เฟยหลงได้ตอบหยางเทียนกลัยไปว่า
” ทำไมจะไม่ได้ละโรงประมูลไม่ได้มีกฎเขียนไว้ส่าห้ามคนที่เข้าร่วมประมูลของบางชิ้น ”
หยางเทียนได้แค่นเสียงและกล่าวเตือนเฟยหลง
” หึ… เจ้าควรระวังตัวให้ดีเวลาอแกไปจากโรงประมูลเพราะในโลกแห่งการบ่มเพาะนั้นมีคนตายมากมายไม่เว้นเเต่ละวัน ”
เฟยหลงก็ได้ตอบหยางเทียนโดยใช้เสียงสูง
” โอ้… งั้นหรือ ”
หยางเทียนที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวเหมืิอนว่าคำเตือนที่ได้บอกไปนั้นไร้ค่า
” แล้วเจ้าจะได้เห็นว่าไม่เชื่อคำเตือนของจ้าแล้วมันเป็นยังไง ”
เฟยหลงก็ได้ตอบหยางเทียนกลับไปว่า
” แล้วข้าจะรอดู ”
พนักงานสาวก็ได้กล่าวเตือนทั้งสามคนว่า
” พวกท่านทั้งสามจะไม่เสนอราคาประมูลแล้วใช่ไหมถ้างั้นข้าจะขอประกาศ……………. ”
เฉินหมิงก็ได้กล่าวขึ้นมาว่า
” เดี๋ยวก่อน ”
และหันกลับไปมองห้องพิเศษของเฟยหลงพร้อมกับกล่าวถาม
” สหายน้อยท่านช่วยรามือจากเม็ดยานี้ได้ไหมทางตระกูลข้าต้องการมันมาก ”
” ถ้าหากน้อยทำแบบนั้นตระกูลเฉินเราจะถือว่าพวกเราเป็นหนี้บุญคุณสหายน้อยครั้งหนึ่งว่ายังไง ”
เฟยหลงจึงเรียกชายชราชางฟู่ที่นั่งอยู่ตรงข้าม
” ท่านส่งคนบางคนไปที่ห้องพิเศษของตระกูลเฉินหน่อยได้ไหมข้ามีเรื่องบางอย่างอยากจะบอกเขาหน่อย ”
ชายชราชางฟู่ได้ตอบกลับไปว่า
” ได้นายน้อยต้องการให้ชายชราผู้นี้ช่วยอะไรชายชราผู้นี้จะทำมันให้สำเร็จ ”
เมื่อชายชราชางฟู่ได้เรียกพนักงานชายคนหนึ่งเข้ามาและกล่าวว่า
” เจ้าช่วยนายน้อยเฟยหลงจัดการเรื่องบางอย่างหน่อยและต้องทำตามที่นายน้อยเฟยหลงพูดทุกคำเข้าใจไหม ”
เฟยหลงได้หยิบกล่องยางอย่างออกมาซึ่งข้างในนั้นใส่อะไรไว้ไม่มีใครรู้และกล่าวกับพนักงานชายคนนั้นว่า
” เจ้านำสิ่งของเหล่านี้ไปให้ผูำตระกูลเฉิน ”
” ที่ชื่อเฉินหมิงที่อยู่ห้องพิเศษส่วนมันอยู่ห้องไหนนั้นทางพวกท่านคงจัดการได้ ”
ชายชราชางฟู่ได้ตอบเฟยหลงอย่างมั่นใจว่า
” ไม่มีปัญหาเเน่นอนข้ารับรองได้ ”
ก่อนที่พนักงานคนนั้นจะจากไปทำตามคำสั่งของเฟยหลงจึงนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้แล้วกล่าวหยุดพนักงานชายเอาไว้ว่า
” หยุดก่อนข้ามีของบางอย่างฝากไปด้วย ”
เฟยหลงได้หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งกับพู่กันออกมาจากกระเป๋ามิติและได้เขียนอะไรบางอย่างลงไป
แล้วพับกระดาษแผ่นนั้นพร้อมบอกกับพนักงานชายคนนั้นว่า
” นำสิ่งนี้ไปให้ถึงมีเฉินหมิงเหมือนกันเอาละไปได้ ”
…………………
พนักงานชายได้ออกยังห้องพิเศษจองตระกูลเฉินซึ่งมีเฉินหมิงที่เป็นผู้นำตระกูลรุ่นปัจจุบันอยู่พนักงานชายได้เคาะประตู
เฉินหมิงที่กำลังจะเสนอราคาประมูลต่อนั้นได้หยุดลงทั้นทีเเละกล่าวว่า
” เข้ามาได้ ”
พนักงานชายได้เข้าไปในห้องพิเศษนั้นก็ได้พบกับชายวัยกลางคนคนหนึ่งซึ่งมีหน้าตาดีดูเป็นมิตรกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้สวมใส่ชุดที่มีสีฟ้าอ่อนมองแล้วทำให้รู้สึกสงบน่าหลงไหล
พนักงานที่กำลังมองเฉินหมิงอยู่อย่างแปลกใจผ่านไปชั่วครู่จึงกล่าวกับเฉินหมิงว่า
” นายน้อยเฟยหลงฝากของบางมาให้ท่าน ”
เฉินหมิงก็ได้สงสัยและกล่าวถามว่า
” นายน้อยเฟยหลงรึ ”
” เป็นใครกันข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย ”
พนักงานชายคนนั้นได้ตอบเฉินหมิงกลับไปว่า
” นายน้อยได้บอกว่าให้มอบสิ่งนี้ให้ด้วย ”
พนักงานชายได้ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้เฉินหมิง
เฉินหมิงได้มองกระดาษแผ่นนี่อย่างละเอียดว่ามีอะไรที่เเปลกประหลาดอยู่แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พบแะไรที่น่าสังสัยตามที่คิด
จึงคลี่กระดาษออกและบนกระดาษก็ได้ปรากฎข้อความบางอย่างขึ้นมา
เมื่อเฉินหมิงกล่าวจบก็แสดงออกอย่างแปลกใจและเปิดดูสิ่งของข้างในและพบบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อจึงกล่าวกับพนักงานคนนั้นว่า
” ฝากขอบคุณนายน้อยเฟยหลงด้วยว่าน้ำใจครั้งนี้ข้าจะต้องตอบเเทนเเน่นอน “