จ้าวเฉินเเละชายที่ถูกเรียกว่าเเม่ทัพขี้เมาได้กลับมาบนกำแพงเเละกล่าวกับรองเเม่ทัพว่า
” ป้องกันพวกมันเอาไว้ให้ได้ถ้าเกิดมีสัตว์อสูรขอบเขตหลอมรวมที่เจ้าไม่สามารถรับมือได้ก็เเจ้งพวกข้า ”
สัตว์อสูรทั้งสองนั้นมีขอขเบตหลอมรวมขั้นกลางซึรงรองเเม่ทัพที่ประจำอยู่นั้นเป็นเพียงเเค่ขอบเขตหลอมรวมขั้นต้น
การต่อสู้ของขอบเขตหลอมรวมนั้นได้ทำลายสนามนบไปส่วนหนึ่งโดยพื้นดินเเตกออกจากันเป็นวงกว้างหลายสิบเมตร
กำแพงเมืองยังคงไม่ได้รับความเสียหายจ้าวเฉินที่ดูรายงานของความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ได้ถอนหายใจออกมา
” โชคดีที่มันไม่เกิดอะไรขึ้นกับกำแพง ”
ชายที่ถูดเรียกว่าเเม่ทัพขี้เมาได้กล่าวออกมาว่า
” เจ้าจะห่วงเรื่องนั้นทำไมเจ้าก็รู้ดีนิว่ากำแพงเมืองเหล่านั้นไม่มีทางพังหรือเกิดความเสียหายได้ง่ายดายขนาดนั้นหรอก ”
จ้าวเฉินไม่ได้ตอบกลัลเเม่ทัพขี้เมาคนนั้นกลับไปเเละยืนนิ่งพร้อมกับคิดเรื่องราวต่างๆอยู่ๅายในใจ
เเม่ทพัขี้เมาที่เห็นว่าจ้าวเฉินั้นยังคงยืนอยู่นิ่งกับที่ไม่ขยับไปไหนก็ได้กล่าวออกมา
” เห้…………….. เจ้าจะมายืนนิ่งเหมือนรูปปั้นทำไมมาเถอะเดี๋ยวข้าพาไปฉลองกันในโรงเตี๊ยม……….. ”
จ้าวเฉินที่เห็นว่าเเม่ทัพขี้เมาคนนี้กำลังจะลากตัวเขาไปยังโรงเตี๊ยมจึงกล่าวออกมาว่า
” หยางหลงตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงสงครามเเม่ทัพอีกอย่างพวกเรานั้นไปสถานที่เเบบนั้นไม่ได้เพราะยังมีเรื่องอีกมากมายให้จัดการ ”
เเม่ทัพขี้เมาหรือชื่อจริงของเขาก็คือหยางหลงได้มองจ้าวเฉินด้วยท่าทางเบื่อหน่าย
” เต้านี้จริงๆเลยไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังคงเป็นเเบบนี้มัวเเต่ทำจมอยู่กับการทำงานออกไปผ่อนคลายกับข้าดีกว่า……………. หรือว่าเจ้าไม่กล้าดื่มเพราะกลัวที่จะล้มลงไปก่อนข้าใช่ไหม ”
จ้าวเฉินที่ได้ยินหยางหลงกล่าวเยาะเย้ออกมาเเบบนี้จึงรู้สึกว่าตัวเองนั้นกำลังเสียหน้าจึงกล่าวตอบกลับไป
” ได้งั้นพวกเราไปกัน ”
ทางด้านเฟยหบงหลังจากที่การต่อสู้จบลงเเล้วก็ได้กล่าวออกมาว่า
” พวกเราก็กลับกันเถอะ ”
เจียงหงได้ตอบเฟยหลงกลับไปสั้นว่า
” ได้ ”
ซูซ่านที่กำลังยืนเหม่อลอยอยู่นั้นก็โดนเสี่ยวไป๋ร้องเตือน
” อ๋าว ”
” ท่านพี่เฟยหลงเดินไปแล้ว ”
ซูซ่านที่ได้ยินดังนั้งจึงกล่าวออกมาว่า
” รอข้าด้วยท่านพี่เฟยหลง ”
พวกเฟยหลงได้กลับมายังบ้านหลังเดิมที่เจียงหงได้นำพวกเขามาในตอนเเรกเเละเเยกย้ายกันไปทำจัดการเรื่องราวของตนเอง
” ท่านพี่เฟยหลงจะไปบ่มเพาะต่อเหรอ ”
เฟยหลงได้ติบซูซ่านกลับไปว่า
” ใช่ ”
ทางด้านจ้าวเฉินที่คอนนี้กำลังดื่มสุราชั้นดีของโรงเตี๊ยมเเห่งหนึ่งอยู่นั้นก็ได้กล่าวออกมาว่า
” หลานสาวข้าเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกันเฮ้อ…………… ”
หยางหลงที่กำลังดื่มสุราอย่างเพลินเพลินอยู่ก็ได้กล่าวออกมา
” หลานสาวของเจ้าทำไม ”
จ้าวเฉินก็ได้กล่าวต่อไปดเวยสีหน้าที่เริ่มเเดงขึ้นๆเรื่อยๆเพราะฤทธิ์ของสุรา
” ข้าไม่ได้เจอนางมาเป็นปีเเล้วเเต่เมื่อนางมาพบกับข้าวันนี้นางได้พาใครบางคนมาด้วย ”
หยางหลงที่ไดเยินดังนั้นก็ได้กล่าวถามจ้าวเฉินอย่างรวดเร็ว
” อย่าบอกนะว่าหลานสาวของเจ้าพบเตอกับคนที่ชอบเเล้ว ”
จ้าวเฉินที่ได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เยาะเยย้ยตัวเขา
” ถ้ามันเป็นเเบบนั้นก็ดีนะสิ ”
หยางหลงที่ได้ยินึำกล่าวของจ้าวเฉินก็ได้เริ่มรู้สึกสงสัยเข้าไปอีกเเล้วกล่าวถามกลับ
” เรื่องอะไรกันที่ทำให้เเม่ทัพของเมืองชายเเดนทางตอนเหนือผู้ปกป้องอาณาจักรสายลมมานานอย่างเจ้านั้นรู้สึกอย่างนี้ได้เลย ”
จ้าวเฉินก็ำด้กล่าวตอบหยางหลง
” ก็เพราะนางพาอาจารย์ของนางมาพบกับข้าในวันนี้………………… ”
หยางหลงที่ได้ยินเเบบนั้นก็ได้กล่าวถามกลับไป
” อาจารย์เหรอมันมีคนที่สามารถเป็นอาจารย์ของหลานสาวเจ้าได้ด้วยเหรอ ”
จ้าวเฉินก็ได้กล่าวออกมาว่า
” ที่สำคัญไม่ใช่เรื่องนั้นเเต่เป็นที่ตัวอาจารย์นางนั้นเเหละที่มีอายุพอๆกับนางถึงเเม้ว่า……….. “