เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 243 การทดสอบของเฟยหลง

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

ซึ่งทางด้านเฟยหลไม่ได้ฟังเสียงบ่นของเสี่ยวไป๋เเล้วเเอบเข้าไปในคฤหาสน์​อย่างเงียบเชียบ​

โดยหลังจากที่เฟยหลงใช้สัมผัสวิญญาณ​ตรวจสอบทั้งคฤหาสน์​ได้อย่างง่ายดายเพราะสัมผัสวิญญาณ​ของเฟยหลงตอนนี้นั้นเเข็แกร่งกว่าตอนที่อยู่ในขอบเขตวิญญาณ​

บวกกับที่เฟยหลงเป็นนักปรุงยาที่ต้องใช้พลังวิญญาณ​ในการหลอมเม็ดยาเเล้วด้วยพลังวิญญาณ​ตอนที่อยู่เป็นเซียนนั้นสามารถใช้งานได้เพียงส่วนเล็กๆของมันเท่านั้น

เเต่สำหรับขอบเขตหลอมรวมเเล้วนั้นเรียกได้ว่าเป็นพลังวิญญาณ​จำนวนมหาศาล

” อืม………..ดูเหมือนว่าพวกนางจะบ่มเพาะกันอย่างสงบอยู่ในตอนนี้ ”

เฟยหลงได้เเอบเข้าไปในห้องขนาดเล็กห้องหนึ่งในคฤหาสน์​เมื่อเดินตามสัมผัสวิญญาณ​ไป

ก็พบกับประตูลับเเต่มันมีค่ายกลป้องกันอยู่ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เฟยหลงอาจจะต้องใช้เวลามนการปิดค่ายกลนี้เล็กน้อยเเต่เมื่อมาถึงขอบเขตหลอมรวมค่ายกลที่ถูกวางโดยปรามจารย์​ค่ายกลระดับเหลืองขั้นกลาง

นั้นไม่อาจจะหยุดเฟยหลงเมื่อเปิดออกก็พบกับพลังปราณธรรมชาติมากกว่าด้านนอกอย่างเห็นได้ชัดเเละพบกับซูซ่านเละเจียหงกำลังพบเพาะอย่างสงบอยู่

เฟยหลงก็ได้ตัดสินใจทดสอบบางอย่างโดยใส่เสื้อคุลมสีดำและปิดกันพลังปราณเอาไว้ก่อนจะเปิดประตู

ซึ่งเเน่นอนว่าเมื่อเฟยหลงเปิดประตูนั้นทั้งสองก็สัมผัสได้ว่ามีคนเปิดประตูลับบานนั้นออกมาซึ่งเเปลว่าค่ายกลที่ปกป้องอยู่คงถูกทำลายไปแล้ว

ทั้งสองได้หยิบอาวุธออกมาจากถุงมิติก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่โดยไม้รอช้าพรอ้มกับกล่าวถามออกมาว่า

” เจ้าเป็นใคร ”

” เจ้ามีจุดประสงค์​อะไร ”

ก่อนที่เฟยหลงจะกระโดดลงมานั้นตัวเฟยหลงได้ลดขอบเขตพลังให้เหลือเพียงเเค่ขอบเขตวิญญาณ​ขั้นสูงสุดซึ่งตอนนี้นั้นตัวซูซ่านเเละเจียหงก็อยู่ที่ขอบเขตวิญญาณ​ขั้นสูงสุดเเล้ว

ด้วยเม็ดยาที่ส้รางจากผลวารีพิสุทธิ์​ของเฟยหลงเเละการที่ทั้งสองผ่านการต่อสู้กับทหารซากศพซึ่งถ้านับรวมศักยภาพ​ในการบ่มเพาะเเล้วนั้นการที่ก่อนหน้านี้พวกนางอยู่ขอบเขตวิญญาณ​ขั้นกลางเเล้วทะลวงเป็นขั้นสูงสุดอย่างรวดเร็วเฟยหลงก็ไม่เเปลกใจนัก

เฟยหลงได้เริ่มโจมตีด้วยความเร็วสูงสุด

” เคร๊ง เคร๊ง ”

เสียงอาวุธปะทะกันได้ดังขึ้นมาอย่างรวดเร็วทิ้งไว้เพียงเงาร่างที่กำลังต่อสู้อย่างรุนเเรง

เจียงหงเเละซูซ่านที่เห็นว่าเเม้ว่าพวกนางสองคนจะร่วมมือกันโจมตีเเต่ไม่สามารถกดดันชายในชุดคลุมสีดำได้เลยจึงกล่าวถามออกมาอย่างระมัดระวัง

” เจ้าเป็นใครกันเเน่ถึงได้เเอบเข้ามาที่นี้ ”

เฟยหลงได้เปลี่ยนเสียงของตนเอให้เเหบพร่าเเละให้ความรู้สึกอึดอัด

” เจ้าอยากรู้งั้นก็เอาชนะข้าให้ได้สิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”

เมื่อเจียงหงได้ยินดังนั้นก็กล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

” เเล้วลูกสัตว์อสูรตระกูลพยัคฆ์​ละเจ้าเอามันไปไว้ไหน ”

เพราะเจียงหงจำได้ว่าเสี่ยวไป๋นั้นอยู่ด้านนอกคฤหาสน์​เเละถ้าชายชุดดำคนนี้เข้ามาถึงด้านในห้องบ่มเพาะนี้ได้นั้นจะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเสี่ยวไป๋

” เจ้ามหายถึงเจ้าเเมวนั้นหรือ……….ข้าก็จับมันมัดเอาไว้ซักที่นั้นเเหละ ”

เมื่อเจียงหงกับซูซ่านได้ยินเช่นนั้นก็ได้กล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย

” เเล้วทำไมเจ้าต้องทำอย่างนั้นละ ”

เฟยหลงที่อยู่ในชุดคลุมสีดำนั้นซูซ่านเเละเจียงหงสัมผัสถึงจิตสังหารจากตัวเฟยหลงที่สวมชุดคลุมสีดำไม่ได้เเต่กลับเข้ามาโจมตีพวกนางอย่างไม่รู้สาเหตุ

” ข้าบอกเเล้วว่าเจ้าอบากรู้ต้องเอาชนะข้าให้ได้ก่อน ”

เมื่อซูซ่านเเละเจียงหงได้ยินเช่นนั้้นก็ได้ได้เเต่เดินตามเกมที่เฟยหลงตั้งเอาไว้

ทั้งซูซ่านเเละเจียงหงได้ร่วมมือกันสกัดกั้นเฟยหลงเอาไว้เเต่ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ทั้งสองก็เริ่มจะเสียเปรียบมากขึ้นจนกระทั่งเฟยหลงเล็กเห็นช่องว่างของพวกนาง

เเละตัดสินใจพุ่งเข้าประชิดตัวซูซ่านอย่างรวดเร็วเจจียงหงที่เห็นดังนั้นก็ได้ตะโกนเตือนซูซ่านว่า

” ระวังน้องสาวซู

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท