนี้ระดับพลังของเสี่ยวไป๋ก็ได้ขึ้นมาอยู่ที่ขอบเขตก่อกำเนิดขั้น4ด้วยความช่วยเหลือของเฟยหลงและความพยายามของเสี่ยวไป๋เอง

เมื่อเฟยหลงคิดว่าได้เวลาออกจากหุบเขาวายุแล้วจึง​ปลุกเสี่ยวไป๋ที่นอนหลับอยู่ข้างตัวของเฟยหลง

” เสี่ยวไป๋ เสี่ยวไป๋​ ตื่นได้แล้วเจ้าจะนอนไปถึงไหนกัน​”

เสี่ยวไป๋ที่กำลังนอนหลับซึ่งถ้าดูจากท่าทางของเสี่ยวไป๋ดูเหมือนว่าจะนอนหลับสนิท​

เมื่อเสี่ยวไป๋ตื่นขึ้นมามันได้หาวออกมาและบิดตัวไปมาเหมือนอยากจ​ะ​นอนต่อไปอีกหน่อยเฟยหลงที่ได้เห็นดังนั้นได้แต่ส่ายหัวและอุ้มมันขึ้นมา

” ไปกันได้เจ้าเเมวขี้เกียจ​ ”

ซึ่งเสี่ยวไป๋เมื่อสังเกตุดูแล้วเหมือนว่าตัวเสี่ยวไป๋ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยยังเหมือนแมวตัวหนึ่งที่มีขนสีขาวตัวเล็กหน้ารักหน้ากอด

หนึ่งบุรุษ​หนึ่งสัตว์อสูรได้ออกเดินทางกลับไปที่เมืองฟ้ากระจ่างเมื่อถึงทางเข้าเมื่อที่มียามเฝ้าอยู่ไม่ได้สังเกตเสี่ยวไป๋ที่น่ารักที่อยู่อ้อมกอดของเฟยหลง

เมื่อผ่านยามทางเข้าประตูและกลับเข้าไปในเมืองฟ้ากระจ่างได้แล้วเฟยหลงจึงคิดวิธีหาเงินโดยการนำแก่นอสูรที่ได้ไปขายยังร้านที่รับซื้อ

เมื่อเฟยหลงสอบถามทางจากคนที่เดินผ่านไปมาและได้เลือกเดินเข้าไปในร้านแห่งหนึ่งซึ่งตอนนั้นเองที่ได้ยินเสียงของพนักงานร้านพูดกับเฟยหลง

” ยินดีต้อนรับไม่ทราบว่าท่านต้องการทำอะไร​ ”

เมื่อเฟยหลงก็ได้หันมาดูก็พบกับพนักงานชายคนหนึ่งที่มองดูเฟยหลงด้วยสายตาดูถูกดูแคลนเหมือนดูคนที่ต่ำต้อยคนหนึ่ง

ซึ่งเฟยหลงเคยเป็นเซียนที่ยิ่งใหญ่เเม้ว่าตอนนี้ระดับการฝึกตนใหม่แต่ก็ไม่ได้สนพวกคนเล่านี้

แล้วเดินไปหน้าพนักงานที่รับซื้อของแล้วหยิบถุงใบหนึ่งออกมาเปิดให้พนักงานนั้นดู

” ข้าต้องการขายแก่นอสูรพวกนี้​ ”

ซึ่งแก่นอสูรแต่ละอันที่เฟยหลงได้นำมามีระดับต่ำสุดคือขอบเขตก่อกำเนิดขั้น4และสูงสุดคือขอบเขตก่อกำเนิดขั้น6

เมื่อพนักงานที่รับซื้อของต่างๆได้ได้เห็นแก่นอสูรที่เรืองเเสงอ่อนๆมากมายจึงรู้สึกแปลกใจที่มีคนล่าสัตว์​อสูรเมื่อดูเฟยหลงที่ยืนอยู่จึงอดแปลกใจไม่ได้

เพราะเฟยหลงเมื่อดูจากรูปร่างหน้าตาก็เรียกได้ว่าหล่อเหลาอยู่ถึงจะใส่ผ้าคลุมและหน้าตาสกปรก​เล็กน้อยส่วนอายุน่าจะประมาณสิบห้าปี

ถ้ามองโดยภาพรวมแล้วคนนั้นต้องเป็นพวกนักล่าที่มีกล้ามโตและมากันเป็นกลุ่มมากกว่า

เฟยหลงที่เห็นพนักงานเหมือนยืนครุ่นคิดอะไรยางอย่างอยู่จึงถามออกไปว่า

” เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่สรุปแล้วจะรับซื้อแก่นพวกนี้ไหมไม่งั้นข้าจะไปร้านอื่น​ ”

พนักงานคนนั้นที่ฟื้นสติขึ้นมาจากเสียงเรียกของเฟยหลงได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจและคำนวณราคา

” มีแก่นอสูรทั้งหมดสามสิบสามแก่นขอบเขตก่อกำเนิดทั้งหมดมีขั้น4จำนวน15แก่นขั้น5จำนวน10แก่นและสุดท้ายขั้น6จำนวน8แก่น ”

” รวมแล้วทั้งหมดราคาสามพันสามร้อยห้าสิบเหรียญ​ทอง​ ”

เมื่อพูดจบพนักงานได้ส่งถุงเงินใบหนึ่งให้เฟยหลงเมื่อเขาหยิบถุงที่บรรจุไปด้วยเหรียญทอง​

แล้วจึงเดินออกจากร้านแล้วเสี่ยวไป๋ที่ได้ซ่อนตัวอยู่ในผ้าคลุม​ได้โผล่​ออกมาและเลียใบหน้าเฟยหลงจึงหัวเราะแล้วลูบหัวมัน

” ไปหาซื้อเสื้อผ้าและสิ่งของจำเป็นต่างก่อนเถอะหลังจากนั้นพวกเราค่อยหาร้านอาหารไปกินกันเถอะ​ ”

เสี่ยวไป๋เมื่อได้ยินว่าจะได้กินอาหารได้ใช้ดวงตากลมโตคู่นั้นมองเฟยหลงอย่างรอคอย

ย้อนกลับไปที่ร้านตอนที่เฟยหลงออกมาก็ได้มีชายชราไว้หนวดเครายาวขาวรวมทั้งเส้นผมคนหนึ่งเดินออกลงมาจากตรอกที่เฟยหลงเดินผ่าน

และมองดูทางที่เฟยหลงได้เดินจากไปและพูดพึมพำ

” ข้ามาเดินเล่นก็ไม่อยู่ดีๆไม่นึกว่าจะเจอกับเรื่องนาสนใจเเบบนี้ ”

” ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่แปลกประหลาด ”

เมื่อพูดจบชายชราคนนั้นได้หายไปจากตำแหน่งเดิมที่เคยอยู่อย่างไร้ร่องรอย

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท