เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 53 เจ้าตัวน้อยนี้มัน…. เห็นเเก่กิน

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เฟยหลงและซูซ่านได้เดินเล่นๆต่อไปเรื่อยๆจนถึงหน้าอาคารเเห่งหนึ้งที่ชายชราเฉินหรงได้บอกก็คือโรงประมูลหวังเปานั้นเอง

เฟยหลงที่เดินเข้าไปก็ได้เห็นพนักงานต้อนรับคนหนึ่งเดินออกมาและกล่าวทักทายเฟยหลงกับซูซ่านว่า

” ยินดีต้อนรับไม่ทราบว่าพวกท่านมาซื้ออะไรที่โรงประมูลหวังเปาโปรดบอกข้ามาข้าจะพาท่านไปหาสิ่งที่ท่านต้องการ ”

เฟยหลงได้ตอบกลับไปว่า

” ข้าไม่ได้มาซื้ิออะไรเป็นพิเศษข้าอยากลองเดินดูก่อน ”

เมื่อพนักงานได้ยินดังนั้นจึงกล่าวว่า

” ถ้าท่านสนใจสิ่งของสิ่งใดโปรดบอกข้าได้ ”

” ท่านสามารถถามกับพนักงานที่อยู่แถวๆนั้นได้ถึงเรื่องราวความเป็นมาว่าของสิ่งไหนมาอยู่ที่โรงประมูลแห่งนี้ได้อย่างไร ”

เฟยหลงได้ตอบกลับไปว่า

” อืม ”

แล้วจูงมือซูซ่านไปทางชั้นสองซึ่งอาคารของโรงประมูลมีทั้งหมดสี่ชั้น

ชั้นที่สี่นั้นคือโรงประมูลชั้นที่หนึ่งสองและสามนั้นคือชั้นที่มีสิ่งของต่างๆมากมายที่ไส้มช้บ่มเพาะไว้สำหรับหลอมยาอาวุธและเเม้กระทั้งสิ่งของที่โบราณมากมาย

ก่อนที่จะเดินไปหาสิ่งของที่อยู่ในชั้นต่างๆนั้นเฟยหลงได้ถามว่า

” เจ้าบอกข้าหน่อยได้ไหมว่าการประมูลที่กำลังจะถึงนั้นเริ่มตอนไหน ”

พนักงานที่ได้ยินว่าเฟยหลงได้ถามเรื่องวันประมูลสิ่งของจึงตอบกลับไปว่า

” ทางโรงประมูลหวังเปาของเรานั้นจะเปิดการประมูลครั้งต่อไปอีกหนึ่งวันข้างหน้าท่านสามารถเข้าร่วมการประมูล ”

เฟยหลงได้พยักหน้าขอบคุณและเดินจูงมือซูซ่านไปยังชั้นที่สองซึ่งได้แสดงสินค้าของโรงประมูลที่มีราคาไม่เเพงมากซึ่งชั้นนี้นั้นมีผู้คนมากมาย

ซูว่านไม่ค่อยชอบบรรยากาศ​ที่มีผู้คนมากมายจึงเดินช้าลงให้เฟยหลงได้เดินนำหน้าไป

เฟยหลงที่เห็นว่าซูซ่านเดินช้าลงจึงหันหน้ากล่าวถามว่า

” เจ้าไม่ชอบงั้นเรากลับกันไหม ”

ซูซ่านได้ตอบว่า

” ไม่เป็นไร ”

เสี่ยวไป๋ที่หลับอยู่ก็ได้ตื่นขึ้นมาแล้วร้องว่า

” อ๋าว ”

เฟยหลงก็ได้กบ่าวกับเสี่ยวไป๋ว่า

” ไงตื่นเเล้วเหรอเจ้าตัวขี้เกียจ​ ”

เสี่ยวไปได้มองเฟนหลงเหมือนจะบอกว่า

” ข้าไม่ใช้ตัวขี้เกียจข้าก็แค่อยากจะพักสายตาก็แค่นั้น ”

เฟยหลงได้เดินสำรวจชั้นที่หนึ่งต่อซึ่งตอนนั้นเองที่เสี่ยวไป๋พยามดิ้นรน​ออกจากเเขนของซูซ่านที่กำลังกอดตนอยู่

เมื่อซูซ่านเห็นว่าเสี่ยวไป๋อยากบงไปเดินเหมือนกันจึงปล่อยเสี่ยวไป๋บงอย่างไม่เต็มใจเพราะว่าขนของมันที่นุ่มนิ่ม​และอบอุ่นน่ากอด

เมื่อเสี่ยวไป๋ได้ลงมาเดินมันก็เดินไปมองที่ตู้กระจกใบหนึ่งซึ่งข้างในมีสมุนไพรอยู่

เฟนหลงและซูซ่านจึงลองเดินตามไปดูก็พบว่ามันคือผลลมปราณลูกใหญ่​จำนวนสามลูก

เมื่อเฟยหลงได้ตรวจสอบดูด้วยสายตาก็กล่าวว่า

” ผลบมปราณที่มีอายุี่สิบปีงั้นหรือมันดีกว่าผลลมปราณทั่วไปมากและลมปราณ​ธรรมชาติที่อัดแน่นอยู่ก็มากมายกว่าผลลมปราณธรรมดาหลายเท่านับว่าเป็นสมุนไพรที่ดีมากอย่างหนึ่ง ”

เมื่อเฟยหลงได้หันกลับไปมองเสี่ยวไป๋ก็พบว่ามันกำลังเกาะอยู่ที่ตู้กระจกนั้นพร้อมกับใช้สายตาที่เปร่งประกายราวกับดวงดาราจ้องมองอยู่

และตอนที่เฟยหลงกำลังมองเสี่ยวไป๋อยู่นั้นมันก็รู้สึกถึงสายตาที่กำลังจ้องมองมายังตนจึงหันหน้ามาแล้วสบตากับเฟยหลงเหมือนกับจะบอกว่า

” ท่านซื้อให้ข้าหน่อยข้าอยากกินมันจ้ารู้สึกได้ว่าถ้ามันลูกใหญ่​กว่าที่ข้ากินอีกมันต้องอร่อยมากแน่นอน ”

แต่เฟยหลงไม่ได้รู้ถึงสิ่งที่มันอยากจะกล่าวออกมาแค่เพียงรู้ว่าเสี่ยวไป๋นั้นอยากจะกินผลลมปราณอายุยี่สิบปีสามผลนั้น

ซูซ่านที่เห็นเสี่ยวไป๋กำลังทำท่าทางราวกับว่ากำลังขอให้เฟยหลงซื้อของที่อยู่ในตู้กระจกให้มันซูซ่านจึงกล่าวว่า

” ท่านไม่อยากซื้อให้เสี่ยวไป๋หรือ ”

เฟยหลงได้ส่ายหน้าและตอบว่า

” ไม่ใช่ไม่อยากจะซื้อให้มันหรอกแต่ว่า… ”

ซูซ่านก็ได้ถามว่า

” แต่ว่าอะไรหรือ ”

เฟยหลงได้ตอบว่า

” ตอนนี้ข้าก็ได้รู้แล้วว่า ”

” เจ้าตัวน้อยนี่มัน…เห็นแก่กิน “

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท