เมื่อเฟยหลงได้ยินเีสยงคำรามนั้นก็ได้กล่าวออกมาอย่างหงุดหงิดว่า
” เวรเอ้ยพวกสัตว์อสูรมันรู้ตัวเเล้วหรือนี่ ”
โดยที่ด้านล่างของต้นไม้นั้นได้มีเหล่าสัตว์อสูรจำนวนมากที่กำลังมองเฟยหลงอยู่พร้อมกะบคำรามออกมา
” โฮก ”
เฟยหลงที่ได้เห็นอย่างนั้นก็ได้โยนเอาผลที่เฟยหลงได้รับมานั้นซ่อนไว้ข้างหลังและกล่าวออกมา
” พวกเจ้าต้องการสิ่งนี้มากเลยหรือ ”
โดยคำถามของเฟยหลงนั้นได้รับการตอบโดยมีเพียงเสียงคำรามของสัตว์อสูรเท่านั้นเฟยหลงได้แอบนำผลอะไรบางอย่างที่มีพลังปราณซึ่งมันมีลักษณะคล้ายกับผลของต้นไม้ที่เฟยหลงถืออยู่
” ถ้าเจ้าต้องการนักละก็ก็ไปเเย่งกันเอาเองละกัน ”
เมื่อเฟนหลงกล่าวจบก็ได้โยนออกไปหนึ่งลูกและวิ่งหนีไปอย่างรวดเน็วสัตว์อสูรที่กำลังคลุ้มครั้งเพราะว่าสิ่งนั้นเป็นของที่พวกมันต้องการ
และสามารถทำให้พวกมันก้าวข้ามขอบเขตก่อกำเนิดไปยังขอบเขตวิญญาณได้
จึงวิ่งเข้าไปและเเเย่งกันโดยที่ไม่ได้รู้ว่าเฟยหลงนั้นได้โยนไปนั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกมันต้องการ
เมื่อเฟยหลงได้เห็นว่าเเผนการของตนนั้นสำเร็จแล้วจึงกล่าวออกมาว่า
” ข้าขอตัวก่อนเชิญพวกเจ้าเเย่งชิงกันเลยว่าใครจะได้มันไป ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวจบก็ได้รีบวิ่งกลับไปทางที่ซูซ่านและเสี่ยวไป๋อยู่เมื่อเฟยหลงมาเจอทั้งสองก็ไม่ได้กล่าวอะไรมากมาย
” พวกเจ้าทั้งสองรีบวิ่งกันเร็วเข้า ”
ทั้งสองที่ได้เห็นเฟยหลงกลับมาจึงรู้สึกดีใจเเต่ว่าเมื่อได้ยินเฟยหลงบอกให้ทั้งสองวิ่งเเม้จะสงสัยเเต่ซูซ่านและเสี่ยวไป๋ไม่ได้รอช้าแล้วเริ่มออกตัววิ่งกลับไปทางเดิม
ระหว่างนั้นซูซ่านและเสี่ยวไป๋ได้ยินเสียงคำรมดังออกมาทางป่าเมื่อทั้งสามได้วิ่งออกมาไกลมากแล้ว
เฟยหลงที่เห็นว่าพวกสัตว์อสูรคงตามมาไม่ได้แล้วจึงหยุดวิ่งแล้วกล่าวกับซูซ่านและเสี่ยวไป๋ว่า
” ในที่สุดก็หนีพวกมันมาได้แล้ว ”
ซูซ่านยึงถามเฟยหลงว่า
” ทำไมท่านต้องหนีด้วยละ ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบซูซ่านกลับไป
” ที่ข้าหนีไม่ใช่พวกสัตว์อสูรขอบเขตก่อกำเนิดเเต่เป็นสัจว์อสูรขอบเขตวิญญาณที่จะมาในอีกไม่นานหลังจากนั้นต่างหาก”
ซูซ่านจึงได้กล่าวถามเฟยหลงต่อไปว่า
” สิ่งที่ท่านพี่เฟยหบงยอมเสี่ยงไปนำมันมานั้นสามารถช่วยเสี่ยวไป๋มากเลยหรือ ”
เฟยหลได้ตอบกลับไปว่า
” ใช่ ”
เสี่ยวไป๋นั้นได้กลิ่นของผลอะไรบางอย่างที่เฟยหลงถือไว้แล้ว
” อ๋าว ”
ซูซ่านก็ได้กล่าวถามชื่อของมัน
” ท่านพี่เฟยหลงมันมีชื่อว่าอะไรหรือ ”
เฟยหลงได้ตอบคำถามของซูซ่านพร้อมอธิบายว่า
” มันมีชื่อว่าผลปราณอสูรใช้สำหรับเพิ่มพลังปราณให้สัตว์อสูรหรือมนุษย์ก็ได้เเต่ถ้าสัตว์อสูรได้ทานมันเข้าไปแล้วละก็จะมีโอกาศปลุกสายเลือดของตนให้ตื่นขึ้นหรืออาจจะทำให้สายเลือดนั้นบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ”
” เเต่ว่ามันมีผลเพียงเเค่สัตว์อสูรที่มีขอบเขตก่อกำเนิดส่วนขอบเขตวิญญาณนั้นเเต่สิ่งที่ได้รับลดลงเหลือเพียงเเค่ห้าในสิบเท่านั้น ”
” เเต่พวกมันบางตัวก็ต้องการเเม้โอกาศมันจะน้อยนิดก็ตาม…………….. ”
ระหว่าวที่เฟยหลงกำลังกล่าวอธิบายเรื่องผลปราณอสูรแก่ซูซ่านอยู่นั้นก็ไม่ได้สั่งเกตุเลยว่ามีอุ้งมือของเสี่ยวไป๋ได้หยิบผลปราณอสูรแล้วนำไปทานเเล้วโดยที่เฟยหลงไม่ได้รู้ตัว
เฟยหลงก็ได้กล่าวอธิบายกับซูซ่านจนจบก็ได้รู้สึกว่าในมือของตนนั้นมีบางสิ่งหายไปและเมื่อมองดูก็พบว่า
” ผลปราณอสูรละหายไปไหน ”
ระหว่างที่เฟยหลงกล่าวออกมานั้นก็ำด้เห็นเสี่ยวไป๋ที่ตอนนี้นอนหมอบและหลับตาลงอยู่ไม่ไกล
โดยที่รอบตัวของเสี่ยวไป๋นั้นมีพลังปราณโคจรอยู่รอบสร้างเป็นแรงลมขนาดเล็ก
เฟยหลงที่เห็นดังนั้นก็ำด้กล่าวว่า
” ข้าก็คิดว่าผลปราณอสูรหายไปไหนที่เเท้ก็มีคนขโมยมันไปนี่เอง ”
” เจ้าขโมยน้อย ”