เฟยหลงเเละเสี่ยวไป๋ที่โดนเเรระเบิดกระเเทกไปนั้นก็ได้ลอยออกห่างจากหน้าผาที่ใช้สำหรับปีไปยังด้านล่าง
” พรึบ ”
เสียงของปีกที่กระพือเพื่อรักษาสมดุลให้เฟยหลงลอยตัวอยู่ได้ดังขึ้น
ตอนนั้นเองหลังจากที่เฟยหลงสามารถลอยตัวอยู่ได้เเล้วเสี่ยวไป๋ก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา
” อ๋าว~~~ตอนนี้ข้าอยู่ที่ไหนกันหรือว่ามันคือ…….. ”
เสี่ยวไป๋ที่กำลังใช้อุ้งเท้าปิดตาทั้งสองข้างอยู่นั้นก็ได้ลืมตาขึ้นมาก็พบกับเฟยหลงเเล้วกล่าวออกมาด้วยความดีใจว่า
” อ๋าว~~~พี่ใหญ่ท่านก็ตายจากเเรงระเบิดนั้นอย่างั้นเหรอ……….. ดูเหมือนว่าข้าจะไม่ได้อยู่คนเดียว ”
เฟยหลงที่ได้ยินคำพูดของเสี่ยวไป๋ดังขึ้นมานั้นเส้นเลือดบนหน้าผากก็ผุดขึ้นมามือทั้งสองข้างที่อุ้มเสี่ยวไป๋อยู่นั้น
ก็อยากที่จะปล่อยมันลงไปตอนนี้เลยเเต่สุดท้ายเเล้วเฟยหลงไม่ได้ทำเเล้วกล่าวออกมา
” เฮ้…………….. เสี่ยวไป๋เจ้าจะสาบเเช่งข้าเเบบนี้ไม่ได้นะข้ายังไม่ได้ตาย ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าวถามอย่างงงงวยกลับไป
” หืมพี่ใหญ่ยังไม่ได้ตายอย่างงั้นเเล้วข้าละ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าวออกมาว่า
” เจ้าก็ยังไม่ตายเหมือนกับข้านั้นเเหละ ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินดังนั้นดวงตาของมันที่กำลังล่องลอยอยู่ก็ได้เป็นประกายขึ้นมาอย่างรวดเร็วเเล้วส่งเสียงร้องตอบเฟยหลง
” นี่ข้ายังไม่ตายจริงๆด้วย ”
พร้อมกับใช้อุ้งเท้าจับตามร่างกายเเละใบหน้าของเฟยหลงอีกด้วย
” ทั้งข้าเเละพี่ใหญ่ยังไม่ได้ตายดีจัง อ๋าว~~~~~ ”
เฟยหลงมี่เห็นดังนั้นก็ได้เเต่ส่ายหน้าไปมาด้วยความเหนื่อยใจกับเสี่ยวไป๋ก่อนที่จะกช่าวเรื่องราวบางอย่างออกมา
” เเต่ตอนนนี้นั้นพวกเรามีเรื่องที่ต้องกังวลอยู่ ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินดังนั้นก็ก็ได้กล่าวถามเฟยหลงออกมาว่า
” อ๋าว~~~พี่ใหญ่มีเรื่องอะไรเหรอที่ต้องกังวลอีกละในเมื่อเจ้านกนั้นมันตายไปแล้ว ”
เฟยหลงมี่ได้ยินเสียงของเสี่ยวไป๋กล่าวถามตัวเขาจึงตอบกลับไป
” ตั้งเเต่ที่ข้าใช้พลังปราณจำนวนมากในการโจมตีเเละยังนำมาสร้างเป็นปีกเพลิงสีครามนี้อีก ”
” ดังนั้นตอนนี้พลังปราณที่เหลืออยู่นั้นทำได้เพียงเเค่ทำให้ข้าลอยตัวอยู่เท่านั้นซึ่งตอนนี้พลังปราณของข้ากำลังจะหมดลงเเล้ว ”
เมื่อสิ้นคำพูดของเฟยหลงปีกที่สร้างมาจากเพลิงสีครามนั้นก็ได้ค่อยๆมอดดับลงไปทำให้เสี่ยวไป๋เเละเฟยหลงล่วงลงไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากปีกเพลิงสีครามมอดดับลงไปเสี่ยวไป๋ตอนนี้เปลี่ยนจากการถูกเฟยหลงอุ้มไว้ไปเกาะอยู่บนศรีษะอย่างเหนียวเเน่น
” อ๋าว~~~ครั้งนี้เเหละพวกเราตายเเน่ๆ ”
ระหว่างที่เสี่ยวไป๋กำลังส่งเสียงร้องโวยวายออกมานั้นเฟยหลงกำลังคิดวิธีการต่างๆ
ที่จะทำให้ตัวเขาเเละเสี่ยวไป๋นั้นรอดออกไปจากเหตุการณ์ตรงนี้ซึ่งหลังจากครุ่คิดเเล้วทั้งตัวของเฟยหลงนั้นไม่ได้มีสิ่งที่เขาต้องการในสถานการณ์ตรงนี้เลย
เเต่เฟยหลงยังคงไม่ยอมเเพ้เเต่ก็ยังคงคิดหาวิธีต่อไป
” เเย่เเน่ถ้าเป็นเเบบนี้ต่อไปเมื่อถึงพื้นละก็ ”
ซึ่งตอนนี้เองที่เฟยหลงที่คิดวิธีการอย่างหนึ่งออกเเล้วกล่าวกับเสี่ยวไป๋ว่า
” เสี่ยวไป๋ฟังข้ารีบรวบรวมพลังปราณเอาไว้เร็วเข้าเมื่อพวกเราใกล้ถึงพื้นเมื่อไหร่ก็ให้เจ้าปลดปล่อยพลังปราณที่รวบรวมออกมาทั้งหมดเลยเข้าใจหรือไม่ ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินสิ่งที่เฟยหลงกล่สวบอกกับตัวมันก็ได้ทำตามอย่างรวดเร็ว
เเละตอนนั้นเองที่เฟยหลงได้ปล่อยสัมผัสวิญญาณออกมาจนถึงระดับสูงสุดเท่าที่ตอนนี้จะสามารถทำได้
” เเม้พลังปราณของข้าจะหมดไปเเล้วเเต่พลังวิญญาณของข้านั้นยังมีไว้ใช้เหลือเฟือ ”
เฟยหลงได้หลัลตาลงเเละปล่อยสัมผผัสวิญญาณเเทรกลงยังความมืดมิดด้านด้านล่างอย่างรสดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
จนกระทั่งเฟยเวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่เฟยหลงก็รู้สึกได้ว่าสัสผัสวิญญาณของตนกำลังชนเข้ากับอะไรบางอย่างจึงตะโกนบอกกับเสี่ยวไป๋อย่างรวดเร็ว
” ตอนนี้เเหละเสี่ยวไป๋ ”
พลังปราณที่ถูกเสี่ยวไป๋รวบรวมเอาไว้จนกลายเป็นลูกบอลสีขาวขนาดใหญ่ก็ได้ถูกปล่อยออกไป
” ตู้ม ”
หลังจากนั้นเสียงระเบิดได้ดังขึ้นมา