เฟยหลงจึงดึงมือให้เด็กสาวลุกขึ้นและกล่าวว่า
” ก่อนอื่นเจ้าต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ในตอนนี้นก่อน ”
และยื่นมือจะไปอุ้มเสี่ยวไป๋แล้วกล่่าวว่า
” เสี่ยวไป๋ไปกันเถอะ ”
แต่เสี่ยวไป๋ได้หลบมือของเฟยฟหลงที่กำลังจะอุ้มมันและส่งเสียงออกมา
” อ๋าว ”
เหมือนจะบอกว่าอยู่ใกล้เด็กสาวที่อุ้มมันอยู่ให้ความรู้สึกสงบสบายใจดีเมื่อเฟยหลงเห็นดังนั้นจึงส่ายหน้าไปมาและกล่าวว่า
” ตามใจเจ้าละกัน ”
เมื่อเฟยหลงจูงมือเด็กสาวมาจนถึงหน้าตรอกเด็กสาวก็ได้หยุดก้าวเดินต่อไปลงเฟยหลงจึงจะถามว่าทำไมแต่ก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
” อ้อเรื่องที่คนอื่นอาจกลัวหรือทำร้ายเจ้าเพราะใบหน้าสินะ ”
เด็กสาวได้พยักหน้า
เฟยหลงจึงถอดชุดคลุมสีดำออกและใส่ให้เด็กสาวและกล่าวว่า
” เท่านี้ก็ได้แล้วสินะ ”
และเดินจูงมือเด็กสาวไปต่อด้านเด็กสาวรู้สึกอบอุ่นใจมากเมื่อเฟยหลงดูและตนอย่าวดีถึงเธอไม่สามารถเห็นได้ชัดว่าเฟยหลงมีหน้าตาเป็นยังไงและค่อยๆเดินตามเฟยหลงที่จูงมือนางไป
ด้านเฟยหลงที่กำลังเดินออกมาก็ยังคิดอยู่ว่าทำไมตนถึงรู้สึกว่ากายศักดิ์สิทธิ์ของหญิงสาวที่ตนรู้สึกได้จะไม่เหมือนกับที่เคยเจอมาก่อนแต่ตอนนี้เฟยหลงยังไม่มีพลังพอที่จะค้นหาความลับายศักดิ์สิทธิ์ของเด็กสาวตอนนี้
” เฮ้อ… เก็บไว้ค่อยคิดเรื่องนี้ต่อเมื่อมีพลังเพิ่มขึ้นก็แล้วกันก็แล้วกัน ”
” ก่อนอื่นก็ต้องไปหาซื้อบ้านสักหน่อยก็แล้วกัน ”
เมื่อเฟยหลงสอบถามเรื่องราวต่างๆจากคนที่เดินผ่านไปมาก็ได้ไปซื้อบ้านไว้หลังหนึ่งที่เจ้าของบ้านคนเก่าได้ย้ายไปอยู่เมืองอื่นแล้วและยังซื้อเสื้อผ้ามาให้หญิงสาวได้เปลี่ยนจากเสื้อผ้าที่ใส่อยู่
ซึ่งเป็นบ้านขนาดกลางไม่เล็กหรือใฟญ่จนเกินไปด้านหลังมีสนามหญ้าและยังอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางของเมืองฟ้ากระจ่างเฟยหลงจึงเลือกบ้านนี้เพราะเฟยหลงอยากเพิ่มพลังการบ่มเพาะโดยที่ไม่อยากให้เป็นจุดสนใจ
เมื่อเฟยหลงได้จูงมือเด็กสาวเข้ามาในบ้านที่ได้ซื้อไว้ก็ปล่อยมือ
” นี่เเหละคือสิ่งที่ข้าต้องการ ”
ในบ้านหลังนี้มีอยู่สองห้องนอนเฟยหลงจึงกล่าวยื่นเสื้อผ้ากับเด็กสาวว่า
” เจ้าเลือกห้องไหนก็ได้และก็รับเสื้อผ้าพวกนี้ไปเปลี่ยนด้วย ”
เด็กสาวที่รับเสื้อผ้าจากเฟยหลงก็ได้เดินเข้าไปห้องที่ใกล้ที่สุดและเข้าไปด้านเฟยหลงก็ได้เดินไปยังอีกห้อง
และเริ่มทำการบ่มเพาะต่อไปอีกหกชั่วยามซึ่งขั้นพลังของเฟยหลงสามารถทะลวงจากขั้นสี่ไปขั้นที่ห้าของขอบเขตกาอกำเนิดได้แล้วเดินออกมานอกห้อง
เพื่อไปหาเด็กสาวนางนั้นที่ตนพากลับมาด้วยแต่เมื่อเคาะประตูกลับเปิดเข้าไปเองแล้วเจอกับเด็กสาวที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอย่างสบายใจบนเตียงเฟยหลงจึงส่ายหน้าไปมาและคิดว่า
‘ ข้ารู้สึกตัวข้าเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วเเต่เพราะอะไรละหรือว่าจะเป็นเพราะหญิงสาวนางนั้นที่ตนพากลับมาด้วย ‘
เมื่อคิดยังนั้นเฟยหลงจึงส่ายหน้าไปมาเพราะไม่อยากคิดเรื่อราวที่ตนเคยมองว่าไร้สาระ
แบะตอนนั้นเองที่เฟยหลงได้เดินออกมาและคิดวางแผนสำหรับการทะลวงขอบเขตหรือขั้นพลัง
” ขอบเขตหรือขั้นพลังตอนนี้ข้ายังมีพลังปราณและพบังวิญญาณไม่พอที่จะปรุงเม็ดยาบางชนิดที่ข้าต้องการแต่ถ้าข้าสอนเรื่องสูตรเม็ดยาต่างๆพวกนี้ให้กับชายชราเฉิงหรงหรือชายชราหนานกงก็จะให้แลกเปลี่ยนกับวัตถุดิบและการปรุงเม็ดยาให้ก็น่าจะดี ”
” ตอนนี้เหรียญทองที่เหลืออยู่ของข้ามีเพียงแค่สองล้านเจ็ดเเสนเหรียญเท่านั้นถ้ามองจากผู้ฝึกตนต่างๆและคนธรรมดาเหรียญทองพวกนี้ที่ข้ามีมากมายแต่สำหรับข้าแล้วมันยังไม่พอข้าต้องการเหรียญทองมากกว่านี้ ”
” เพื่อที่จะหาซื้อหรือหาข้อมูลจของวัตถุดิบสมุนไพรบางอย่างที่จำสำหรับการปรุงยาแต่ตอนนี้ข้าคงต้องพัฒนาความเเข็งเกร่งของข้าด้านอื่นอย่างเช่น ‘ ทักษะยุทธ์ระดับต่างๆ ‘ เป็นต้น “