เสี่ยวไป๋ที่ได้ฟังเรื่องราวที่เฟยหลงกล่าวออกมานั้นก็ได้กล่าวถามออกมาว่า
” งั้นพี่ใหญ่ท่านรู้หรือไม่ว่ามันมีอายุกี่ปีกันเเน่เเละทำไมมันถึงมีชีวิตยืนยาวมากขนาดนี้ ”
เฟยหลงได้ส่ายหน้าเป็นการบอกว่าตัวเขานั้นก็ไม่ได้รู้อะไรมากเกี่ยวกับต้นไม้เเห่งปัญญามากไปกว่าตำนานที่ถูกบันทึกเอาไว้ในหนังสือ
หม้อปรุงยาหยูหงก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเเปลกใจกับเฟยหลง
” ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะรู้จักต้นไม้นี้ด้วย……… ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ไเสียงเฉยเมย
” ข้าเเค่ได้อ่านหนังสือมามากเท่านั้นนอกจากที่บันทึกไว้นั้นข้าไม่รู้เเละกาลเวลาได้ผ่านมานานเเล้วต้นไม้แห่งปัญญาต้นนี้นไปอยู่ที่ไหนไม่มีใครรู้ ”
” ซึ่งสุดท้ายใครจะคิดละว่ามันจะมาอยู่ในหม้อปรุงยาหม้อหนึ่งซะได้ ”
เมื่อหม้อปรุงยาหยูหงได้ยินเฟยหลงกล่าวออกมาเเบบนั้นก็ได้ตะโกนตอบกลับไป
” ใครว่าข้าเป็นหม้อปรุงยาใบหนึ่งเท่านั้นตั้งเเต่ที่บรรพบุรุษของเจ้ายังไม่เกิดข้านั้นได้ท่องเที่ยวไปทั่วจักวาลตามสถานที่ต่างกับกับเจ้านายคนก่อนที่มีพลังเเข็งแกร่งมากมายขนาดที่สามารถบดขยี้โลกใบนี้ให้หายไปอย่างง่ายดาย ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าวออกมาก้วยน้ำเสียงที่เต้มไปด้วยความอยากรู้อย่างมากว่า
” งั้นเจ้านายคนก่อนของเจ้าละตอนนี้อยู่ไหน ”
หม้อปุรงยาหยูหงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าวตอบกลับไปว่า
” ตัวเขานั้นอาจจะอยู่ที่……………… เดี๋ยวก่อนข้ารู้ว่าเจ้าจะหลอกถามเรื่องนี้กับข้าใช่ไหมข้าบอกได้อย่างเดียวว่าอย่าเเม้เเต่จะคิดว่าจะล้วงข้อมูลเรื่องนั้นจากข้าได้อีกเด็จขาด ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็ล้มเลิกความคิดในการที่จะล้วงความลับต่างๆของหม้อปรุงยาหยูหงเเล้วครุ่นคิดอยู่ในใจ
” ข้าจะยอมล้มเลิกไปก่อนเเต่ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานมันต้องมาถึงวันที่ข้ารับรู้อย่างเเน่นอน ”
เฟยหลงที่คิดได้อย่างนั้นจึงจงใจเปลี่ยนเรื่องทันที
” เอาละถ้างั้นเกี่ยวกับต้นไม้ต้นนี้ละเจ้าจะเอายังไง ”
ฟม้อปรุงยาหยูหงก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันภาคภูมิใจว่า
” ต้นไม้นี้ก็ตามที่เจ้าบอกมันคือต้นไม้เเห่งปัญญาเเต่………… ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าวถามต่อไปอีกด้วยความรีบร้อน
” เเต่อะไรละ ”
หม้อปรุงยาหยูหงก็ได้กล่าวอธิบายให้เฟยหลงเเละเสี่ยวไป๋ที่อยู่ใกล้ๆรับรู้
” ต้นไม้แห่งปัญญาที่เจ้าเห็นนี้ในอดีตมันเป็นเพียงเเค่กิ่งเล็กๆส่วนหนึ่งของต้นไม้เเห่งปัญญาเท่านั้นต่อมาเจ้านายคนก่อนของข้าได้นำมาปลูกไว้ที่นี่จนมันเติบโตขึ้นมาอย่างที่เห็น ”
” เเถมยังต้องใช้ทรัพยากเเละสมบัติมากมายอย่างสิ้นเปลืองในการปลุกมันขึ้นมาอีกด้วย”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าวออกมาด้วยความผิดหวัง
” มันเป็นเเค่กิ่งที่เติบโตมาจากต้นไม้แห่งปัญญาต้้นหลักเท่านั้นเหรอข้าก็คิดว่าจะได้เจอกับต้นหลักของมันซะอีก ”
หม้อปรุงยาหยูหงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้ตะโกนตอบเฟยหลงด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ
” เจ้าคิดว่าต้นไม้เเห่งปัญญาเป็นต้นไม้ที่พบเห็นได้ทั่วไปอย่างนั้นเหรอเจ้าไม่รู้ซะเเล้วว่าในอดีตเจ้านายข้าต้องเสียสละทรัพย์สินจำนวนมากเเค่ไหนเพื่อที่จะสร้างมันขึ้นมา ”
” ซึ่งเเม้จะเอาทรัพยากรทั้งหใดบนโลกใบนี้ของเจ้ามาเพื่อปลูกมันั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างเเน่นอน ”
เฟยหลงที่ได้ยินหม้อปรุงยาตะโกนใส่เเบบนี้ทำให้เฟยหลงได้เเต่กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่เหนื่อยหน่าย
” พอเถอะข้าเข้าใจเเเล้วว่าต้นไม้นี้มันสำคัญอย่างมากเเละมีประโยชน์มากมายเเค่ไหน ”
เสี่ยวไป๋ที่กำลังใช้อุ้งเท้าของมันปิดใบหูเพราะไม่อยากฟังเสียงตะโกนของหม้อปรุงยาหยูหงก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
” พวกท่านจะคุยกันอีกนานไหมตอนนี้เราต้องรีบกลับไปช่วยพวกที่อยู่ในเมืองชายเเดนทางตอนเหนือนั้นสู้กับเผ่าปีศาจไม่ใช่เหรอ ”