สิ่งที่เจ้าเมืองวารีหวนคืนนั้นกังวลใจที่สุดในอตนนี้เพราะว่ามันใกล้ถึงเวลาที่จะครบรอบสิบปีเเล้ว
ซึ่งทุกๆสิบปีนั้นเมืองวารีหวนคืนจะมีผู้คนจากหลากหลายสถานที่ได้มารวมตัวกันเพื่อหวังที่จะได้รับสมบัติที่ปรากฏตัวทุกสิบปี
เนื่องจากตอนนี้นั้นเหลือเวลาอีกเพียงเเค่หนึ่งสัปดาห์เป็นอย่างต่ำสมบัติชิ้นนั้นก็คงจะปรากฏออกมา
ซึ่งชื่อเมืองวารีหวนคืนนั้นไม่ได้มาจากสิ่งอื่นใดนอกจาสมบัติที่ปรากฏตัวทุกๆสิบปีนั้นที่มีชื่อว่า
” วารีหวนคืน ” คุณสมบัติของมันก็คือการชำระล้างพลังปราณให้มันบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
เเละยังเพิ่มโอกาศในการทะลวงขอบเขตขึ้นอย่างมากเเต่เเน่นอนว่ายิ่งขอบเขตสูงเพียงใดประสิทธิภาพนั้นล้วนลดลงอย่างน่าหวาดหวั่นทำให้คนที่มาเมืองวารีหวนคืน
ส่วนมากจะเป็นเพียงเเค่ผู้เยาว์ก็จริงเเต่บางส่วนนั้นมาจากขุมพลังที่ยิ่งใหญ่สามารถเทียบเท่าจักรวรรดิวารีโดยไม่น้อยหน้า
เจ้าเมืองที่มองดูเหล่าผู้คนที่ต่อเเถวยาวเหยียดตรงประตูทางเข้าเมิองก็ได้ถอนหายใจอย่างเศร้าหมอง
” ข้าหวังว่ามันจะไม่มีเรื่องร้ายเเรงใดๆเกิดขึ้นก็เพียงพอเเล้วละ ”
เเม้ตัวเขาที่มีสถานะเจ้าเมืองวารีกวนคืนเเต่ตัวเขานั้นไม่อยากที่จะเข้าไปพัวพันกับการเเย่งชิงของเหล่าอัจฉริยะของเเต่ละขุมพลัง
” ตอนนี้มีเเม้กระทั่งใช้สัตว์อสูรขอบเขตหลอมรวมสองตัวในการลากรถม้าเเล้วเเม้ว่าจะไม่มีตราสัญลักษณ์อะไรเลยเเต่ว่าเพียงเเค่สัตว์อสูรขอบเขตหลอมรวมสองตัวฐานัของคนที่นั่งอยู้ด้านในคงไม่ต่ำอย่างเเน่นอน ”
เพราะว่าสัตว์อสูรยิ่งอยู่ขอบเขตที่สูงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีสติปัญญาที่เพิ่มมากขึ้นเเละถ้าสามารถเปิดความทรงจำของบรรพชนของตนเองได้นั้น
ถูกจัดอยู่ในสัตว์อสูรที่มีระดับสูงส่งในหมู่สัตว์อสูรด้วยกัน
ทางด้านเฟยหลงนั้นที่เห็นเมืองวารีหวนคืนกำลังวุ่นวายอย่างมากก็รู้สึกเเปลกใจเเละครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่นักเดินทางชราคนนั้นได้เล่าให้ตัวเขาฟัง
เมื่อลองคิดทบทวนไปมาก็ได้เห็นโรงเตี๊ยมเเห่งหนึ่งที่ดูดีมีระดับพอสมควรเฟยหลงจึงคิดถึงที่พักขึ้นมาในทันทีเเล้วหยุดรถม้าที่ลากโดยสัตว์อสูรทั้งสองตัวลง
พร้อมกับกระโดดลงไปทางด้านที่หน้าโรงเตี๊ยมนั้นมีหญิงสาวที่มีความสวยงามหลายคนกำลังต้อนรับลูกค้าด้วยรอยยิ้ม
ซึ่งเมื่อหนึ่งในพวกนางสังเกตุเห็นเฟยหลงนั้นก็ได้ให้ความสนใจกับรูปร่างหน้าตาของเฟยหลงที่เรียกได้ว่าหล่อเหล่าจึงเดินเข้าไปถามว่า
” ไม่ทราบว่าคุณชายท่านนี้มีเรื่องอะไรมห้ข้าช่วยหรือไม่ ”
เฟยหลงที่เห็นว่ามีหญิงสาวที่ทำหน้าที่ต้อนรับคนหนึ่งเดินเข้ามาถามจึงกล่าวตอบกลับไปว่า
” โอ้…………….ข้าเเค่อยากรู้ว่ารถม้าของข้านั้นต้องจอดไว้ตรงไหนงั้นเหรอ ”
เมื่อหญิงสาวที่ทำหน้ทที่ต้อนรับได้ยินดังนั้นก็ได้ชะงักไปชั่วครู่ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า
” คุณชายท่านนี้คงจะมาถึงเมืองวารีหวนคืนเเห่งนี้ครั้งเเรกใช่หรือไม่ ”
เฟยหลงได้ตอบกลับไปตามความจริงด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
” ใช่ ”
เมื่อำด้ยินดังนั้นหญิงสาวที่ทำหน้าที่ต้อนรับคนนั้นได้มองไปที่รถม้าของเฟยหลงที่ดูดีมีความสวยงามพอควรจึงเริ่มคาดเดาว่าควรปฎิบัติอย่างไร
จนกระทั่งนางนั้นเหลือบไปเห็นสัตว์อสูรทั้งสองตัวในตอนเเรกนั้นนางนั้นไม่ได้เเปลกใจเพราะว่าคนที่ใช้สัตว์อสูรท่าทางเเข็งแกร่งมาลากรถม้าให้นั้นอย่างน้อยคงจะต้องมีภูมิหลังพอควร
เเม้ว่าตอนนี้พวกมันจะยืนอยู่อย่างเรียบเฉยเเต่ตอนที่หญิงสาวต้อนรับนางนั้นจ้องมองไปที่ดวงตาพวกมันกลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เพราะเเรงกดดันที่เเม้จะปกปิดไว้เเละความเย็นชาราวกับน้ำเเข็งในดวงตาของพวกมันนั้นมีมากมายยิ่งขนาดที่ทำให้เเขนขาของหญิงสาวที่ทำหน้าที่ต้อนรับนั้นอ่อนเเรง
เพราะนางทำงานที่นี้มานานพอสมควรเเละพอที่จะจดจำมันได้ว่าสัตว์อสูรสองตัวนั้น
” สัตว์อสูรขอบเขตหลอมรวมสองตัว “