The Rise of Otaku – ตอนที่ 47

ตอนที่ 47

บทที่ที่ 47 ภารกิจสำเร็จ

เดิมทีโจวหยูคิดว่าการใช้ทางลัดนั้นจะทำอะไรให้ง่ายขึ้น แต่เขาไม่ได้คาดคิดว่าการปีนเขาบนทางลาดชันนั้นจะยากกว่าที่เขาคิดไว้มาก

แม้ว่าเขาจะได้ฝึกความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาตลอดเวลาในหนึ่งเดือนหลังจากครั้งสุดท้ายที่เขาปีนเขา เขาก็ยังไม่สามารถทนกับการออกกำลังกายที่เข้มข้นเช่นนี้ได้

ยิ่งกว่านั้นในตอนนี้เขายังคงแบกจอบมาด้วย ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้หนักเกินไป แต่มันก็ยังคงเป็นเพิ่มการสูญเสียพลังงานของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

ในส่วนชายขี้เมาเฒ่านั้นกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง อาจจะเป็นเพราะอีกฝ่ายได้ดื่มเบียร์จำนวนมากก่อนออกจากหมู่บ้าน มันจึงทำให้ตอนนี้เขาได้เมาจนเขาเดินส่ายไปส่ายมาบนถนนบนภูเขา มันทำให้โจวหยูนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายยังจำเส้นทางได้หรือไม่?

การเดินในป่าโดยไม่มีทิศทางนั้นเป็นอะไรที่ทำให้โจวหยูรู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก เขากลัวว่าชายขี้เมาเฒ่าอาจนำพวกเขาไปทิศทางที่ผิด อย่างไรก็ตามเนื่องจากไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่รู้ทาง ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงต้องเดินตามอีกฝ่ายไปได้เงียบๆเท่านั้น

ในที่สุดบนเนินเขาเล็กๆ ชายขี้เมาเฒ่าก็ได้หยุดเดินและชี้ไปที่ถ้ำที่มีประตูติดตั้งอยู่ พร้อมกับพูดขึ้นมาในขณะที่สะอึกว่า “ที่นั่น … ที่นั่น … “

อย่างที่คาดไว้ มันเป็นถ้ำที่เล็กมาก มันใหญ่พอสำหรับคนของโลก ACG เท่านั้น มันไม่มีทางที่โจวหยูจะสามารถเข้าไปได้

นอกจากนี้ยังมีก้อนหินติดกับถ้ำ มันถูกเขียนว่า “สุสานกษัตริย์หิน” ตัวอักษรสีแดงสองตัวเด่นชัดเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเมื่อโจวหยูได้ลดระดับศีรษะลงและใช้สายตาในโลกปกติของเขามองเข้าไป เขาก็เห็นว่าตรงหน้าของเขานั้นไม่มีถ้ำหรือประตูหินแต่อย่างใด มันเป็นเพียงรังของสัตว์ที่ดูเหมือนจะถูกทิ้งมาระยะหนึ่งแล้วเท่านั้น

อาจจะพูดได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับโจวหยูอีก ดังนั้นเขาจึงได้หาพื้นที่เย็นๆและวางแผนที่จะพักสักครู่ หลังจากปีนเขามานานเขาก็เหนื่อยมาก

ก่อนหน้านี้มันควรจะเป็นเควสดันเจี้ยนสำหรับสี่คน อย่างไรก็ตามคนหนึ่งกลับเป็นเพียงคนนำทาง และอีกคนหนึ่งก็ได้หมดแรงไปก่อนที่ภารกิจเควสท์ของดันเจียนจะเริ่มต้นขึ้น นี่อาจจะพูดได้ว่ามันไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย

แต่ก็ยังโชคดีที่วิหารเต๋า – นกอมตะอมตะผู้ซึ่งมี DPS สูงที่สุดในทีม ดูเหมือนว่าเขาจะมีความน่าเชื่อถือมาก และช่างไม้บีเวอร์เองก็ได้นำอุปกรณ์การแกะสลัดในตำนานของเขาออกมาด้วย มันก็เป็นเพียงว่าโจวหยูไม่ทราบว่าชุดอุปกรณ์นี้มันจะสามารถใช้ในการต่อสู้ได้ยังไงก็เท่านั้น

