เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 268 เมืองวารีหวนคืน

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

สิ่งที่เจ้าเมืองวารีหวนคืนนั้นกังวลใจที่สุดในอตนนี้เพราะว่ามันใกล้ถึงเวลาที่จะครบรอบสิบปีเเล้ว

ซึ่งทุกๆสิบปีนั้นเมืองวารีหวนคืนจะมีผู้คนจากหลากหลายสถานที่ได้มารวมตัวกันเพื่อหวังที่จะได้รับสมบัติที่ปรากฏ​ตัวทุกสิบปี

เ​นื่องจากตอนนี้นั้นเหลือเวลาอีกเพียงเเค่หนึ่งสัปดาห์​เป็นอย่างต่ำสมบัติชิ้นนั้นก็คงจะปรากฏ​ออกมา

ซึ่งชื่อเมืองวารีหวนคืนนั้นไม่ได้มาจากสิ่งอื่นใดนอกจาสมบัติที่ปรากฏ​ตัวทุกๆสิบปีนั้นที่มีชื่อว่า

” วารีหวนคืน ” คุณสมบัติ​ของมันก็คือการชำระล้างพลังปราณ​ให้มันบริสุทธิ์​ยิ่งขึ้น

เเละยังเพิ่มโอกาศในการทะลวงขอบเขตขึ้นอย่างมากเเต่เเน่นอนว่ายิ่งขอบเขตสูงเพียงใดประสิทธิภาพ​นั้นล้วนลดลงอย่างน่าหวาดหวั่นทำให้คนที่มาเมืองวารีหวนคืน

ส่วนมากจะเป็นเพียงเเค่ผู้เยาว์​ก็จริงเเต่บางส่วนนั้นมาจากขุมพลังที่ยิ่งใหญ่สามารถเทียบเท่าจักรวรรดิ​วารีโดยไม่น้อยหน้า

เจ้าเมืองที่มองดูเหล่าผู้คนที่ต่อเเถวยาวเหยียด​ตรงประตูทางเข้าเมิองก็ได้ถอนหายใจอย่างเศร้าหมอง

” ข้าหวังว่ามันจะไม่มีเรื่องร้ายเเรงใดๆเกิดขึ้นก็เพียงพอเเล้วละ ”

เเม้ตัวเขาที่มีสถานะเจ้าเมืองวารีกวนคืนเเต่ตัวเขานั้นไม่อยากที่จะเข้าไปพัวพัน​กับการเเย่งชิงของเหล่าอัจฉริยะ​ของเเต่ละขุมพลัง

” ตอนนี้มีเเม้กระทั่งใช้สัตว์อสูรขอบเขตหลอมรวมสองตัวในการลากรถม้าเเล้วเเม้ว่าจะไม่มีตราสัญลักษณ์​อะไรเลยเเต่ว่าเพียงเเค่สัตว์อสูรขอบเขตหลอมรวมสองตัวฐานัของคนที่นั่งอยู้ด้านในคงไม่ต่ำอย่างเเน่นอน ”

เพราะว่าสัตว์อสูรยิ่งอยู่ขอบเขตที่สูงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีสติปัญญา​ที่เพิ่มมากขึ้นเเละถ้าสามารถเปิดความทรงจำของบรรพชน​ของตนเองได้นั้น

ถูกจัดอยู่ในสัตว์อสูรที่มีระดับสูงส่งในหมู่สัตว์อสูรด้วยกัน

ทางด้านเฟยหลงนั้นที่เห็นเมืองวารีหวนคืนกำลังวุ่นวายอย่างมากก็รู้สึกเเปลกใจเเละครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่นักเดินทางชราคนนั้นได้เล่าให้ตัวเขาฟัง

เมื่อลองคิดทบทวนไปมาก็ได้เห็นโรงเตี๊ยมเเห่งหนึ่งที่ดูดีมีระดับพอสมควรเฟยหลงจึงคิดถึงที่พักขึ้นมาในทันทีเเล้วหยุดรถม้าที่ลากโดยสัตว์อสูรทั้งสองตัวลง

พร้อมกับกระโดดลงไปทางด้านที่หน้าโรงเตี๊ยมนั้นมีหญิงสาวที่มีความสวยงามหลายคนกำลังต้อนรับลูกค้าด้วยรอยยิ้ม

ซึ่งเมื่อหนึ่งในพวกนางสังเกตุเห็นเฟยหลงนั้นก็ได้ให้ความสนใจกับรูปร่างหน้าตาของเฟยหลงที่เรียกได้ว่าหล่อเหล่าจึงเดินเข้าไปถามว่า

” ไม่ทราบว่าคุณชายท่านนี้มีเรื่องอะไรมห้ข้าช่วยหรือไม่ ”

เฟยหลงที่เห็นว่ามีหญิงสาวที่ทำหน้าที่ต้อนรับคนหนึ่งเดินเข้ามาถามจึงกล่าวตอบกลับไปว่า

” โอ้…………….ข้าเเค่อยากรู้ว่ารถม้าของข้านั้นต้องจอดไว้ตรงไหนงั้นเหรอ ”

เมื่อหญิงสาวที่ทำหน้ทที่ต้อนรับได้ยินดังนั้นก็ได้ชะงักไปชั่วครู่ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า

” คุณชายท่านนี้คงจะมาถึงเมืองวารีหวนคืนเเห่งนี้ครั้งเเรกใช่หรือไม่ ”

เฟยหลงได้ตอบกลับไปตามความจริงด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

” ใช่ ”

เมื่อำด้ยินดังนั้นหญิงสาวที่ทำหน้าที่ต้อนรับคนนั้นได้มองไปที่รถม้าของเฟยหลงที่ดูดีมีความสวยงามพอควรจึงเริ่มคาดเดาว่าควรปฎิบัติ​อย่างไร

จนกระทั่งนางนั้นเหลือบไปเห็นสัตว์อสูรทั้งสองตัวในตอนเเรกนั้นนางนั้นไม่ได้เเปลกใจเพราะว่าคนที่ใช้สัตว์อสูรท่าทางเเข็งแกร่งมาลากรถม้าให้นั้นอย่างน้อยคงจะต้องมีภูมิหลังพอควร

เเม้ว่าตอนนี้พวกมันจะยืนอยู่อย่างเรียบเฉยเเต่ตอนที่หญิงสาวต้อนรับนางนั้นจ้องมองไปที่ดวงตาพวกมันกลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เพราะเเรงกดดันที่เเม้จะปกปิดไว้เเละความเย็นชาราวกับน้ำเเข็งในดวงตาของพวกมันนั้นมีมากมายยิ่งขนาดที่ทำให้เเขนขาของหญิงสาวที่ทำหน้าที่ต้อนรับนั้นอ่อนเเรง

เพราะนางทำงานที่นี้มานานพอสมควรเเละพอที่จะจดจำมันได้ว่าสัตว์อสูรสองตัวนั้น

” สัตว์อสูรขอบเขตหลอมรวมสองตัว “

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท