เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 160 ชื่อของข้าก็คือ

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

หลังจากนั้นเฟยหลงซูซ่านเจียงหงเเละเสี่ยวไป๋ได้นั่งรถม้าที่ลากโดยสัตว์อสูรมา

เเค่หนึ่งวันเพราะว่าความเร็วของสัตว์อสูรที่ใช้ลากนั้นเเตกต่างจากม้าธรรมดาอย่างมากเเละก็ได้พบกับประตูเมืองที่

ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ามีภูเขาตั้งตระหง่านอยู่ตรงนี้เหล่าทหารยามที่อยู่ทางด้านประตูเมืองนั้นทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด

เมื่อเห็นว่ามีรถม้าคันหนึ่งกำลังเข้าใกล้ประตูเมืองซึ่งลักษณะ​ดูสวยงามลากด้วยสัตว์อสูรนั้นก็ได้ปรากฏ​สีหน้าเเปลกใจเเละวิ่งกลับเข้าไปรายงานหัวหน้าของตน

” ท่านหัวหน้าขอรับตอนนี้มีรถม้าคันหนึ่งเข้าม้าใกล้…………. ”

เมื่อหัวหน้าได้ยินว่าเป็นรถม้าก็ได้โยกมือมห้เเละกล่าวออกมา

” ถ้าเป็นเเค่รถม้าเจ้าก็ไปตรวจสอบกันเอาเองทำไมต้องรายงานข้าด้วย ”

ทหารยามนายนั้นก็ได้กล่าวออกมาอีก

” เเต่ว่ารถม้านั้นถูกลากโดยสัตว์อสูรขอรับ ”

เมื่อหัวหน้าได้ยินว่ารถม้าคันนั้นถูกลากด้วยสัตว์อสูรจึงรู้สึกแปลกใจอย่างมาก

” ผู้มีอำนาจคนไหนกันที่มาเมืองชายเเดวทางเหนือในตอนนี้ซึ่งกำลังมีการต่อสู้กับสัตว์อสูรอยู่”

เเละเมื่อครุ่นคิดไปชั่วครู่หัวหน้าทหารยามคนนั้นก็ได้กล่าวถามต่อไป

” เจ้าเห็นสัญลักษณ์​หรืออะไรที่เป็นเครื่องหมายบนตัวรถหรือไม่ ”

ทหารยามคนนั้นได้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะเเน่ใจ

” ข้าก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีสัญญลักษณ์​อะไรอยู่บนนั้นเพราะข้าเห็นว่าเป็นสัตว์อสูรลากมาเเละระดับพลังของมันก็ไม่ได้ต่ำเเต่อย่างใดจึงรีบมารายงายให้ท่านทราบ ”

เมื่อหัวหน้าทหารได้ยินดังนั้นก็กล่าวกับทหารยามนายนั้นว่า

” งั้นเจ้าก็ไปดูพร้อมกับข้าเถอะ ”

มางด้านรถม้าที่พวกเฟยหลงนั่งมานั้นด้านหน้าสุดซึ่งเป็นที่นั่งสำหรับคนขับได้มีพยัคฆ์​น้อยตัวหนึ่งนั่งอยู่เเละเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเสี่ยวไป๋นั้นเอง

เเละไม่ไกลจากตัวเสี่ยวไป๋ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งใส่ชุดสีฟ้านั่งอยู่นั้นก็คือเฟยหลง

เมื่อเสี่ยวไป๋เห็นประตูเมืองก็ได้ร้องออกมา

” อ๋าว ”

เฟยหลงที่กำลังนอนหลับอย่างสบายใจอยู่นั้นก็ได้ตื่นขึ้นมาเเล้วกล่าวกับเสี่ยวไป๋ว่า

” เจ้าปลุกข้าขึ้นมารอบนี้คงถึงที่หมายเเล้วใช่ไหม ”

เสี่ยวไป๋ได้น้องตอบกลับไป

” อ๋าว~~ ”

เเม้ว่าเฟยหลงจะไม่สามารถรับรู้ถึงความหมายของเสียงร้องเเต่คงจะเดาได้ไม่อยากว่าเสี่ยวไป๋กำลังบอกอะไรอยู่

” เจ้าก็ไปดูพวกนางทั้งสองหน่อยเเละอย่าลืมบอกกับซูซ่านว่ามาถึงเเล้วละ ”

เสี่ยวไป๋นั้นได้ยินสิ่งที่เฟยหลงกล่าวออกมาจึงกระโดดเข้าไปยังทางหน้าต่างที่ถูกเปิดอยู่อย่างรวดเร็ว

ซูซ่านเเละเจียงหงที่กำลังนั่งคุยกันอยู่อย่างสนิทสนมกันนั้นได้เห็นเสี่ยวไป๋พุ่งเข้ามาทางด้านหน้าต่างก็ได้กล่าวถามอย่างเเปลกใจว่า

” เสี่ยวไป๋มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ ”

เสี่ยวไปษก็ได้ร้องตอบกลับไป

” อ๋าว ”

” พี่ใหญ่ให้ข้ามาบอกว่าตอนนี้กำลังอยู่ใกล้ประตูเมืองเเล้ว ”

ซูซ่านที่ได้ยินเช่นนั้นจึงกล่าวกับเจียงหงว่่า

” ดูเหมือนว่าจะถึงที่หมายเเล้วละ ”

เจียงหงในตอนนี้นั้นได้ใส่ชุดสีเเดงเพลิงมีลวดลายที่เหมือนกับเปลวเพลิงบนเเขนเสื้อทั้งสอง

ได้มองซูซ่านอย่างสนใจเพราะว่าไม่ว่ากี่ครั้งนางก็รู้สึกแปลกใจที่ซูซ่านนั้นสามารถเข้าใจเสียงร้องของสัตว์อสูรได้

ตอนนี้รถม้าที่ลากสัตว์อสูรนั้นได้มาหยุดอยู่ตรงหน่าประตูทางเจ้าเมืองเพราะว่ามีทหารยามกลุ่มหนึ่งยืนอยู่เเละคนที่ดูเหมือนหัวหน้าของพวกเขาก็ได้กล่าวออกมาว่า

” ข้าขอทราบได้หรือไม่ว่าพวกท่านนั้นมากจากที่ใดกัน ”

เจียงหงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้เปิดม่านขึ้นเเละเดินลงมาพร้อมกับยื่นแผ่นไม้แผ่นหนึ่งให้กับหัวกน่าทหารชายยามคนนั้น

เมื่อหัวหน้าทหารยามได้เห็นตัวอักษร​ที่สลักอยู่ว่า ‘ โรงประมูลหวังเปา ‘​ ก็ได้คืนเเผ่นไม้นั้นน้อบน้อมเเละกล่าวออกมาว่า

” ถ้าข้าจำไม่ผิดมีเพียงไม่กี่คนที่มีเเผ่นป้ายนี่ท่านจะต้องเป็นบุคคลระดับสูงอย่างเเน่นอนไม่ทราบว่าทานคือ ”

เจียหงก็ได้กล่าวชื่อของนางออกไป

” ชื่อของข้าคือเจียงหง ”

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท