จ้าวเฉินที่เห็นเฟยหลงยืนจ้องมองค่ายกลของตนเองอยู่เป็นเวลานานก็ได้เเต่กล่าวขัดออกมา
” พวกเราไม่รีบไปกันต่อดีกว่าเหรอ ”
เฟยหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็หบุดออกมาจากห้วงเเห่งความคิดของตนเองเเล้วกล่าวตอบกลับไปว่า
” ให้ทหารของท่านพักสักหนึ่งชั่วยามเถอะเรื่องบางเรื่องรีบไปก็ไม่ดี ”
จ้าวเฉินที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวตอบกลับมาเเบบนั้นจึงกล่าวบอกทหารของตนว่า
” พวกเจ้าเเยกย้ายกันพักหนึ่งชั่วยามเเละเมื่อเวลานั้นมาถึงก็จะเดินทางต่อ ”
เฟยหลงที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่นิ่งก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวโดยที่เฟยหลงได้เดินทาหยุดยังตรงสัตว์อสูรซากศพตัวหนึ่ง
เเล้วก็ได้หยิบดาบออกมาจากถุงมิติเเล้วใข้ดาบเล่มนั้นผ่าเอาเเก่นสัตว์อสูรออกมา
ซูซ่านเเละเจียงหงทีาเห็นดังนั้นก็ได้กล่าวถามออกมา
” ท่านพี่เฟยหลงท่านจะเอาเเก่นสัตว์อสูรพวกนั้นไปทำอะไรเหรอ ”
” ใช่เเล้วท่านอาจารย์เเก่นสัตว์อสูรนั้นดูเหมือนจะเเปดเปื้อนด้วยพลังปราณที่ไม่บริสุทธิ์เหล่านี้”
เฟยหลงที่ได้ยินคำถามของซูซ่านเเละเจียงหงก็ไม่ได้หบุดมือของตนลงเเต่อย่างใดเเเต่ยังคงผ่าซากของสัตว์อสูรซากศพต่อไปเรื่อยๆ
ก่อนจะกล่าวตอบทั้งสองคนว่า
” เเม้ว่าเเก่นสัตว์อสูรเหล่านี้จะเเปดเปื้อนไปด้วยพลังปราณที่ไม่บริสุทธิ์เเต่มันอาจจะมีประโยชน์ที่พวกเจ้าคาดไม่ถึง ”
ซูซ่านเเละเจียงหงก็ได้มองหน้ากันเเละกันจนสุดท้ายก็ได้เลิกถามเกี่ยวกับสิ่งที่เฟยหลงทำ
เงาสีขาวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นนั้นก็คือเสี่ยวไป๋ที่ตอนเเรกยังอยู่กับพวกซูซ่านเเละเจียงหงเเต่ตอนนี้กำลังมองเเก่นสัตว์อสูรเหล่านั้นด้วยดวงตาเปร่งประกาย
” อ๋าว ”
เฟยหลงได้ยินเสียงร้องของเสี่ยวไป๋ก็ได้มองมันเเละกล่าวถามซูซ่านออกมาว่า
” เสี่ยวไป๋ต้องการอะไรเหรอ ”
ซูซ่านนั้นเป็นเพียงคนเดียวที่ฟังเสียงร้องของเสี่ยวไป๋ออกว่ามีความหมายยอะไรเเละจึงกล่าวตอบเฟยหลงกลับไป
” ดูเหมือนว่าเสี่ยวไป๋จะอยากได้เเก่นสัตว์อสูรที่ท่านพี่เฟยหลงกำลังเก็บรวบรวมอยู่………….”
เฟยหลงที่เได้ยินซูซ่านกล่าวออกมาเเบบนั้นก็ได้นำเเก่นสัตว์อสูรที่เเปดเปื้อนเหล่านั้นออกมาเเล้วกล่าวกับเสี่ยวไป๋ว่า
” เจ้าอยากได้อันไหนเลือกเอาเลย ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินดังนั้นก็รีบกระโดดเข้าไปกลางเเก่นสัตว์อสูรที่เเปดเปื้อนเเล้วคาบบางส่วนออกมา
ซูซ่านที่เห็นดังนั้นก็ได้กล่าวถามเฟยหลงออกมาว่า
” ท่านพี่เฟยหลงท่านให้เเก่นสัตว์อสูรเหล่านั้นมันเเปดเปื้อนพลังกับเสี่ยวไป๋เเล้วมันจะไม่เป็นไรเหรอท่านพี่เฟยหลง ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบซูซ่านกลับไป
” เสี่ยวไป๋ที่เป็นสัตว์อสูรมีวิธีเอาไปใช้เเตกต่างกับมนุษย์อย่างพวกเรา ”
ซูซ่านที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกโล่งใจที่เเก่นสัตส์อสูรนั้นทำอะไรเสี่ยวไป๋ไม่ได้มากมาย
เวลาหนึ่งชั่วยามผ่านไปอย่างรวดเร็วจ้าวเฉินก็ได้กล่าวออกมาว่า
” หมดเวลาพักเเล้วรีบเตรียมตัวเดินทางต่อเร็วเข้า ”
เหล่าทหารที่ได้ยินจ้าวเฉินออกคำสั่งออกมาเช่นนั้นก็รีบเตรียมตัวอย่างรวดเร็ว
จ้าวเฉินได้กวาดตามองเหล่าทหารที่ยืนเรียงเเถวอย่างเป็นระเบียบเเล้วรู้สึกพอใจที่เหล่าทหารของเขานั้นเก็บข้าวของทุกอย่างรวดเร็ว
ไม่มีคนเชื่องช้าอยู่เเม้เเต่น้อยเฟยหลงที่เห็นว่าพวกจ้าวเฉินได้เตรียใตัวเรียบร้อยเเล้วก็ได้กล่าวออกมาว่า
” งั้นพวกเราก็ออกเดินทางกันเถอะ ”
เฟยหลงได้พาพวกจ้าวเฉินเดินอ้อมค่ายกลลวงตาไปอย่างรวดเร็วเพราะว่าป่าขนาดใหญ่เเห่งนี้ค่ายกลลวงตานี้ไม่สามารถครอบคลุมได้ทั้งหมด
เเละถึงเเม้ว่าเผ่าปีศาจจะวางค่ายกลอื่นเอาไว้อีกในเส้นทางอื่นๆเฟยหลงก็ได้ตรวจสอบทุกก้าวที่เดินเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เเบบครั้งก่อนอีก
เฟยหลงได้เดินมาหยุดอยู่หน้าถ้ำเเห่งหนึ่งที่มืดมิดให้ความรู้สึกหนาวเหน็บอย่างมากก่อนที่เฟยหลงจะกล่าวออกมา
” ที่นี่เเหละ ”