หลังจากนั้นไม่นานทีมสำหรับสองคนก็ได้เดินเข้าไป ก่อนที่ตัวประตูเองจะปิดอย่างกะทันหัน จากนั้นการผจญภัยของคนสองคนก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

ในแง่ของโจวหยูและชายขี้เมาเฒ่านั้น พวกเขาทำได้แค่รอให้ทั้งสองคนกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น

ชายขี้เมาเฒ่าอาจจะเมามากเกินไป เพราะตั้งแต่ที่อีกฝ่ายทำภารกิจของตัวเองเสร็จ ก็นอนบนพื้นอย่างไม่สนใจอะไรเลย

ทางด้านของโจวหยูหลังจากที่เขาสามารถฟื้นฟูแรงกลับมาได้แล้ว เขาก็เริ่มรู้สึกเบื่อมาก เขาไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดอะไรขึ้นภายในบ้าง เพราะในตอนนี้เขาก็ยังไม่เคยได้ยินเสียงใดๆออกมาจากถ้ำเลย

แต่หลังจากที่เขารอซักพัก ก็มีหน้าจอเสมือนปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ในขณะที่เขามองเข้าไปใกล้ๆ มันกลับเป็นภาพของนกอมตะและช่างไม้บีเวอร์ที่ปรากฏอยู่

โจวหยูไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าทั้งสองคนต่างก็ได้นอนบนพื้นไม่ขยับไปไหนเลย เขาไม่ทราบด้วยซ้ำว่าทั้งสองคนนั้นเป็นลมล้มลงไป หรือเป็นฉาก GG ที่ระบบทำขึ้นมา

หน้าจอเสมือนจริงก็แปลกมาก มันมีปุ่มบางปุ่มอยู่ด้านล่างหน้าจอด้วย มันเหมือนกับเครื่องจักรอาร์เคดที่เขาเคยเล่นตอนที่เขายังเด็กๆ และตัวละครที่เขาต้องควบคุมคือนกอมตะและช่างไม้บีเวอร์นั้นเอง

โจวหยูพยายามได้สื่อสารกับพวกเขาผ่านหน้าจอ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

ในขณะเดียวกัยก็ได้มีทหารโครงกระดูกปรากฏตัวขึ้นตรงกลางของหน้าจอ และมันกำลังมุ่งหน้าไปหาพวกเขาขณะโบกดาบในมือไปด้วย

‘โอ้! มันอาจจะถูกออกแบบมาฉันให้บังคับพวกเขา’

ในขณะที่เขาคิดแบบนั้น มือของเขาก็ไปหยิบคันบังคับควบคุมอย่างรวดเร็ว โดยใช้มือซ้ายและวางมือขวาลงบนปุ่มด้านขวา เขาก็เริ่มลองทำสิ่งที่แต่ละปุ่มสามารถทำได้เร็วที่สุด

ในไม่ช้าเขาก็รู้วิธีการเล่นทั้งหมด ท้ายที่สุดเขามันก็เป็นการบังคับที่เขาเคยเล่นมาเมื่อหลายปีก่อน

มีปุ่มทั้งหมดห้าปุ่ม ปุ่มแรกในแถวล่างคือปุ่มโจมตี อันที่สองคือการกระโดด ปุ่มแรกในแถวแรกคือการเลือกรายการ ทักษะปุ่มที่สองคือการใช้รายการหรือทักษะ และปุ่มที่สามใช้แทนอักขระ

นกอมตะเป็นตัวละครที่ทรงพลังที่สุดในทีม การเอาชนะทหารตัวเล็กๆบางตัวก็เหมือนกับการตัดเค้ก ในแง่ของบทบาทของช่างไม้บีเวอร์มันถูกใช้เพื่อแก้ปริศนา

หากพวกเขาพบบางสถานที่ที่พวกเขาไม่สามารถผ่านได้ เขาสามารถใช้ช่างไม้บีเวอร์สร้างสะพานหรือปูถนนได้ มีกับดักตลอดทางและนกอมตะมองไม่สามารเห็นพวกมันได้ อย่างไรก็ตามหลังจากช่างไม้บีเวอร์ถูกเรียกออกมา กับดักเหล่านั้นสามารถมองเห็นและทำลายได้

ในระยะสั้นนี้เป็นเกมแนวสองมิต ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าโจวหยูก็พยายามดูว่ามีกลอุบายอื่นๆหรือไม่ เช่นเกม “อัศวินแห่งความกล้าหาญ” หรือ “ราชาแห่งนักสู้”

