และแล้วตอนนั้นเองที่เหล่าสัตว์อสูรได้คำรามออกมาบนต้นไม้นั้นก็ได้ปรากฏผลไม้ลูกหนึ่งงอกออกออกมา
มันมีรูปร่างกลมสีขาวบริสุทธิ์และเฟยหลงก็สัมผัสถึงพลังปราณที่อัดเเน่นอยู่ข้างในได้อีกด้วย
ระหว่างที่ผลของต้นไม่นั้นเติบโตขึ้นเรื่อยเหล่าสัตว์อสูรก็ได้เริ่มคำรามออกมาพร้อมกับเข้าต่อสู้กัน
” โฮก ”
เฟยหลงที่สังดกตมาตลอดก็ได้กบ่าวออกมาว่า
” ไม่แปลกใจเลยที่เหล่าสัตว์อสูรเป็นเเบบนี้เพราะว่ามะนคงได้คำสั่งจากผู้นำหรือจ่าฝูงให้ปกป้องเขตเเดนของตนไส้เพื่อป้องกันไม่ให้เหบ่ามนุษย์มาเห็นผลของต้นไม้ต้นนี้ ”
เฟยหลงที่เห็นดังนั้นจึงกล่าวกับซูซ่านและเสี่ยวไป๋ว่า
” พวกเจ้าสองคนรอข้าอยู่ตรงนี้ข้าจะเข้าไปเเย่งผลของต้นไม้นั้นมาซึ่งถ้าข้าจำไม่ผิดมันมีประโยชน์ต่อเสี่ยวไป๋มาก ”
ซูซ่านที่ได้ยินว่าเฟยหลงกำลังจะเข้าไปนำผลของต้นไม้นั้นมาท่ามกลางการต่อสู้ของเหล่าสัตว์อสูรจึงกล่าวถามกับเฟยหลง
” ท่านพี่เฟยหลงมันจะไม่อันตรายเหรอ ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบซูซ่านและเสี่ยวไป๋
” ไม่เป็นไรหรอกจ่าฝูงของสัตว์อสูรเหล่านั้นมีพลังขอบเขตก่อกำเนิดขั้นที่เก้าเหมือนกับข้าในตอนนี้ส่วนตัวอื่นก็มีจอบเจตที่ต่ำกว่าข้าไม่ต้องกัลวลมาก ”
เฟยหลงได้กล่าวต่อไปอีกว่า
” พวกเจ้าทั้งสองก็ซ่อนตัวอยู่เเถวนี้ละกันอย่ามห้พวกสัตว์อสูรสัมผัสถึงการคงอยู่ได้เด็จขาด ”
เเต่ซูซ่านก็ได้กล่าวกับเฟยหลงว่า
” เเต่ว่าท่านพี่เฟยหลงท่านมีนั้นมีพลังอยู่ที่ขอบเขตก่อกำเนิดขั้นที่เก้าเเล้วบวกกับพวกข้าทั้งสองที่มีพลังอยู่ที่ขอบเขตก่อกำเนิดขั้นที่แปดก็ยังสามารถช่วยท่านได้ ”
เฟยหลงได้กล่าวอธิบายกับทั้งสองว่า
” ข้านู้ดีว่าเจ้าช่วยข้าได้เเต่ตอนนี้นั้นข้าต้องการที่จะเเย่งผลของต้นไท้ตนนั้นมาก่อนเพราะว่าถ้าข้ามัวชักช้าอยู่มันอาจจะเกิดบางสิ่งบางอย่างที่ข้าคิดได้นะ ”
เมื่อเห็นว่าเฟยหลงำด้ห้ามนางเเละเสี่ยวไป๋อย่างนั้นซูซ่านจึงเลิกที่จะให้เฟยหลงพาพวกนางเข้าไปต่อสู้ด้วย
เเละก่อนเฟยหลงจะจากไปก็ได้กล่าวว่า
” พวกเจ้าไปซ่อนตัวยังที่ตรงนั้นก่อน ”
โดยที่เฟยหลงได้ชี้นิ้วของเขาไปยังทางที่พวกเขาเดินเข้ามาซึ่งเฟยหลงจะได้ไม่ต้องกังวลใจว่าทั้งสองจะตกอยู่ในอันตรายและโดนลากเข้าไปในการต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้นขอองเหล่าสัตว์อสูร
ซูซ่่นได้ตอบเฟยหลงกลับไปว่า
” ข้าจะทำตามที่ท่านพี่เฟยหบงบอก ”
เมื่อกล่าวจบซูซ่านก็ได้ลากตัวเสี่ยวไป๋ที่กำลังมองการต่อสู้ของเหล่าสัตส์อสูรด้วยความกระหายอยากเข้าไปร่วมวงกับพวกนั้นด้วย
เฟยหลงได้ใช้ก้าวพริบตาเเล้วค่อยๆย่องออกไปโดยที่ไม่ได้ทำให้เกิดเสียงขึ้นมาเเม้เเต่น้อยโดยที่เหช่าสัตว์อสูรนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่าการที่พวกใันนั้นกำลังต่อสู่กันอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น
จะมีคนผู้หนึ่งก้าวท้าวอย่างเบาด้วยร่างกายอัยพนิ้วไหวไปกับสายลมได้ค่อยเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อย
จนกระทั้งเฟยหลงได้อาศัยช่วงเวลาที่พวกมันกำลังปะทะกันอย่างดุเดือจและคงจะใกล้ถึงจุดตัดสินอีกไม่นาน
ได้มีมือหนึ่งยื่นออกไปยังผลที่อยู่บนต้นไม้นั้นเฟยหลงได้ดึงมันออกมาจากต้นเเต่เเล้วมันกลับเเข็งกว่าที่เฟยหลงคาดคิดไว้
” ไอต้นไม้บัดซบแกจะทำให้ข้าเป็นเป้าสายตาและตกอยู่กลางวงล้อมของพวกมัน ”
แต่แล้วตอนนั้นเองที่เฟยหลงได้คิดอะไรบางอย่างออก
” ใช่เเล้วข้าลืมสิ่งๆนั้นไปได้ยังไงละ ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวจบก็ได้หาสิ่งของที่ตนต้องการจากกระเป๋ามิติซึ่งใช้เวลาอยู่ไม่นาน
เเต่สำหรับสถานการณ์ที่เฟยหลงกำลังติดอยู่นั้นคือการที่มีสัตว์อสูรล้อมรอบตนเองอยู่
ซึ่งสิ่งที่เฟยหลงหยิบออกมานั้นไม่ใช่อะไรนอกจากอาวุธที่เฟยหลงซื้อมันมาแล้วไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่นักเพราะว่าตนใช้มันเป็นเพียง’ มีดปลอกผลไม้ ‘เท่านัั้น
เฟยหลงได้ดาบนั้นตัดก้านของผลที่ติดอยู่กับต้นไม้นั้นก็ได้ขาดลงพร้อมกับเสียงคำรามที่ดังขึ้น
” โฮก ”