หม้อปรุงยาหยูหงที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวออกมาเเบบนั้นก็ได้ตอบรับด้วยความดีใจ
” มันต้องอย่างนี้สิเเต่ข้าต้องขอเวลาหน่อย ”
เมื่อกล่าวจบหม้อปรุงยาหยูหงก็ได้ปรากฏออกมาเเล้วใช้พลังปราณของมันลอยตัวอยู่ในอากาศ
” ดูเหมือนว่าจะเป็นเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของสัตว์อสูรตระกูลเสือนะ ”
ระหว่างนั้ที่หม้อปรุงยาหยูหงได้กล่าวไปก็ได้ดำเนินการบางอย่างอยู่โดยทีมันได้ดูดกลืนวัตุดิบที่ธาตุไฟที่เฟยหลงได้ให้กับมันไว้
” พรึบ ”
เสียงเหมือนกับไฟที่ถูกจุดขึ้นดังอยู่ในหม้อปรุงยาหยูหงก็ได้ถูกปกคลุมไปด้วยตัวอักษรโบราณที่เเม้เเต่เฟยหลงยังไม่สามารถเข้าใจได้
เฟยหลงที่ยืนดูอักษรโบราณเหล่านั้นด้วยสีหน้าครุ่นคิดราวกับกำลังคิดว่าต้นกำเนิดของตัวอักษรพวกนี้มาจากไหนกันเเน่
ปกคลุมตัวหม้อเเละเเล้วตอนนั้นเองที่หม้อปรุงยาหยูหงก็ได้กล่าวออกมาว่า
” เอาละข้าเตรียมพร้อมเสร็จเเล้ว ”
เมื่อเฟยหลงได้ยินของหม้อปรุงยาหญุหงก็ได้หลุดออกจากความคิดของตนเองอย่างรวดเร็วก่อนจะกล่าวออกมา
” เอาละในเมื่อเตรียมตัวพร้อมเเล้วก็เริ่มกันเถอะ”
หม้อปรุงยาหยูหงเมื่อได้รับคำสั่งของเฟยหลงก็เริ่มดำเนินการอย่างรวดเร็วซึ่งตอนนี้นั้นบนตัวหม้อได้ปรากฏอักษรโบราณเหล่านั้นได้เปร่งแสงออกมา
โดยที่เเสงสว่างนั้นเหมือนกับว่ามันคือต้นกำเนิดของการหลอมรวมของสรรพสิ่งต่างๆเข้าด้วยกันโดยที่หลังจากที่เกิดเเสงนั้นขึ้นมาหม้อปรุงยาหยูหงก็ได้ลอยไปทางด้าน
โครงกระดูกของสัตว์อสูรที่อยู่ใกล้ๆกับผลวารีพิสุทธิ์ซึ่งเศษเสี้ยวจิตวิญญาณนั้นเหมือนรับรู้ว่ามีศัตรูที่อันตรายปรากฏตัวออกมาอยู่ไม่ไกลจากตัวทัน
ด้วยสัญชาตญาณเศษเสี้ยวจิตวิญญาณนั้นก็ได้ปรากฏตัวออกมาโดยที่ตัวมันได้ส่งเสียงคำรามที่น่ากลัวกว่ารอบก่อนอย่างเห็นได้ชัดว่านี้คือพลังทั้งหมดของมัน
เฟยหลงที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็ได้มองเศษเสี้ยวจิตวิญญาณนั้นด้วยสายตาอันเต็มไปด้วยความเเปลกใจ
” ไม่คิดเลยว่ามันจะซ่อนพลังเอาไว้อีก ”
ซึ่งถ้าหม้อปรุงยาหยูหงไม่ได้ออกตัวละก็เฟยหลงอาจจะต้องจ่ายค่าตอบเเทนอย่างมากเพื่อรั้งเศษเสี้ยวจิตวิญญาณนี้เอาไว้
ซึ่งทางด้านหม้อปรุงยาหยูหงไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากจากเสียงคำรามของเศษเสี้ยวจิตวิญญาณเมื่อกี้โดยที่ตัวมันก็ได้กล่าวเยาะเย้ยออกมาว่า
” เฮ้อ…………. เจ้ามีพลังเเค่นี้เเล้วคิดจะมาจัดการกับท่านบรรพบุรุษผู้นี้เจ้าชั่งไม่รู้เลยว่าตัวเองอ่อนเเอเเค่ไหน………… ”
เมื่อหม้อปรุงยาหยูหงกล่าวถึงอักษรโบราณนั้นกลับเปร่งเเสงอันเจิดจ้ากว่าเก่าก่อนที่จะรวมตัวกันเเล้วกลายเป็นโซ่สีทอง5เส้น
ซึ่งโซ่เหล่านี้นั้นได้พุ่งเข้าไปรัดขาทั้งของเศษเสี้ยวจิตวิญญาณนั้นเอาไว้อย่างหนาเเน่ไม่ว่ามันจะดิ้รรนยังไงก็ไม่สามารถหลุดออกมาได้
” โฮกกกกกกกกกก ”
เสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความโกรธดังขึ้นเเละเศษเสี้ยวจิตวิญญาณนั้นก็ได้พยามดิ้นรนโดยใช้เขี้ยวของมันนั้นกัดเข้าใส่โซ่สีทองเส้นนั้น
เเต่เมื่อหม้อปรุงยาหยูหงได้เห็นดังนั้นก็ได้กล่าวออกมาว่า
” ปล่าวประโยชน์ถึงเจ้าจะดิ้นรนยังไงก็ไม่สามารถหลุดจากโซ่ที่จ้าสร้างขึ้นมาได้หรอก
” ซึ่งเจ้าเป็นเพียวเเค่สัตว์อสูรที่อ่อนเเอเท่ารั้นขนาดสิ่งเหล่านั้นที่โดนข้ากักจังเอาไว้ยังไม่สามารถหนีออกมาได้………. ”
เฟยหลงที่เห็นความสามารถของหม้อปรุงยาหยูหงในครั้งนี้ก็ได้คิดขึ้นมาว่า
” ข้าคงต้องมองมันใหม่หน่อยเเล้วไม่คิดว่าจะสามารถกักขังเศษเสี้ยวจิตวิญญาณเอาไว้อย่างง่ายดายอย่างนี้ ”
เสี่ยวไป๋ที่เห็นว่าเศษเสี้ยวจิตวิญญาณที่เคยทำร้ายมันโดนหม้อปรุงยาหยูหงขังเอาไว้เเล้วมันจึงได้กล่าวออกมา
” ไม่คาดคิดเลยว่าหม้อปรุงยาเก่าๆของพี่ใหญ่จะมีความสามารถมากขนาดนี้ ”
ทางด้านหม้อปรุงยาหยูหงที่ได้ยินดังนั้นก็ตะโกนใส่เสี่ยวไป๋ด้วยความโกรธ
” เจ้าลูกเเมวเมื่อกี้เเกพูดว่าอะไรนะ ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินหม้อปรุงยาหยูหงกล่าวกับมันก็รู้สึกตกตะลึง
” โอ้…………. สมบัติที่มีจิตวิญญาณเป็นของตัวเองอย่างนั้นเหรอไม่คาดคิดว่าข้าจะได้มาเจอกับตัวเองเเถมดูเหมือนว่าจะมีสติปัญญาพอสมควร”