เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 219 ค่ายกลเพลิงเเผดเผาปฐพี

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เฟยหลงที่เห็นดังนั้นก็ได้กล่าวออกมาว่า

” ถ้าข้าจำไม่ผิดละก็ค่ายกลที่ปกคลุมเมืองขายเเดนทางตอนเหนือนั้นมีชื่อว่า ค่ายกลเพลิงแผลเผาปฐพี……… ”

เสี่ยวไป๋นั้นก็ได้กล่าวออมาด้วยน้ำเสียงอันเต็มไปด้วยความสงสัย

” ถึงพี่ใหญ่จะรู้ชนิดของค่ายกลนั้นเเล้วมันช่วยพวกเราเข้าไปด้านในค่ายกลนั้นอย่างไร ”

หลังจากนั้นเสี่ยวไป๋ก็มองเฟยหลงสลับกับมองหม้อปรุงยาหยูหงจนกระทั่งหม้อปรุงยาหยูหงกว่าออกมา

” เจ้าจะมองอะไรหนักหนาเจ้าเเมวน้อย ”

เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินหม้อปรุงยาหยูหงกล่าวออกมาเเบบนั้นก็ตอบกลับไปด้วยนน้ำเสียงเสียดสีว่า

” ข้ามองเเล้วทำไม…………ตอนนี้ข้ากำลังครุ่นคิดอยู่ซึ่งมันก็ดีกว่าหม้อปรุงยาเก่าๆใบหนึ่งที่ลอยไปมาเเละพล่ามไม่หยุด ”

เมื่อกบ่าวจบทั้งสองก็ได้มองหน้ากันราวกับว่าบรรยากาศ​ในตอนนี้กำลังมีกลิ่นดินปืนเกิดขึ้น

เฟยหลที่เห็นดังนั้นก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

” พวกเจ้าจะทะเลากันทำไมไม่ฟังข้าให้จบก่อนละ ”

เมื่อทั้งสองได้ยินเฟยหลงกล่าวห้ามจึงหยุดทะเลาะกันเเล้วตั้งใจฟังสิ่งที่เฟยหลงจะกล่าวออกมา

” ในเมื่อข้ารู้ชื่อค่ายกลเเล้วเเน่นอนว่าตัวข้านั้นย่อมรู้เกี่ยวกับค่ายกลเพลิงเเผดเผาปฐพีว่ามันต้องใช้อะไรสร้างรวมถึงทุกส่วนของค่ายกล​ ”

เฟยหลงได้มองค่ายกลเพลิงเเผดเผาที่กำลังล้อมรอบเมืองชายเเดนเอาไว้ด้วยสายตาที่กำบังวิเคราะห์​ส่วนประกอบโครงสร้างจองมัน

จนกระทั่งเวลาผ่านไปชั่วครู่เฟยหลงก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการตำหนิ

” ถึงเเม้ว่านี่จะเป็นค่ายกลเพลิงเเผดเผาปฐพี​ที่สามารถเเผดเผาศัตรูที่เข้าใกล้เเละโจมตีให้กลายเป็นเถ้าถ่านเเต่ค่ายกลเเผดเผาปฐพี​นี้นั้นถูกสร้างขึ้นเเต่ไม่ได้สมบูรณ์​ครบถ้วนเหมือนต้นฉบับ ”

เฟยหลงได้กล่าวออกมาโดยการคาดเดาจากสิ่งที่ตัวเขาวิเคราะห์​เอามา

” จากการคาดการณ์​ของข้านั้นคนที่สร้างค่ายกลนี้นั้นคงจะเรียนรู้เเล้วทำความเจ้าใจเพียงเเค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น…………. ”

มีหลายจุดที่มีข้อพกพร่องอย่างเห็นได้ขัดสำหรับข้าเเละเเต่ละที่นั้นมีพลังปราณไหลเวียนน้อยกว่าจุดอื่นอยู่ถ้าขาทำการเเทรกเเทรงจากจุดนั้นละก็ข้าสามารถพาพวกเจ้าเข้าไปได้ ”

เสี่ยวไป๋เเละหม้อปรุงยาหยูหงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้ล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

” เช่นนั้นเจ้าจะรออะไรอยู่ละรีบลงมือเร็วๆเข้าสิ ”

เฟยหลงก็ได้กล่าวตอบกลับไป

” ข้าขอเวลาเตรียวตัวอีกไม่นาน ”

ทางด้านเมือชายเเดนตอนนี้นั้นจ้าวเฉินกำลังพูดคุยอยู่กับชายชราคนหนึ่งซึ่งถ้าเฟยหลงอยู่ในที่นี้ละก็ตัวเขานั้นสามารถรับรู้ได้เลยว่าชายชราคนนั้นเป็นปรมาจารย์​ค่ายกลคนหนึ่ง

ซึ่งสิ่งที่จ้าวเฉินกำลังพูดคุบเรื่องเกี่ยวกับค่ายกลเพลิงเเผดเผาอยู่

” เเม่ทัพจ้าวตัวข้านั้นคงจะสามารถรักษาสภาพนี้ไว้ได้มากสุดอีกเพียงสองวันเท่านั้นเนื่องจากไม่มีเเหล่งพลังงานเพียงพอเมื่อพลังงานหมดเเล้วนั้นข้าเกรงว่าเมืองเเห่งนี้คงจะ……… ”

จ้าวเฉินที่ได้ฟังสิ่งที่ชายชราคนนี้กล่าวออกมาดังนั้นตัวเขาก็ได้เเต่ถอนหายใจเเล้วกล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอันเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง

” เพียงเเค่นี้ข้าก็ขอบคุณท่านมากเเล้วละ……… เมื่อเวลานั้นมาถึงพวกเราคงได้เเต่สู้กับพวกกองทัพซากศพเหล่านั้นจนกว่าจะตกตาย ”

” เเละข้าหวังว่าทางเมืองหลวงคงจะสาใารถรับมือเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างหมดจดหร่อไม่ก็ลดความเสียหายให้เหลือน้อยที่สุดได้……… อย่างน้อยๆสิ่งที่พวกข้าทำไปจะได้ไม่เสียเปล่า ”

เมื่อจ้าวเฉินกล่าวออกมาเเบบนั้นชายชราคนนั้นก็ไม่ได้กล่าวปลอมเเต่อย่างใดเพราะตัวมันก็รู้ดีว่าการที่จะรักษาเมืองชายเเดนเเห่งนี้ไว้ได้โดยที่ไม่มีกองกำลังเสริมที่เเข็งแกร่งเเละค่ายกลเพลิงเเผดเผานั้นคง……

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท