เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 147 อืม…….. ก็พอใช้ได้

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เมื่อเฟยหลกล่าวจบก็ได้เดินจากไปทิ้งให้เจียงหงยืนเหม่อลอยอยู่ตรงหน้าประตูดังเดิม

เจียงหงที่ได้สติก็ได้รีบวิ่งตามเฟยหลงไปพร้อมกล่าวขึ้นมา

” เจ้าจะไปไหนรอข้าด้วย ”

ทั้งสองได้เดินมาจนถึงโรงเตี๊ยมที่เฟยหลงพักอยู่ก่อนที่กล่าวกับเจียงหงว่า

” เจ้ารออยู่ตรงนี้ก่อนข้าต้องไปนำของบางอย่างเเละเรียกคนบางคนลงมา ”

เฟยหลงได้เดินต่อไปยังห้องของซูซ่านเเละกำลังตะเปิดออกเเต่ตอนนั้นเองที่มีเงาสีขาวกะโดออกมา

” ตุบ ”

เสี่ยวไป๋ที่กะโดออกมาได้ชนเข้ากับเฟยหลงที่กำลังเปิดประตูเเชะร้องออกมา

” อ๋าว ”

” ข้าชนอะไรนะมันเจ็บมาก ”

เมื่อเงยหน้าก็ได้พบกับเฟยหลงที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตูก็รู้สึกดีใจที่เห็นเฟยหลงกลับมา

เเละตอนนั้นเองซูซ่านที่ได้เดินตามเสี่ยวไป๋มานั้นก็ได้กล่าวออกมา

” นี่เสี่ยวไป๋เจ้าอย่าหนีคืนของมาก่อน……… ”

เฟยหลงที่เห็นในปากของเสี่ยวไป๋นั้นกำลังคาบขวดหยกใบหนึ่งเอาไว้ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันขโมยมาอีกอย่างเเน่นอนส่วนเจ้าของที่เเท้จริงนั้น………………

ซูซ่านที่เห็นเฟยหลงอยู่ตรงหน้าประตูก็ได้กล่าวออกมาอย่างมีความสุขว่า

” ท่านพี่เฟยหลงในที่สุดท่านก็กลับมา ”

เฟยหลงได้กล่าวถามกัลบไป

” พวกเจ้ามีเรื่องอะไรกัน ”

ซูซ่านก็ได้กล่าวออกมาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย

” เสี่ยวไป๋ขโมยขวดหยกที่ใส่เม็ดยาไปอีกเเล้วถึงขวดนั้นจะเป็นของเสี่ยวไป๋ก็เถอะเเต่ถ้าทานเม็ดยาเข้าไปรวดเดียว…………. ”

ที่ซูซ่านกล่าวออกมาเเบบนี้เพราะว่านางยังจำคำกล่าวของเฟยหลงที่เคยกล่าวบอกกับนางเอาไว้ว่าถ้าใช้เม็ดยาเยอะเกินไปนั้น

มันจะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีไม่ว่าจะเป็นมนุษ​ย์หรือสัตว์อสูร

เฟยหลงที่ได้ยินเช่นั้นจึงกล่าวตอบกลับไปว่า

” นั้นเป็นเรื่องจริงอย่างเเน่นอนเเต่ว่า…………. กับเสี่ยวไป๋นั้นมีข้อยกเว้นเกี่ยวกับเรื่องนั้น ”

เเละเฟยหลงได้เงียบไปก่อนกล่าวเสริมอีก

” เเต่อย่าให้เสี่ยวไป๋ทั้งหมดเพราะว่าถ้าเสี่ยวไป๋ยังคงทานเม็ดยาเหมือนกับทานขนมข้าคงไม่สามารถปรุงทันตามความต้องการของทันเเน่นอน ”

เเละเฟยหลงได้ใช้มือของตนไปจับตัวเสี่ยวไป๋เเละนำขวดหยกที่ถูกคาบออกมเเล้วโยนกลับไป

ให้ซูซ่าน

โดยใช้พลังปราณห่อหุ้มเอาไว้ป้องกันเสี่ยวไป๋ขโมยไปรอบก่อนจะถึงมือซูซ่าน

เฟยหลงได้กล่าวกับทั้งสอง

” มมาเถอะพวกเราทั้งหมดต้องอยู่ในเมืองนี้อีกจะให้อยู่ในโรงเตี๊ยมอย่างเดียวคงไม่ชอบใช่ไหม”

เเม้ซูซ่านจะไม่กล่าวออกมาเเต่เฟยหลงก็รับรู้ได้ว่าตัวซูซ่านนั้นชอบความเงียบสงบมากกว่าจึงเดินตามเฟยหลงไปโดยไม่คัดค้าน

เมื่อทั้งสามลงมาก็ได้เห็นหญิงสาวนางหนึ่งนั่องญุ่เส้นผลดวงตาเเละเเม้กระทั้งชุดก็เป็นสีเเดงราวกับเปลงเพลิงที่ลุกไหม้อยู่ตลอดเวลา

” หืม ”

เจียงหงที่ได้ยินเสียงเท้าก็ได้เงยหน้าขึ้นเเละก็พบกับเฟยหลงเเละมีหญิงสาวคนหนึ่งเเล้วมีสัตว์อสูรหนึ่งตัว

เฟยหลงได้เดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าของเจียงหงเเละกล่าวออกมาว่า

” ตามข้ามา ”

ซูซ่านเสี่ยวไป๋เเละเจียงหงได้มองหน้ากันต่างก็มีความสงสัยอยู่ในใจว่า

” นี่ใครกัน ”

เฟยหลงไม่ได้อธิบายให้มากความเเละกล่าวถามเจียงหงว่า

” ในเมืองเเห่งนี้มีที่พักอาศัยเเบบเงียบสงบไหม”

เจียงหงที่ได้ถูกเฟยหลงกล่าวถามออกมาเเบบนั้นก็ได้ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่เเละกล่าวออกมา

” ข้ารู้เเล้วมีอยู่ที่หนึ่งที่ท่านปู่ข้าเคยมอบให้ข้าไว้ ”

เฟยหลงได้กล่าวตอบกลับไปสั้นๆ

” นำทางไป ”

พวกดฟยหลงได้เดินตามเจียงหงมาจนพบกับคฤหาสน์​หลังหนึ่งซึ่งรอบด้านนั้นมีต้นไม้มากมายปลูกอยู่เเละมีพลังปราณจำนวนมากไหลเวียนอยู่

เจียงหงก็ได้กล่าวออกมาด้วยท่าทีหยิ่งยโส

” เป็นไงคฤหาสน์​หลังนี้นั้นมีเพียงจำนวนน้อยมากในเมืองหลวงเเห่งนี้ ”

เฟยหลงได้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

” อืม…………… ก็พอใช้ ”

เมื่อกล่าวจบก็ได้เดินเข้าไปยังคฤหาสน์​หลังนั้นโดยทิ้งให้เจียงหงที่กำลังรอคอยคำตอบที่นางต้องการเเต่สุดท้ายเเล้วก็ไม่ได้เป็นเเบบที่นางหวังไว้

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท