เฟยหลงได้ตอบผู้อาวุโสตระกูลหยางอย่างกลับไปว่า
” ได้ข้าพอใจเเล้ว ”
ผู้อ่วุโสตระกูลหยางก็ได้สั่งให้ไปนำเงินหนึ่งล้านเหรียญทองออกมาแล้วยืนให้เฟยหลง
” เจ้าอย่าลืมข้อตกลงของพวกเราละ ”
เฟยหลงได้ตอบผู้อาวุโสตระกูลหยางว่า
” ข้าไม่ลืมอยู่แล้ว ”
เฟยหลงก็ได้กล่าวลาผู้อาวุโสตระกูลหยาง
” ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วงั้นข้าคงต้องขอตัวลาเพียงเท่านี้ ”
เมื่อเฟยหลงได้กล่าวจบจึงได้เดินออกไปพร้อมกับทิ้งท้ายคำกล่าวอีกอย่างไว้
” ไม่ต้องส่งข้าเดินกลับออกไปเอง ”
ชายชราทั้งสามและเฉินหรงที่กำลังนั่งอยู่ก็ได้ลุกขึ้นและกล่าวออกมาว่า
” งั้นพวกพวกข้าขอลาเช่นกัน ”
เมื่อกล่าวจบทั้งสี่คนได้ออกไปจากห้องผู้อาวุโสตระกูลหยางได้ถอนหายใจยาวและกล่าวเรียกชายคนหนึ่งเข้ามา
” เสียเงินไปหนึ่งล้านเหรียญทองทางตระกูลหยางเราที่ตอนนี้ก็วุ่นวายมากอยู่แล้ว ”
” เจ้าจงไปจัดการเรื่องต่างๆให้ดีอย่าทำให้ข้าผิดหวังละ ”
ชายคนได้นั้นได้รับคำของผู้อาวุโสตระกูลหยางและเดินขากไป
ผู้อาวุโสตระกูลหยางที่นั่งอยู่ในตอนนี้นั้นในอนาคตอีกหลายปีตัวเขาจะรู้ว่าการที่ให้เฟยหลงไปหนึ่งล้านเหรียญทอง
กับเฟยหลงไปนั้นเป็นสิ่งที่คุ้มค่าและเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตของตน
เฟยหลงที่ได้เดินออกมาจากตระกูลหยางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าตามมา
แล้วเมื่อมันหันกลับไปก็พบกับชายชราทั้งสามและเฉินหรงที่กำลังเดินตามเฟยหลงอย่างเร่งรีบเฟยหลงที่เห็นดังนั้นจึงกล่าวออกมาว่า
” พวกท่านกลับไปเถอะตอนนี้การแสดงจบแล้วใครมีอะไรไปทำก็ไปเถอะ ”
เมื่อทั้งสี่ได้ยินสิ่งที่เฟยหลงกล่าวออกมาจึงรู้ว่าเฟยหลงไม่อยากพูดคุยกับใครอีกจึงเดินจากไปทำตามหน้าที่ที่ตนได้ทิ้งไว้
เฟยหลงระหว่างที่เดินก็ได้คิดว่า
‘ เมืองฟ้ากระจ่างเเห่งนี้เเม้ว่าจะสามารถหาวัตถุดิบหรือสิ่งของต่างที่อยู่ในขอบเขตก่อเกิดจะมีมากมายเเต่ถ้าจะหาสิ่งที่อยู่ขอบเขตวิญญาณนั้นหายากยิ่งกว่าอะไร ‘
เฟยหลงได้มองท้องฟ้าและกล่าวออกมาว่า
” คงได้เวลาเเล้วที่ข้าจะต้องไปจากเมืองเเห่งนี้แล้ว ”
” เเต่ข้าไม่รู้ว่าแผ่นดินนี้จะเปลี่ยนเเปลงไปมากแค่ไหนแล้วข้าคงต้องหาอะไรบางอย่างหรือถามใครเพื่อกำหนดทิศทางเเล้วละ ”
เฟยหลงได้เดินกลับไปยังบ้านพักของตนเองอย่างรวดเร็วเมื่อกลับไปและเข้าไปข้างในบ้านก็ได้เจอกับเสี่ยวไป๋ที่นอนอยู่บนเตียงของตน
และเดินผ่านห้องของซูซ่านก็เจอกับประตูที่ปิดอยู่และได้ยินเสียงเหมือนกับว่าซูซ่านกำลังพลิกตัวไปมาอยู่ดฟยหลงจึงตัดสินใจไม่รบกวนแล้วกลับไปนอน
……………………..
เมื่อยามเช้ามาเยือนเฟยฟลงที่ได้ฝึกอยู่ตลอดก็ไดเหยุดลงเพราะมีเสียงของซูซ่านกล่าวออกมาอย่างดีใจแล้ววิ่งเข้ามาหาเฟยหลง
” ท่านพี่เฟยหลงท่านกลับมาแล้วหรือท่านไปไหนมาข้า……… ”
เฟยหลงที่เห็นซูซ่านกำงังกล่าวถามออกมาโดยที่ไม่หยุดหายใจเฟยหลงจึงกล่าวว่า
” ใจเย็นข้าไม่เป็นไรจำที่ข้าบอกได้ไหมว่าไม่มีใครในเมืองนี้ที่ทำอะไรข้าได้ ”
ซูซ่านได้ตอบกลับเฟยหลง
” ข้าจำได้และข้าก็เชื่อท่านด้วย ”
เมื่อเฟยหลงได้ยินซูซ่านกล่าวเช่นนี้จึงรู้สึกดีขึ้นมามากและกล่าวเรื่องที่ตนคิดเอาไว้เมื่อวาน
” ข้าคิดว่าจะออกจากเมืองเเห่งนี้และเดินทางไปยังที่ที่ข้าคิดว่าเหมาะสมกับการหาสิ่งของต่างเพื่อยกระดับขอบเขตและขั้นพลังให้สูงขึ้นไปอีก”
ซูซ่านได้ฟังเฟยหลงอธิบายออกมาจนจบและกล่าวตอบ
” ถ้าท่านพี่เฟยหลงไปไหนข้าไปด้วยชีวิตนี้ของข้าได้ท่านพี่เฟยหลงช่วยเอาไว้และยังทำให้ข้าเห็นโลกใบนี้ได้อย่างชัดเจน ”
” ไม่ว่าท่านพี่เฟยหลงไปไหนข้าจะตามไปด้วยบุญคุณที่ช่วยข้าไว้นั้นตลอดชีวิตข้าก็ไม่สามารถตอบเเทนได้ “