พวกซูซ่านได้เดินเดินลงมาจากรถม้าเเละมาหยุดอยู่ข้างเฟยหลงซึ่งเฟยหลงที่เห็นดังนั้นก็ได้กล่าวกับพวกนางว่า
” เข้าไปด้านในกันเถอะ ”
พนักงานสาวที่ทำหน้าที่ต้อนรับเมื่อเห็นเฟยหลงเเละพวกซูศ่านไดเเดินเข้าไปด้านในเเล้วนั้นก็ได้กล่าวถามออกไปว่า
” คุณชายเเเล้วท่านจะให้ข้าทำยังไงกับรถละ ”
เฟยหลงไดเกล่าวตอบกลับไปโดยไม่ได้หันกลับมามองด้วยน้ำเสียงราบเรียบเเละเฉื่อยชา
” ฝากเจ้าหาที่จอดรถม้าให้ข้าด้วยละกัน…………….. ส่วนพวกข้าจะเข้าไปก่อนละ ”
พนักงานที่ได้ยินดังนั้นก็มองสัตว์อสูรขอบเขตหลอมรวมทั้งสองด้วยสายตาที่เเฝงไปด้วยความหวาดกลัว
” ละ-เเล้วข้าควรจะทำอย่างไรดีละ ”
เมื่อพนักงานสาวคนนั้นกล่าวถึงตรงนี้เฟยหลงที่เดินนำอยู่นั้นก็ได้ยินเข้าเเล้วกล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเชิงให้กำลังใจ
” โอ้………….. เจ้าไม่ต้องห่วงหรอกเจ้าสองตัวนั้นน่ารักเเละไม่กัดเจ้าเเน่นอน………. บางทีอาจจะน่ารักกว่าพวกหมาเเมวที่เจ้าเคยเห็นอีกอีก ”
พนักงานสาวที่ได้ยินคำตอบของเฟยหลงนั้นรู้สึกว่าตนอยากจะร้องไห้โดยทันทีเเล้วกล่าวตอบกลับไปด้วยย้ำเสียงตัดพ้อ
” คุณชายท่านคิดว่าสัตว์อสูรมันเหมือนหมาเเมวที่เห็นได้ทั่วไปได้ยังไง ”
ซึ่งเเน่นอนว่าเยหลงไม่ได้รับฟังสิ่งที้พนักงานสาวคนนั้นกล่าวอีกต่อไปเเล้วเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมเเห่งนั้นอย่างรวดเร็วพร้อมพวกซู่ซ่าน
เฟยหลงได้กล่าวถามพนักงานหญิงคนหนึ่งของโรงเตี๊ยมนั้นว่า
” พวกเจ้ามีห้องส่วนตัวหรือไม่ ”
พนักวานสาวคนนั้นได้กบ่าวตอบกลับไปด้วยน้ำที่สดใส
” คุณชายท่านนี้ข้าขอเรียนว่าท่านช่างโชคดีเสียเหลือเกินเพราะตอนนี้นั้นทางเรามีห้องส่วนตัวเหลือเพียงเเค่หนึ่งห้องพอดี ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าใตอบพนักงานสาวคนนั้นกลับไปว่า
” นำทางเลย ”
พนักงานสาวคนนั้นำได้นำทางเฟยหลงไปยังห้องส่วนตัวที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งห้องเท่านั้นโดยที่เมื่อเปิดประตูเจ้าไปก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนเเล้ว
พนักงานสาวคนนั้นที่เห็นฉากตรงหน้าก็ได้อึ้งไปชั่วครู่
” เอ่อ………….. ”
จนกระทั่งตอนนั้นเองที่มีพนันสาวคนั้นได้ฟื้นคืนสติกลับมาเเลว้วกลับไปเห็นพนักงานอีกคนที่กำลังยืนมองมาทางพวกนางเหมือนกัน
” พอดีว่าคุณหนูท่านนี้พึ่งจะจองไปก่อนหน้าท่านเพียงชั่วครู่ข้าก็เลยยังไม่ได้ไปเเจ้งให้ทราบ ”
พนักงานสาวที่นำเฟยหลงมายังห้องส่วนตัวเเห่งนี้ก็ได้เริ่มมีท่าทีอึดอัดใจก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า
” คุณชาย………. ข้าพาท่านไปหาห้องส่วนตัวใหม่ก็เเล้วกันเพราะว่าน่าจะมีคนที่ออกไปแล้ว ”
เเต่ตอนนั้นเองหญิงสาวที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะก็ได้กล่าวออกมาว่า
” คุณชายเฟยหลงนี้เอง………. ไม่ทราบว่าจำข้าได้หรือไม่ ”
เฟยหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้กล่าวตอบกลับไปด้วยท่าทางเฉื่อยชา
” ข้าก็นึกว่าใครที่เเท้ก็คุณหลานเฟินเองอย่างนั้นเหรอ ”
ใช่เเล้วตอนนี้นั้นได้มีหญิงสาวที่นั่งอยู่นั้นคือหลานเฟินที่เคยพบกับพวกเฟยหลงในโรงเตี๊ยมที่อยู่ในอาณาจักรสายลม
ซึ่งหลานเฟินได้ยินเรื่องราวทั้งหมดก็เลยเอ๋ยปากชวนเฟยหลงใด้มานั่งทานอาหารด้วยกัน
” คุณชายเฟยหลงถ้าท่านไม่รังเกียจก็เชิญมาร่วมโต๊ะกับข้าได้หรือไม่ ”
เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นก็ได้ส่ายหน้าออกมาก่อนที่จะกล่าวว่า
” ข้าจะไปรังเกียจอะไรท่านละ ”
พวกซูซ่านได้มองหน้ากันเเละนั่งลงข้างๆเฟยหลงหลานเฟินที่สังเกคุเห็นเสี่ยวไป๋ที่กำลังมองซ้ายมองขวาเพราะต้องการหาเรื่องน่าสนใจอยู่ก็ได้ยิ้มด้วยความดีใจ
” เสี่ยวไป๋เจ้าทำอะไรอยู่มาหาข้าสิ ”
เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าวออกมา
” มีเหตุผลอะไรทำไมข้าต้องทำตามที่ท่านกล่าวออกมาด้วยละ…………อีกอย่างข้าไม่ให้ท่านกอดตัวข้าเพราะข้าไม่ชอบท่าน ”
หลานเฟินที่ได้ยินเสี่ยวไป๋พูดออกมาก็ได้มีความประหลาดใจอย่างมาก
” ไม่คิดว่าหลังจากเจอเจ้าอีกครั้งเจ้าจะสามารถพูดได้เเล้ว ”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้หลานเฟินยังคงจ้องมองเสี่ยวไป๋ราวกับว่าเสี่ยวไป๋คือเพรชที่เปร่งประกายเเละสวยงามในสายตานาง