เฟยหลงที่ได้ยินเสี่ยวไป๋กล่าวออกมาเเบบนั้นก็ได้ใช้น้ำเสียงราบเรียบตอบกลับไปว่า
” ไม่ยังมีเวลาเหลืออยู่อีกไม่ต้องเป็นห่วงถ้าตามที่ข้าลองคำนวณดูดเเล้วพวกเราจะต้องกลับไปทันอย่างเเน่นอน ”
เเล้วหลังจากนั้นเฟยหลงก็หันกลับไปกล่าวกับหม้อปรุงยาหยูหงด้วยทาท่างที่ต้องการคำตอบอย่างมาก
” งั้นเจ้าพาพวกข้าเจ้าไปดูด้านในหน่อย…………. พาไปตรงที่มีเศษเสี้ยวจิตวิญญาณตัวนั้นถูกขังอยู่ ”
หม้อปรุงยาหยูหงที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวออกมาเเบบนั้นก็ได้กล่าวตอบรับอย่างรวดเร็ว
” ถึงไม่บอกข้าก็ต้องพาเจ้าไปอยู่ดีนั้นเเหละ ”
เมื่อกล่าวจบหม้อปรุงยาหยูหงก็ได้ลอยไปทางหต้นไม้แห่งปัญญาต้นนั้นอย่างรวดเร็วโดยที่เสี่ยวไป๋เเละเฟยหลงได้วิ่งตามไป
ระยะห่างระหว่างต้นไม้กับตรงจุดที่เฟยหลงเเละเสี่ยวไป๋อยู่ก่อนหน้านี้นั้นไม่ได้อยู่ไกลกันมากเพราะพื้นที่ๆเหลือพลังชีวิตเเละพลังปราณอยู่นั้น
ไม่ได้มีขนาดกว้างขวางมากมายถ้าเทียบกับพื้นที่ๆถูกทำลายเหล่านั้น
หลัจากนั้นไม่นานพวกเฟยหลงได้มาถึงหน้าต้นไม้เเห่งปัญญาเเล้วเมื่อเสี่ยวไป๋ได้เห็นใกล้ๆเเล้วก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้ใยความตกตะลึง
” อ๋าว~~~ต้นไม้นี้มันจะมีขนาดใหญ่ไปถึงไหนกันมองไม่เห็นยอดของมันเลย ”
ซึ่งตามที่เสี่ยวไป๋ได้กล่าวออกจ้นไม้เเห่งปัญญานั้นพวกเขาในตอนนี้ไม่สามารถมองเห็นยอดของมันได้เนื่องจากมีก้อนเมฆปิดบังอยู่
เเละด้วยความสมจริงที่เเทบจะไม่สามารถเเยกออกเลยว่าพื้นที่มิติเเห่งนี้กับโลกด้านนอกเป็นคนละพื้นที่กัน
” พวกเจ้าตามข้ามาได้เลย ”
หม้อปรุงยาหยูหงที่ลอยอยู่ข้างเฟยหลงได้กล่าวขึ้นมา
เฟยหลงเเละเสี่ยวไป๋ที่ได้ยินดังนั้นก็ได้เดินตามหม้อปรุงยาหยูหงไปอย่างรวดเร็วเเบะเมื่อพวกเขาไปถึงต้นไม้เเห่งปัญญานั้นก็พบว่าอยู่ๆตรงโคนต้นไม้เเห่งปัญหานั้นก็มีประตูบานหนึ่งปรากฏขึ้นมา
เสี่ยวไป๋ที่ได้เห็นดังนั้นก็ได้เดินเข้าไปมองสำรวจด้วยความอยากรู้อยากเห็นอย่างยิ่งโดยที่เฟยหลงเเละหม้อปรุงยาหยูหงก็ได้เดินตามไป
เมื่อทั้งสามเข้าใกล้ประตูเเห่งนั้นก็ได้เปิดขึ้นราวกับเป็นการเชิญชวนพวกเขาให้เข้าไปด้านใน
หลังจากการนำทางของหม้อปรุงยาหยูหงเฟยหลงเเละเสี่ยวไป๋ก็ได้พบกับกรงขังที่สร้างขึ้นมาจากรากไม้กรงหนึ่งเเละด้านในนั้นมีเศษเสี้ยวจิตวิญญาณที่เฟยหลงกับเสี่ยวไป๋พบในถ้ำถูกขังอยู่
โดยโซ๋มีทองกำลังพันธนาการเอาไว้อยู่ซึ่งเมื่อมันได้เห็นพวกเฟยหลงมันก็ได้คำรามออกมาอย่างโกรธแค้น
” โฮกกกกกกกกกก ”
เเละเศษเสี้ยวจิตวิญญาณนั้นพยามดิ้นรนเเต่สุดท้ายเเล้วไม่ว่ามันจะพยามอย่างไรก็ไใ่สามารถทำลายโซ่สีทองได้เเม้เเตเส้นเดียว
หม้อปรุงยาหยูหงที่เห็นดังนั้นก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย
” ข้าเคยบอกเจ้าเเล้วว่าเปล่าประโยชน์เจ้าไม่อาจจะหลุดจากโซ่ที่พันธนาการเจ้าได้…………… ถึงเเม้จะสามมารถทำได้เเต่ด้วยพลังในตอนนี้มันไม่มีความหวังเหลืออยู่เลยเเละอีกอย่างเจ้าก็คงไม่สามารถทำลายกรงขังนี้ได้ ”
เฟยหลงที่เห็นเศษเสี้ยวจิตวิญญาณนั้นยังไม่ได้ละความพยามก็ไม่ได้สนใจมันอีกต่อไปเเล้วกล่าวออกมาว่า
” ถึงเวลาที่ต้องออกไปจากที่นี้แล้ว ”
หม้อปรุงยาหยูหงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้กล่าวตอบกลับไปว่า
” ได้ข้าจะพาพวกเจ้าออกไป ”
เมื่อหม้อปรุงยาหยูหงกล่าวจบมันก็ได้เสี่ยวไป๋เเละเฟยหลงออกไปอย่างรวดเร็วเเล้วกลับไปโผล่จุดเดิมที่มันพาเฟยหลงกับเสี่ยวไป๋เข้าไป
” ต้องหาทางขึ้นเเล้วละ ”
ระหว่างที่เฟยหลงกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นเองเสี่ยวไป๋ก็ได้กล่าวออกมาว่า
” อ๋าว~~~พี่ใหญ่ท่านมาดูนี่สิ ”
เมื่อเฟยหลงได้ยินเช่นนั้นก็ได้หลุดออกจากความคิดของตนเองเเล้วเดินไปหาเสี่ยวไป๋ที่กำลังใช้อุ้งเท้าเเตะเเผ่นหินที่เเตกหักบางอย่างอยู่