เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 48 ข้าจะได้มีข้ออ้างในการเก็บค่าใช้จ่ายเล็กน้อย

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

และเสี่ยวไป๋ได้เดินเข้าไปคลอเคลีย​กับเฟยหลงจนกระทั่งเฟยหลงที่เห็นดังนั้นจึงอดหัเราะไม่ได้​และกล่าวเตือนเสี่ยวไป๋ว่า

” เสี่ยวไป๋เจ้าน่าจะทำตัวให้สมกับเป็นสัตว์​อสูรสายพันธุ์​พยัคฆ์​หน่อยก็ดีนับวันที่เจ้ามาอยู่กับข้าเจ้าก็เหมือนกับแมวน้อยเข้าไปทุกเมื่อแล้ว​ ”

เสี่ยวไป๋ได้มองเฟยหลงเหมืิอนอยากจะบอกว่า

” แล้วไอการทำตัวให้สมกับการเป็นสัตว์​อสูรสายพันธุ์​พยัคฆ์​มันเป็นยังไง​ ”

เฟยหลงไม่ได้ตอบเสี่ยวไป๋และเดินออกไปจากลานหลังบ้านโดยก่อนไปเฟยหลงได้กล่าวกับซูซ่านว่า

” ฝากเจ้าดูแลเสี่ยวไป๋ด้วยข้ามีเรื่องหลายอย่างที่ต้องไปทำอีก​ ”

เมื่อกล่าวจบเงาร่างของเฟยหลงก็ได้หายไปจากสายตาของซูซ่านและเสี่ยวไป๋

ซูซ่านได้อุ้มเสี่ยวไป๋มากอดไว้และกล่าวว่า

” เสี่ยวไป๋เจ้าคิดว่าเขาจะไปไหนเหรอยิ่งข้าอยู่ใกล้ชิดกับเขามากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเจานั้นลึกลับซับซ้อน​ไม่อาจมองทะลุได้เลยแม้แต่นิดเดียว​ ”

เสี่ยวไป๋ได้ร้องออกมาว่า

” อ๋าว​ ”

เหมือนกับจะบอกซูซ่านว่า

” ไม่ต้องไปคิดอะไรมากหรอก​สำหรับข้านั้นขอแค่มีอะไรอร่อย​ๆกินก็เพียงพอเเล้ว ”

เฟยหลงที่ได้เดินต่อไปโดยที่จุดหมายก็คือศาลาโอสถ

เมื่อเฟยหลงเดินเข้าไปและไปหาพนักงานคนเก่าที่เคยนำเรื่องของตนรายงานไปยังชายชราเฉินหรงแล้วบอกว่า

” ข้าต้องการไปพบชายชราเฉินหรง​ ”

พนักงานที่ได้รายงานเรื่องเฟยหลงก็จำได้ว่าคนตรงหน้านี้เป็นคนที่มาตอนนั้นแล้วตอบกลับมาว่า

” โปรดรอข้าน้อยสักครู่​ข้าต้องถามว่าท่านเฉินหรงกำลังทำอะไรอยู่​ ”

และพนักงานคนนั้นได้วิ่งออกไปไม่นานหลังจากนั้นก็ได้กลับมาและกล่าวอย่างนอบน้อมว่า

” เชิญนายท่านขึ้นไปได้เลยท่านเฉินหรงกำลังว่างอยู่พอดี​ ”

เฟยหลงได้พยักหน้าเบาๆให้พนักงานคนนั้นและก้าวเดินขึ้นไปยังชั้นต่อไปแล้วตรงไปยังห้องปรุงยาห้องเดิม

ซึ่งมีชายวัยกลางคนที่สวมเกราะสีทองเฝ้าประตูอยู่ชื่อของเขาก็คือจวินลี่ที่ได้เคยมาเชิญเฟยหลงให้ไปหาชายชราเฉินหรงครั้งก่อน

เเละเมื่อจวินลี่เห็นว่าเป็นเฟยหลงจึงได้เปิดประตูให้แล้วกล่าวกับเฟยหลงว่า

” ท่านเฉิงหรงกำลังรอท่านอยู่ข้างใน​ ”

เฟยหลงได้เข้าไปยังห้องปรุงยาซึ่งเจอกับสมุนไพรบางอย่างกองอยู่และชายชราคนหนึ่งซึ่งนั่งหลับตาอยู่ไม่ไกลจากกองสมุนไพรนั้น

เมื่อสัมผัสได้ว่าเฟยหลงได้เข้ามายังห้องปรุงยานี้แล้วจึงลืมตาและลุกขึ้นมายิ้มให้เฟยหลงพร้อมกล่าวว่า

” เจ้านั้นเองข้ารอเจ้ามาหาข้าอยู่ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว​ ”

เฟยหลงได้ถามว่า

” สมุนไพรคงได้ครบเเล้วใช่ไหม​ ”

ชายชราเฉิงหรงได้กล่าวตอบเฟยหลงว่า

” ข้าหามาครบตามที่เจ้าต้องการแล้วเจ้าจะเริ่มปรุงยายังไง​ ”

ชายชราเฉิงหรงได้กล่าวถามเฟยหลงอย่างกระตือรือร้น​ซึ่งเฟยหลงก็พอเดาได้ว่าชายชราอยากพูดอะไรจึงตอบกลับไปว่า

” เจ้าจะให้ข้าปรุงเม็ดยานี้ก็นับว่าได้เเต่มันสิ้นเปลืองพลังปราณและพลังวิญญาณ​ของข้ามากเกินไปดังนั้นข้าจะสอนสูตรเม็ดยาแล้วก็เเนะนำเจ้าให้ก็แล้วกัน​ ”

เมื่อชายชราเฉิงหรงได้ยินดังนั้นจึงถามว่า

” ให้ข้าปรุงเม็ดยานี้มันจะดีเหรอ​ ”

เฟยหลงได้ตอบกลับไปว่า

” หรือเจ้าไม่ต้องการข้าจะได้ให้ชยาชราหนานกงช่วยปรุงก็ยังได้​ ”

เมื่อชายชราเฉิงหรงได้ยินสิ่งที่เฟยหลงได้กล่าวออกมานั้นจึงกล่าวอออกมาอย่างเร่งรีบว่า

” ไม่ๆข้าจะปรุงเม็ดยานี้เองเพราะในเมื่อเจ้าลงทุนลงเเรงช่วยสอนชายชราอย่างข้าแล้วข้าจะปฏิเสธ​ลงได้ยังไง​ ”

เฟยหลงที่เห็นท่าทางของชายชราเฉิงหรงเหมือนเด็กที่กำลังจะโดนเเย่งขนมจึงไม่อยากจะเสียเวลามากกว่านี้อีกและกล่าวว่า

” งั้นก็มาเริ่มปรุงเม็ดยานี้กันเถอะ​ ”

เเละเฟยหลงจึงได้กล่าวต่อไปว่า

” ตอนเเรกข้ากะจะให้เป็นเม็ดยาเลยเเต่ก็อย่างที่ข้าได้บอกไป​จึงนำมาให้ท่านปรุงเม็ดยาออกมา… ”

แต่เฟยหลงไม่ได้กล่าวประโยคต่อจากนั้นก็คือ

” ข้าจะได้มีข้ออ้าง​ในการเก็บค่าใช้จ่ายเล็กน้อย​ “

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท