เฟยหลงที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับจ้าวเฉินก็ได้กล่าวออกมาว่า
” ดูเหมือนพวกมันจะรีบร้อนเพราะเรื่องที่เราเจอกับเเผนการของมันก่อนกำหนดหรือไม่ก็เหตุผลบางอย่าง………… ”
” ซึ่งมันต้องไม่ใช้เเค่เรื่องที่พวกเราพบกับเเผนการของพวกมันก่อน ”
จ้าวเฉินที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวออกมาเเบบนั้นก็ได้ครุ่นคิดอย่างเงียบเชียบก่อนจะกล่าวออกมา
” ชั่งเรื่องนั้นก่อนถึงเเม้ว่าพวกมันจะมีเหตุผลมากกว่านี้เเต่ก่อนอื่นทางเราเตรียมพร้อมทุกอย่างเเล้วใช่ไหม ”
เฟยหลงก็ได้กล่าวตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
” ถ้าท่านทำตามที่ข้ากล่าวออกไปก็สามารถสู้กับพวกมันได้อย่างเเน่นอน ”
จ้าวเฉินที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกมั่นใจเพิ่มขึ้นก่อนที่จะลุกขึ้นเเล้วเดินไปยังที่ประตูเเละกล่าวบางอย่างทิ้งท้ายเอาไว้
” ข้าหวังว่ามันจะดีตามที่เจ้ากล่าวออกมา ”
หลังจากที่จ้าวเฉินกล่าวจบก็ได้ปิดประตูพร้อมกับออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
เฟยหลงที่เห็นดังนั้นก็ได้กล่าวออกมาว่า
” เเล้วพวกเจ้าสองคนละไม่รีบตามเเม่ทัพจ้าวไปเข้าร่วมสงครามเหรอ ”
เจียงหงเเละซูซ่านที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวออกมาเเบบนั้นก็ได้สติ
” ใช่เเล้วรีบตามท่านลุงไปตามที่ท่านอาจารย์บอกเถอะ ”
” งั้นก็ไปกันเถอะ ”
เมื่อทั้งสองกล่าวจบก็ได้รีบตามจ้าวเฉินไปอย่างรวดเร็วด้านในห้องตอนนี้เหลือเพียงเเค่เฟยหลงเเละเสี่ยวไป๋
หนึ่งคนหนึ่งสัตว์อสูรมองหน้ากันก่อนที่เฟยหลงจะกล่าวออกมาว่า
” เสี่ยวไป๋เจ้านั้นตามข้ามาปล่อยให้พวกนางทั้งสองได้สัมผัสประสบการณ์ในสนามรบดูบ้าง ”
เหตุที่เฟยหลงทำเช่นนี้เพราะว่าเเม้เสี่ยวไป๋จะเป็นเพียงเเค่สัตว์อสูรเพียงขอบเขตวิญญาณเเต่ว่าเหล่าสัตว์อสูรล้วนมีสัญชาตญาณ
ที่ดุร้ายอยู่ในตัวอย่างเเน่นอนการที่จะให้มันเข้าร่วมสงครามครั้งนี้นั้นมันย่อมไม่ได้อย่างเเน่นอนเพราะว่าพวกทหารซากศพนั้น
เเม้ว่าเสี่ยวไป๋จะสามารถต่อสู่กับมันได้อย่างเเน่นอนเเต่เฟยหลงนั้นมีเรื่องที่ต้องการให้เสี่ยวไป๋เป็นคนทำเช่นกัน
” อ๋าว ”
เสี่ยวไป๋นั้นไม่ได้คัดค้านอะไรเฟยหลงเเล้วกระโดดไปยืนอยู่บนไหล่ของเฟยหลงเเล้วเลียอุ้มเท้าอย่างสงบ
เฟยหลงที่เห็นดังนั้นก็ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้เเล้วกล่าวออกมา
” ดูเหมือนว่าข้าจะมีเรื่องที่ต้องจัดการมากมายเลย ”
” งั้นก็เริ่มจากเรื่องเเรกเลยดีกว่า ”
เมื่อกล่าวจบเฟยหลงก็ได้หายออกไปจากห้องที่เคยอยู่อย่างไร้ร่องรอย
ทางด้านซูซ่านเเละเจียงหงนั้นได้วิ่งตามจ้าวเฉินทันอย่างรวดเร็วก่อนที่เจียงหงจะเป็นคนกล่าวออกมา
” ท่านลุงใหญ่ข้าจะไปร่วมสงครามตามที่ท่านอาจารย์มอบหมายให้เเละก็น้องสาวซูด้วย ”
จ้าวเฉินที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าวออกมาว่า
” ตามที่เจ้าต้องการเลยเเต่พวกเจ้าอย่าได้ลงไปส่วนเเนวหน้าเด็จขาดเพราะที่เเห่งนั้นมีการต่อสู้รุนเเรงที่สุด ”
” พวกเจ้าสามารถอยู่ถัดมาจากเเนวหน้ามาให้ไม่ไกลมากเเต่จงจำเอาไว้ว่าการรักษาชีวิตไว้นั้นสำคัญที่สุด ”
เมื่อจ้าวเฉินกล่าวจบเจียงหงก็ได้กล่างถามขึ้นมาว่า
” จริงด้วยท่านลุงใหญ่ข้ามีเรื่องอีกอย่างที่ข้าจะขอท่าน ”
จ้าวเฉินก็ได้กล่าวถามออกมาว่า
” เรื่องอะไรเหรอ ”
เจียงหงได้ยิ้มให้อย่างสดใสก่อนจะกล่าวออกมา
” ท่านลุงใหญ่คงไม่ต้องให้ข้าเข้าร่วมสงครามมือเปล่าหรอกใช่ไหม ”
เมื่อจ้าวเฉินที่ได้ยินดังนั้นก็หยุดดท้าวอย่างรวดเร็วก่อนจะกล่าวออกมา
” ความหมายของเจ้าคือ ”
เจียงหงก็ได้กล่าวออกมา
” ท่านอย่าทำท่าทางอย่างนั้นสิท่านลุงใหญ่ ”
” ข้าได้ยินมาจากท่านปู่ว่าท่านลุงใหญ่นั้นชอบเก็บสะสมอาวุธหลากหลายประเภทเอาไว้ในคฤหาสน์ของท่านเเละยังมีบางส่วนที่พกติดตัวท่านไว้ ”
เจียงหงก็ได้กล่าวต่อไปอีกว่า
” ท่านเเค่ยกอาวุธเหล่านั้นให้ข้ากับน้องสาวซูซักหน่อยข้าคาดว่าเรื่องเล็กน้อยเเค่นี้นั้นจะไม่ทำให้ท่านสูญเสียทรัพย์สินมากเท่าไหร่ “