แน่นอนว่าเกมหลุมฝังศพนี้มีเทคนิคมากมาย บางสิ่งเช่น Up + Down + A, ครึ่งวงกลมด้านซ้าย + A, Airborne + A + Down + B … แม้แต่การเคลื่อนไหวที่ยากที่สุด, Left left + Right + Up + Down + A ก็ถูกค้นพบโดยเขาเช่นกัน

แม้ว่าเกมนี้จะไม่มีคู่มือบอกอะไรเลย แต่มันก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับโจวหยูผู้มีประสบการณ์ในเกมแนวอาร์เคดมาแล้ว ท้ายที่สุดไม่มีการจำกัดเวลาดังนั้นเขาจึงลองท่าทางต่างๆจำนวนมาก หลังจากที่เขาเกือบคุ้นเคยกับการควบคุมแล้ว เขาก็เริ่มก้าวไปข้างหน้าได้เสียที

หลังจากทั้งหมดมีเพียงหนึ่งชีวิต หากพวกเขาเสียชีวิตขึ้นมา เขาก็ไม่รู้ว่ามันจะสถานที่ที่จะสามารถชุปชีวิตอีกฝ่ายขึ้นมาได้หรือไม่ ดังนั้นมันจะเป็นการดีกว่าถ้าเขาจะระมัดระวังให้มาก

แถบเลือดแบบคลาสสิคเองก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับมีแถบพลังงานเช่นกัน

โจวหยูได้ใช้เวลาประมาณสิบนาทีในการไปถึงห้องฝังศพหลัก ชื่อของเขา – ราชาหินที่สอง เห็นได้ชัดว่านี้เป็นชื่อที่คลาสสิคมาก

อย่างไรก็ตามระดับสุดท้ายก็เป็นสิ่งที่ลำบากที่สุดอยู่ดี หลังจากเสียงหินดังขึ้นในห้อง ตัวบอสของเกมก็ได้ค่อยๆคลานออกมาจากโลงศพ ดูเหมือนว่ามันจะอยู่ยงคงกระพันเหมือนกับบอสเกมอื่นๆ

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าโจวหยูไม่ใช่คนที่ชอบเล่นเกมประเภทมากนัก แต่เขาก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง

ภายใต้การโจมตีคอมโบและการทิ้งระเบิดของสิ่งของต่างๆ ราชาผีดิบสีทองตัวนี้ก็ถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาก็คือฉากจบของเกม หลังจากช่วยลิงช่างหินที่ถูกขังอยู่ในกรงเหล็กมาได้แล้ว พวกเขายังมีเวลาที่จะนำสมบัติของสุสานอย่าง – มิสทิน ริงค์ สโตร์ มาได้เช่นกัน

จากนั้นเพดานหลุมฝังศพก็เริ่มร่วงหล่นและหลุมศพทั้งหมดก็เริ่มพังทลายลง ทั้งสามคนรีบออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด

ตามปกติในภาพยนตร์ฮอลลีวูด ตัวละครเอกนั้นสามารถหลบหนีจากอันตรายได้อย่างแน่นอน แต่เกมนี้ดูเหมือนจะมีวิธีที่แตกต่างออกไป เมื่อคนสามคนมาถึงทางออกของถ้ำ พวกเขาไม่สามารถเปิดประตูล็อคได้ เมื่อเห็นแบบนั้นตัวเอกทั้งหมดต่างก็กอดกันด้วยความสิ้นหวังและสาบานว่าจะเป็นพี่น้องกันในชีวิตหน้า

โจวหยูที่เห็นแบบนั้นก็รีบยกจอบแล้วพูดว่า “เอาละ! มันถึงเวลาที่พระเอกตัวจริงจะมาแล้ว”

เขาที่คิดได้แบบนั้นก็รีบจับจอบขึ้นมา และลงมือขุดดินอย่างรวดเร็วเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากมีหน้าจอแสดงสถานการณ์ตลอดเวลา มันจึงทำให้เขาไม่ต้องกลัวว่าอาจจะเผลอทำให้พวกเขาบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ

