เฟยหลงก็ได้กล่าวกับเสี่ยวไป๋และซูซ่านว่า
” ข้าจะเข้าไปจัดการกับสัตว์อสูรให้พวกเจ้าเข้าไปจัดการกับสัตว์อสูรอีกตัวหนึ่งตอนที่พวกมันนั้นเหนื่อยล้าถึงขีดสุดก่อนพวกเราจะเริ่มลงมือเจ้าจะทำไหม ”
ซูซ่านได้ตอบเฟยหลงกลับไปอย่างมุ่งมั่น
” ข้าจะไปด้วยคะท่านพี่เฟยหลง ”
เสี่ยวไป๋ก็ได้คำรามออกมาและตั้งท่าทางพร้อมต่อสู้ทันที
” โฮก ”
เฟยหลงที่เห็นทั้งสองคนมุ่งมั่นที่จะเข้าไปต่อสู้กัยสัตว์อสูรจึงกล่าวกับทั้งสองว่า
” รอก่อนตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ”
ที่เฟยหลงต้องการให้ทั้งสองนั้นสู้กับสัตว์อสูรขอบเขตวิญญาณนั้นเพราะว่าตามการประเมินของเฟยหลง
ซูซ่านและเสี่ยวไป๋นั้นมีความสามารถพอที่จะสู้กับสัตว์อสูรขอบเขตวิญญาณถึงเเม้ว่าทั้งสองตัวนั้นจะเป็นเพียงเเค่สัตว์อสูรขอบเขตวิญญาณขั้นที่หนึ่งเท่านั้น
เเต่ถ้าเทียบกับคนธรรมดาที่มีพลังเพียงเเค่ขอบเขตก่อกำเนิดนั้นไม่สามารถที่จะสู่ขอบเขตวิญญาณเเต่ซูซ่านนั้นมีพลังจากกายศักดิ์สิทธิ์ที่แปลกประหลาดซึ่งเเม้เเต่เฟยหลงก็ไม่สามาถรระบุได้
บวกกับทักษะบ่มเพาะเทพแห่งชีวิตที่เฟยหลงได้ให้ซูซ่านบ่มเพาะก็ไม่ธรรมดาเช่นกันส่วนทางด้านเสี่ยวไป๋นั้นมีสายเลือดของพยัคฆ์ขาวเเม้จะน้อยนิดแต่เฟยหลงได้ตรวจสอบเเล้วว่ามันมีความบริสุทธิ์สูงกว่าพวกสัตว์อสูรที่เฟยหลงเจอมาในชีวิตก่อนซะอีก
ดั้งนั้นเฟยหลงจึงไม่เป็นห่วงว่าทะ้งสองคนจะได้รับอันตรายโดยที่มีเขาอยู่ด้วยไม่ห่าง
การต่อสู้ระหว่างสัตว์อสูรนั้นได้ต่อสู้กับจนใกล้จะถึงจุดจบแล้วเฟยหลงที่เห็นกังนั้นจึงตะโกนออกมาทั้งสองคนว่า
” ตอนนี้เเหละพวกเจ้าไปสู้กับสัตว์อสูรหมาป่าตัวนั้นส่วนข้าตะไปจัดการสัตว์อสูรหมีตัวนั้นเอง ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวจบทั้งสามก็ได้พุ่งเข้าโจมตีเป้าหมายตามที่เฟยหลงบอก
” ตู้ม ”
สัตว์อสูรทั้งสองที่โดนการโจมตีอย่างกะทันหันอย่างไม่ได้ตั้งตัวจึงได้รับบาดเจ็บอย่างมากกับการโจมตีครั้งนี้
เมื่อเห็นว่ามีสิ่งมีชิวิตขนาดเล็กที่โจมตีมันปรากฏตัวออกมาพวกมันทั้งสองจึงเลือกที่จะหยุดสู้และคำรามออมาอย่างโกรธเเค้น
” โฮก ”
” โฮก ”
เเละสัตว์อสูรทั้งสองได้เริ่มเข้าโจมตีศัตรูที่มาใหม่ทันทีโดยที่สัตว์อสูรมาป่านั้นได้ใช้ความเร็วของมันเข้าประชิดตัวซูซ่านและเสี่ยวไป๋ทันที
พร้อมกับง้าวกรงเล็บของมันตะปบลงไปที่ซูซ่านเเละเสี่ยวไป๋ซึ่งทั้งสองหลบมันได้สัตว์อสูรหมาป่าตัวนั้นที่เห็นว่ามันตะบปโดนเเค่อากาศ
จึงได้พุ่งเข้าไปแล้วใช้ปากของมันโดยตั้งใจฉึกกระชากสิ่งมีชิวิตทั้งสองให้ตายไป
” โฮก ”
เสี่ยวไป๋ที่เห็นว่าสัตว์อสูรฟมาป่าตนนั้นำุ่งเข้ามากัดตนเป็นตนเเรกจึงหลบด้วยความเร็วที่ถ้าเปรีนบเทียบเเล้วนั้นอาจจะเหนือกกว่าเล็กน้อยและด้วยขนาดร่างกายจึงยากที่สัตว์อสูรหมาป่าตนนั้นจะจับตัวของเสี่ยวไป๋ได้
ซูซ่านที่เห็นดังนั้นจึงตะโกนบอกกับเสี่ยวไป๋ว่า
” นั้นเเฟละเสี่นวไป๋หลอกล่อสัตว์อสูรหมาป่าตัวนี้ไว้และเจ้าคอยฉวยโอกาศโจมตีมันกลัลข้าจะใช้จังหวะที่มันไขว้เขวนั้นเล็งไปที่ศรีษะของมัน ”
เสี่ยวไป๋ได้ร้องตอบซูซ่านว่า
” อ๋าว ”
สัตว์อสูรหมาป่านั้นที่ระดมการโจมตีทุกท่วงท่าเเล้วท่วงท่าเล่าก็ยังไม่สามารถเเตะได้เเม้เเต่เส้นขนของเสี่ยวไป๋และด้วยผ่านการต่อสู้มานานจึงเริ่มที่จะเห็นได้ชัดว่า
ความเร็วของมันก็เริ่มช้าลงที่ลพนิดจนกระทั้งเสี่ยวไป๋ได้เห็นโอกาศที่จะโจมตีมันแล้วพุ่งเข้าไปกะแทกขาของสัตว์อสูรหมาป่า
” ตุบ ”
จึงทำให้สัตว์อสูรหมาป่านั้นเสียหลักล้มลงซูซ่านที่เห็นโอกาศจึงตะโกนบอกกับเสี่ยวไป๋ว่า
” ตอนนี้เเหละ ”
ทั้งสองได้ร่วมกันโจมตีเข้าไปยังตำแหน่งศรีษะของสัตว์อสูรทำให้มันตายไปในที่สุด
เเละเมื่อการต่อสู้จบซูซ่านก็ได้เข้าไปกอดเสี่ยวไป๋แล้วกล่าวว่า
” พวกข้าทำได้แล้ว ”
เสี่ยวไป๋ก็ได้ร้องตอบ
” อ๋าว ”
เมื่อผ่านไปทั้งสองก็ตระหนักได้ว่าไม่ได้ยินเสียงต่อสู้ของด้านเฟยหลงจึงรีบหันกลับไปดู
___________________________________________
เรื่องเทพจักรพรรดิสงครามนี้เป็นนิยายเเนวกำลังภายในเรื่องเเรกที่เขียนขึ้นมาถ้าผิดพลาดยังไงก็บอกได้