ทางด้านขันทีที่ได้นำทางเฟยหลงเข้าไปในคลังสมบัติของราชวงศ์ของอาณาจักรสายลมนั้นตรงหน้าของเฟยหลงตอนนี้มีประตูบานใหญ่ที่ดูเก่าเเก่เเต่กลับมีความเเข็งอย่างมาก
เฟยหลงพิจราณาประตูด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงบ
” นอกจากวัสดุที่ใช้สร้างนั้นคงสามารถทนรับการโจมตีของขอบเขตฟลอมรวมได้……….. เเละดูเหมือนว่าจะมีค่ายกลอยู่ด้วย ”
ในระหว่างที่เฟยหลงกำลังพิจราณาอยู่นั้นขันทีคนนั้นได้หยิบตราประทับบางอย่างออกมาก่อนที่ประตูบานนั้นจะเปร่งแสงเเล้วก็ค่อยๆเปิดออกให้เห็นถึงสภาพด้านใน
ขันทีคนนั้นได้หันหกลับมามองเฟยหลงก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า
” ถ้าท่านสนใจสิ่งไหนละก็สามารถบอกข้าน้อยได้เพราะว่าของทุกชิ้นนั้นมีค่ายกลขนาดเล็กติดตั้งอยู่เพื่อกันใครหยิบไปโดยไม่บอกกว่า ”
ทางด้านเฟยหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้พยักหน้าของตนเองอย่างราบเรียบก่อนที่จะเดินตามขันทีคนนั้นเข้าไปเเล้วเฟยหลงได้ลองสำรวจรอบด้านด้วยความสนใจ
” ที่นี้เหมือนจะมีเเต่ค่ายกลเต็มไปหมดเเละเเต่ละอันนั้นอย่างต่ำสุดก็คือค่ายกลระดับสีเหลืองขั้นต่ำ ”
เฟยหลงไม่รอช้าก่อนที่จะลองมองหาสิ่งต่างๆที่คิดว่าจะมีประโยชน์ต่อตัวเขามากที่สุด
ทางด้านจักรพรรดิเเห่งอาณาจักรสายลมนั้นด้วยความอยากรู้ที่ว่าเฟยหลงนั้นจะเลือกสิ่งของเเบบไหนไปจากคลังสมบัติของราชวงศ์ก็ได้ลุกจากบัลลังก์เเล้วเดินไปห้องควบคุมค่ายกล
” ข้าอยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะเลือกสิ่งไหน ”
ซึ่งตอนนี้หลังจากที่จักรพรรดิจออาณาจักรสายลมนั้นกำลังมองเฟยหลงด้วยค่ายกลทาวด้านเฟยหลงที่มีสัมผัสวิญญาณที่เชียบเเหลมรู้สึกได้อย่างรวดเร็ว
เเต่ตัวเขากลับไม่ได้เเสดงท่าทีอะไรออกไปพร้อมกับเดินหาสิ่งที่ตนต้องการต่อ
เเละในตอนนั้นเองที่เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นมาตัวเฟยหลงได้ยินเสียงเรียกที่กำลังเรียหาตัวเขาอย่างวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา
” ในที่สุดท่านก็มา………… ข้ารอท่านมานานมาก ”
เฟยหลงที่ได้ยินเสียงเรียกนั้นก็ได้หยุดเดินทันทีขันทีคนนั้นได้หันกลับมาถามว่า
” มีอะไรเหรอขอรับ ”
เฟยหลงได้ส่ายหน้าบ่งบอกว่าไม่มีเรื่องอะไรขันทีคนนั้นจึงเดินต่อไปพร้อมกับกล่าวถามเฟยหลงออกมาว่า
” สิ่งที่ท่านต้องการนั้นเป็นอะไรเหรอขอรับช่วยบอกให้ข้ารับรู้………… บางทีข้าอาจจะพาท่านไปดู ”
เฟยหลงที่ได้ยินเช่นนั้นไม่ได้กล่าวตอบอะไรขันทีคนนั้นจึงเลือกที่จะเงียบเพราะว่าก่อนหน้านี้ในท้องพระโรงตัวเขาก็ได้เห็นเหตุการณ์ที่เฟยหลงก่อขึ้นเหมือนกัน
การที่ขันทีคนหนึ่งอย่างเขาจะไปยั่วยุตัวตนระดับนั้นคงมีเพียงความตายที่รอยู่เท่านั้น
ทางเฟยหลงได้เดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งสังเกตุเห็นว่ามุมหนึ่งนั้นมีของต่างๆที่มีรอยเเตกหักหรือความเก่าเเก่อย่างมากในชั้นวางที่มีค่ายกลปกป้องอยู่
เฟยหลงที่เห็นอย่างนั้นก็ได้กล่าวถามออกมาด้วยความสนใจ
” ที่ชั้นวางนั้นมีของเก่าเเก่พวกนั้นได้มาจากไหนงั้นเหรอ ”
ขันทีที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวถามตนเองออกมาอย่างนั้นจึงรีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
” สิ่งของเหล่านั้นเป็นของที่เหล่าผู้คนในราชวงศ์ได้มาจากสถานที่โบราณเก้าเเก่หรือซากปรักหักพังต่างๆ ”
” สิ่งของเเต่ละชิ้นนั้นเเม้ว่าจะดูเก่าเเก่เเล้วใกล้พังทลายลงทุกทีเเต่วัสดุที่สร้างพวกมันนั้นเรียกได้ว่าจัดอยู่ในวัสดุระดับสูงมากเเต่ด้วยการกรัดกร่อนจากกาลเวลาทำให้พวกมันทั้งหมดสูญเสียพลังไปเเทบจะทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็เริ่มที่จะมองหาสิ่งที่พอจะใข้งานได้บ้างจนกระทั่งส่วนลึกของจิตใจเขานั้นกลับนำพาตัวเฟยหลงเดินไปยังมุมหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เฟยหลงอยู่เมื่อครู่
ในตอนนั้นเองที่เฟยหลงรู้สึกถึงความตื่นเต้นในส่วยลึกของจิตใจของตนเองเมื่อเฟยหลงกวาดสายตามองก็พบกับดาบสองเล่ม
เล่มหนึ่งเป็นดาบที่มีขนาดปกติทั่วไปเเละอีกเล่มนั้นมีขนาดใหญ่เเตกต่างทั้งสองเล่มกลับหักจนเหลือใบดาบเพียงเเค่หนึ่งในห้าเท่านั้นเเละมีสนิทเกาะอยู่ทั่ว
เฟยหลงที่เห็นรูปร่างของมันในตอนเเรกนั้นก็รู้สึกคุ้นเคยจนกระทั่งเมื่อลองนึกดูดีๆก็พบว่าดาบทั้งสองเล่มนี้มันเหมือนกับดาบในชีวิตก่อนของเขา……