ใช้เวลาไม่นานในการขุดอุโมงค์นี้ เมื่อพี่น้องทั้งสองคนเห็นว่าตัวเองได้รอดพ้นจากอันตรายแล้ว ก็ยังคงกอดกันและกันในขณะที่ร้องไห้ไปด้วย ซึ่งมันแตกต่างจากนกอมตะเฒ่า ด้วยเหมือนว่าอีกฝ่ายนั้นจะยังคงรักษาอาการสงบได้

หลังจากพาที่ทีมนักผจญภัยออกมาได้แล้ว พวกเขาแต่ละคนก็ได้เริ่มเล่าถึงพฤติกรรมที่ยอดเยี่ยมของตัวเองออกมาไม่มีหยุด

“ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเวทมนตร์ที่ข้าได้ใช้ออกก่อนหน้านี้จะประสบความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึง และข้าคงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ ถ้าไม่มีเจ้าคอยช่วยเด็กน้อยโจว”

มันกลับกลายเป็นว่าหน้าจอควบคุมนั้นเป็นเวทมนตร์ที่ถูกใช้ออกไปโดยนกอมตะเฒ่า ซึ่งดูเหมือนจะเป็นทางเลือกสุดท้ายของอีกฝ่ายจริงๆ และอาจจะเรียกได้ว่าสิ่งที่โจวหยูประสบความสำเร็จในการแก้ไขวิกฤติได้นั้น ต้องขอบคุณด้วยหนึ่งใน “พรสวรรค์” เพียงอย่างเดียวของเขาอย่างการ – เล่นเกม

สุสานกษัตริย์ได้ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ปากทางเข้าของสุสานก็ถูกทำลายจนจำไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจจะตามา มันจะเป็นการดีที่สุดที่พวกเขาจะรีบออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นเมื่อมีคนมาเห็นสภาพนี้เข้า เขาอาจจะไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นเพราะอะไร

หลังจากกลับบ้าน แน่นอนว่าพี่น้องทั้งสองมีหลายสิ่งที่จะพูดคุยเกี่ยวกับ นกอมตะที่เป็นอมตะนั้นชอบที่จะรักษาความสะอาดตัวเองอยู่เสมอ ดังนั้นทันทีที่ถึงบ้านเขาจึงอดใจรอไม่ไหวที่จะกลับไปที่วัดเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนโจวหยูเองก็ไปตรวจสอบของรางวัลที่เขาได้จากภารกิจนี้เช่นกัน

‘มิสทิน ริงค์ สโตร์ ลิงช่างหิน และ ปรมาจารย์กังฟู’

ชื่อของมิสทิน ริงค์ สโตร์ฟังดูเหมือนมีค่า อย่างไรก็ตามในสายตาในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว มันกับเป็นเพียงก้อนกรวดสีน้ำเงินอ่อนและมีลวดลายของสีดำอยู่ข้างในเท่านั้น แต่ถ้ามองจากมุมมองเชิงศิลปะมันก็สามารถใช้เป็นรายการแสดงได้ แต่จากมุมมองทางธุรกิจแล้วมันจะไม่คุ้มค่าอะไรเลย

แต่เมื่อเปลี่ยนไปสู่สายตาของโลกแห่ง ACG ข้อความบางส่วนก็ปรากฏออกมาในอากาศ

มิสทิน ริงค์ สโตร์ : ก่อให้เกิดเอฟเฟกต์ฝนตกในพื้นที่ขนาดใหญ่ในเวลาที่กำหนด และพืชทั้งหมดที่อยู่ในระยะจะได้รับบัฟระดับหนึ่ง

‘อืม! นี่เป็นไอเท็มที่ดี ไม่ว่าจะเป็นกระถางต้นไม้หรือเมล็ดพันธุ์ที่มีความสามารถ เช่นเมล็ดดอกไม้ไอดอลพวกมันสามารถได้รับประโยชน์นี้ได้ ‘

และตอนนี้ก็ได้เวลาที่เขาจะตรวจสอบคุณลักษณะของสมาชิดใหม่ทั้งสองของโลก ACG แล้ว

The Rise of Otaku

The Rise of Otaku

เรื่องย่อย

โจวหยูเป็นโอตาคุที่รักสันโดษ ซึ่งเขานั้นเป็นคนที่ไม่ชอบออกจากบ้านของตัวเอง

แต่เขาก็ถูกบังคับให้ออกจากบ้านโดยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในวันหนึ่ง…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท