บอลเพลิงสีครามได้พุ่งเข้าใส่ปีศาจที่กำลังต่อสู้กับเศษเสี้ยวจิตวิญญาณตระกูลพยัคฆ์ตนั้นอยู่อย่างรวดเร็ว
เเม้ว่าปีศาจตนนั้นจะเห็นว่าบอลเพลิงที่กำลังพุ่งเข้าใส่มันนั้นจะไม่สนใจมนุษย์อย่างเฟยหลงที่มีพลังเเค่ขอบเขตหลอมรวมขั้นเเรกเเต่ที่มันสัมผัสได้ตอนนี้นั้นสามารถเทียบได้กับขอบเขตหลอมรสมขั้นสูงเลยก็ว่าได้
ยิ่เจอเข้ากับเพลิงสีรามที่เคยทไร้ายมันมาก่อนเเละอันตรายที่มันสัมผัสได้จึงรีบโคจรพลังปราณสีดำสร้างเป็นโล่กันบอลเพลิงสีครามนี้
เเต่เเล้วกลับกลายเป็นว่าบอลเลพลิงสีครามเหมือนดวงอาทิตย์ขนาดเล็กสีครามสดใสพุ่เง้ขาใส่ปีศาจตนนี้นเเละระเบิดออกมา
” ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมม ”
เมียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วเเรงระเบิดได้ทำให้เศษฝุ่นกระจายออกไปทั่วอากาศเเละเกิดเป็นม่านควันขึ้นมาปิดบังการมองเห็นปกติเเต่กับเฟยหลงที่มีสัมผัสวิญญาณที่เเจ็งแกร่งยิ่งกว่าคนที่อยู่ในขอบเขตเดียวกัน
จึงสามารถจับตำเเหน่งของปีศาจที่อยู่ที่เดิมไปขยับไปไหนราวกับภูเขาที่ไม่อาจจะสั่นคลอนเฟยหลงจึงลงมือต่ออย่างรวดเร็วโดยหยิบดาบเล่มหนึ่งออกมาที่อยู่ระดับ
ซึ่งดาบเล่มนี้นั้นเฟยหลงได้ไปขอจากคลังสมบัติส่วนตัวของจ้าวเฉินซึ่งเก็บรวบรวมเอาไว้อย่างมากมาย
ตัวดาบในตอนนี้นั้นกำลังถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสีครามเฟยหลงได้ใช่โอกาศที่ส้รางขึ้นมาก่อนหน้านี้ฟันเข้าใส่ปีศาจตนนั้น
” พรึบ พรึบ พรึบ ”
เสียงเเหวกอากาศดังขึ้นพร้อมกับดาบที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสีครามนั้นได้ฟันเข้าใส่ร่างของปีศาจตนนั้นอย่างเเรง
” เคร๊งงงงงงงงงง ”
เสียงเหมือนดาบกะทบกับเหล็กทำให้ดาบนในมือของเฟยหลงสั่นสะท้ายอย่างรุนเเรงเมื่อเฟยหลงมองดูก็พบว่ามีกรงเล็บสีดำกำลังจับใบดาบของเฟยหลงอยู่
เฟยหลงที่เห็นดังนั้นก็ได้ล่าวออกมาว่า
” นึกไม่ถึงจริงๆว่าสามารถรับดาบข้าได้ด้วยสมเเล้วที่ในอดีตอยู่ในขอบเขตที่สูงกว่าขอบเขตหลอมรวมเเม้พลังปราณเเละความสามารถจะถูกผนึกไว้เเต่ร่างกายที่เเข็งแกร่งกว่าผู้บ่มเพาะของเผ่ามนุษย์ ”
” เเม้ว่าจะไม่ได้เดินไปบนเส้นทางของการบ่มเพาะร่างกาย…………………… เเต่อย่าคิดว่าเเค่นี้จะสามารถหยุดข้าไว้ได้ ”
เมื่อเฟยหลงกล่าจบตัวเขาก็ได้เร่งพลังปราณที่อยู่ในร่างกายของเขาที่โคจรอย่างรวดเร็วก่อมห้เกิดความกดดันที่มหาศาลจนพื้นที่เฟยหลงยืนอยู่มีรอยเเตกออกไปเหมือนกับใยเเมงมุม
” ถ้าเเกเเน่นักก็ลองรับนี่ดู ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวจบก็ได้ส่งเพลิงสีครามไปยังตัวดาบเพิ่ทจึ้นจนกระทั่งปีศาจตนนั้นยังหน้าเปลี่ยนสีก่อนที่จะปล่อยมืออย่างรวดเร็ว
” เจ้ามนุษย์โง่เง่าเจ้าทำให้ข้าผู้นี้โกรธอย่างมากเเล้วจุดจบของเจ้านั้นมีเพียงความตายเท่านั้น ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวได้ยินจึงยิ้มให้ปีศาจตนนั้นเเล้วกล่าวออกมาว่า
” เจ้าคิดว่าจะทำได้อย่างที่กล่าวเหรอ ”
ปีศาจตนนั้นที่ได้ยินคำกล่าวนี้ของเฟยหลงก็ได้กล่าวอะไรบางอย่างที่เป็นภาษาปีศาจซึ่งเฟยหลงนั้นฟังความฟมายออก
” ตัวข้าขอเรียกหยิบยืมพลังแห่งความปั่นป่วนเเละโกลาหล………… ปราณเเห่งการกัดกร่อน”
หลังจากที่กล่าวจบก็ได้มีพลังปราณสีดำระเบิดออกมาจำนวนมากออกมามากกว่าเดิมเเละทำให้รอบด้านตอนนี้เต็มไปด้วยพลังปราณสีดำที่น่ารังเกียจพวกนี้
เเม้กระทั่งกันกร่อนก้อนหินให้ละลายกลายเป็นฝุ่นผงเเต่เฟยหลงไม่ได้เกรวกลัวเเม้เเต่น้อยด้วยการปกป้องจากเกราะของรูปแบบมังกรเเละรูปแบบเต่าทมิฬพร้อมกับเพลิงสีครามที่ปกคลุมทั่วทั้งตัว
ทำให้ตัวของพลังปราณสีดำที่เข้าใกล้ตัวเฟยหลงถูกทำลายลงอย่างรวดเร็วส่วนทางด้านเสษเสี้ยวจิตวิญญาณตระกูลพยัคฆ์นั้นได้มีพลังสีน้ำตาลครอบคลุมตัวของมันไว้
ซึ่งก็คือพลังที่หยิบยืมมาของปฐพีได้กลายเป็นเหมือนม่านพลังที่ปกป้องตัวมันอยู่
เมื่อปีศาจตนนั้นเห็นว่าพลังปราณสีดำที่ตนปลอ่ยออกมาไม่สามารถทำอันตรายศัตรูของตนได้เเม้เเต่น้อยก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า
” ข้าอยากจะรู้นักพวกเจ้าจะทนไปได้ขนาดไหนกัน ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาเพราะการใช้รูปแบบต่างๆนี้กลืนกินพลังปราณจำนวนมากเเละทางด้านเศาเสี้ยวจิตวิญญาณตระกูลพยัคฆ์นั้นก็ต้องใช้พลังปราณในการคงร่างเอาไว้พร้อมกับหยิบยืมพลังของปฐพี