การเดินทางของเฟยหลงซูซ่านและเสี่ยวไป๋ยังคงดำเนินต่อไปอย่างเรื่อยเปื่อย
จนกระทั้งได้เข้ามายังเมืองเล็กแห่งหนึ่งซึ่งเป็นทางผ่านของพวกเฟยหลงจึงหยุดแวะพักกันในที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในเมือง
เฟยหลงได้เดอนเข้าไปยังเสี่ยวเอ้อที่ยืนและกล่าวออกมาว่า
” เปิดสองห้องส่วนเวลาที่จะพักก็คือหนึ่งวัน ”
เสี่ยวเอ้้อที่เห็นว่าเฟยหลงได้กล่าวออกมาจึงกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว
” สองห้องแบะเวลาคือหนึ่งวันทั้งหมดหนึ่งร้อยเหรียญทอง ”
เฟยหลงได้หยิบเหรียญทองที่ตนเองมีออกมาแล้วตั้งไว้อย่างรวดเร็วเมื่อเสี่ยวเอ้อได้บอกห้องของทั้งสองให้ทราบ
เเต่ซูซ่านที่อยู่ต่างเมืองที่คุ้นเคยไม่อยากอยู่แยกจากเฟยหลงแต่หลังงจากการฝึกต่อสู้กับสัตว์อสูรหลายต่อหลายครั้งที่ผานมา
ทำให้เด็กสาวที่อ่อนแอคนนั้นเข้มเเข็งขึ้นมามากแล้วเเต่บางครั้งก็ชอบอยู่มกล้กับเฟยหลงเพราะนางรู้สึกปลอดภัยมากกว่าอยู่ตัวคนเดียว
จึงกล่าวกับเฟยหลงว่า
” ท่านพี่เฟยหลงข้า…….. ”
หลังจากที่ซูซ่านเงียบไปชั่วครู่ก็ได้กล่าวออกมา
” ไม่เป็นไรมันไม่ใช่เรื่องไม่สำคัญนักหรอก ”
เฟยหลงไม่สามารถที่จะอ่านความคิดของซูซ่านออกจึงได้ดึงมือซูซ่านพร้อมกับกล่าวถามโดยที่เฟยหลงได้มองไปในดวงตาของซูซ่าน
” เจ้าต้องบอกข้ามาก่อนว่าเจ้าต้องการอะไรไม่งั้นข้าไม่ปล่อยเจ้าไปไหนแน่นอน ”
ซูซ่านที่เห็นเฟยหลงต้องการที่จะถามหาคำตอบเอาให้ได้จึงตัดสินใจกล่าวออกมาโดยที่ใช้เสียงอันแผ่วเบา
” ข้า……เเค่กลัวที่จะต้องอยู่คนเดียวเท่านั้น ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นในดวงตาก็ได้มีความอบอุ่นแฝงอยู่และก็ไ้ด้กล่าวพร้อมกับลูบศรีษะของซูซ่าน
” ไม่เป็นไรหรอกเเต่เจ้าต้องฝึกให้อยู่คนเดียวบ้างเพราะว่าข้าไม่สามารถอยู่กับเจ้าได้ตลอดเวลาบางครั้งก็อาจจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเจ้าจะสามารถเอาตัวรอดและกลับมาเจอข้าอีกครั้ง ”
เมื่อซูซ่านได้ยินเฟยหลงกล่าวแบบนั้นจึงรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยเเต่ตัวนางเองก็รู้ดีว่าจะคอยพึ่งพาเฟยหลงต่อไปเเบบนี้ทุกครั้งไม่ได้
จึงกล่าวตอบเฟยหลงโดยที่กมหน้าลงเหมือนจะไม่อยากมองหน้าของเฟยหลงที่คิดว่านางเอาเเต่ใจ
เเต่แล้วนางก็ำด้ยินเสียงจองเฟยหลงกล่าวออกมาว่า
” เเต่จ้าจะยกให้เป็นกรณีพิเศษก็แล้วกัน ”
ซูซ่านที่ได้ยินดังนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมาและเห็นใบหน้าที่ไม่ได้โกรธเคืองของเฟยหลงเเม่เเต่น้อยและกล่าวกับเฟยหลงด้วยรอยยิ้ม
” คะท่านพี่เฟยหลง ”
เฟยหลงก็ได้กล่าวกับซูซ่านต่อไปอีกว่า
” เจ้าไปนอนที่เตียงละกันส่วนข้าจะไปนั่งบ่มเพาะต่ออยู่ไม่ไกลจากเจ้าเข้าใจไหม ”
…………………………
เฟยหลงซูซ่านและเสี่ยวไป๋ที่ได้เดินลงมายังชั้นที่หนึ่งของโรงเตี๊ยมก็ได้หาที่นั่งเงียบมุมหนึ่งแล้วนั่งลงพร้อมกับสั่งอาหารต่างๆ
โดยที่ซูซ่านที่ตอนนี้เปลี่ยนจากใส่ชุดคลุมสีดำเป็นสุดสีเขียวสดใสเเบบปกติแม้ว่าจะใส่ผ้าคลุมหน้าปิดยังหน้าตาของนางไว้
เเละเเม้ว่าซูซ่านในตอนนี้จะสามารถควบคุมพลังแปลกประหลาดที่มักจะกระจายอยู่รอบตัวของนางได้แล้ว
เเต่ความงดงามของนางนั้นไม่อาจที่จะปกปิดได้เลยเเม้ว่าจะมีผ้าคลุมหน้าปิดเอาไส้อยู่ก็ตาม
ระหว่างที่ทั้งสองได้นั่งคุยกันอยู่ก็ได้มีกลุ่มชายวัยกลางคนที่ดูท่าทางโหดเหี้ยมและมีรอยเเผลเป็นตามตัวก็ได้เดินเข้ามายังโรงเตี๊ยม
โดยที่เมื่อกลาวตามองก็พยว่ามุมหนึ่งมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ท่าทางอ่อนแอลูกเเมวสีขาวที่นั่งอยู่ด้านข้าง
แล้วเมื่อคนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มก็ได้เดินเข้าไปโดนที่ตอนนั้นเฟยหลงกำลังนั่งรออาหารที่สั่งไปกับซูซ่านที่ก้มหน้าก้มตาเล่นกับเสี่ยวไป๋อยู่
ก็ได้เห็นกลุ่มชายวัยกลางคนนั้นเดินเข้ามาและกล่าวออกมา
” แกออกไปจากตรงนี้ซะนี่มันที่ของ ”
เฟยหลงได้ตอบคำถามของชายวัยกลางคนโดยที่ไม่ได้เหลือบมองเลยว่า
” ข้าไม่เห็นว่ามีตรงนี้มีป้าย “