ชายหนุ่มชุดขาวคนนั้นก็ได้กล่าวออกมาด้วยท่าทางราบเรียบ
” พวกเจ้าหลีกหน่อย……… ข้าจะไปดูหน่อยว่ามันคือค่ายกลอะไร ”
เหล่าผู้บ่มเพาะที่ได้ยินล้วนเปิดทางมห้อย่างรวดเร็วเพราะตอนนี้ขายหนุ่มชุดขาวเป็นความหวังของพวกเขา
ที่สามารถทำลายค่ายกลหรืออย่างน้อยก็สามารถหยุดมันไว้ชั่วคราวให้พวกเขาสามารถเข้าไปข้างวิหารโบราณได้
” ข้าขอทราบชื่อของท่านได้หรือไม่ ”
ชายหนุ่มชุดขาวคนั้นก็ได้กล่าวตอบกลับไปอย่างสงบเเละราบเรียบ
” ชื่อของข้านั้นคือหลินหยาง ”
เหล่าผู้ข่มเพาะที่กำลังยืนอยู่รอบก็ได้ยินคำตอบของชายหนุ่มชุดขาวที่เเนะนำตัวว่าชื่อหลินหยางด้วยท่าทางครุ่นคิด
จนกระทั่งมีผู้บ่มเพาะคนหนึ่งได้ตะโกนออกมาด้วบความตกตะลึง
” หลินหยาง…….. หรือว่าจะเป็นหลินหยางเเห่งหอค่ายกล ”
เหล่าผู้คนบางคนนั้นๆอาจจะไม่ได้ยินขื่อจองหลินหยางเท่าไหร่เเต่ไม่มีใครไม่รู้จักหอค่ายกลอย่างเเน่นอน…………
ชายหนุ่มชุดขาวนั้นไม่ได้สนใจเสียงพูดคุยของผู้บ่มเพาะเหล่านี้มากนักเเล้วตอนนั้นเองที่ตัวหลินหยางได้หันกลับไปเห็นสัญลักษณ์บนรถม้า
ก็ได้ตะโกนถามออกไปด้วยน้ำเสียงสดใจร่าเริง
” หลีเหวินท่านก็มาอย่างนั้นเหรอ………… ทำไมไม่ออกมาทักทายสหายคนนี้ของเจ้าคนนี้หน่อยเหรอ ”
หลีเหวินที่ได้ยินเสียงตะโกนของหลินหยางก็ได้เเค่นเสียงหัวเราะอันเต็มไปด้วยความไม่พอใจออกมาเเล้วกบ่าวว่า
” ฮึ……………. ข้าต้องไปทักทายเจ้าทำไมงั้นเหรอ ”
” ถ้าเจ้าอยากให้ข้าออกไปทักทายละก็เจ้าก็ไปเปิดค่ายกลนั้นก่อนค่อยว่ากัน ”
หลินหยางที่ได้ยินเช่นั้นก็ได้ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับกล่าวด้วยเสียงราบเรียบ
” เจ้ายังเหมือนเดิมเลยนะ………….. เพราะเป็นเเบบนี้ไงถึงไม่ค่อยมีสหายเท่าไหร่ ”
หลีเหวินที่อยู่ภายในรถม้าได้เงียบไปเเล้วไม่ได้กล่าวตอบหลินหลยางอรกต่อไปทำให้หลินหยางก็ได้หักกลับไปสนใจค่ายกลต่อ
” ไหนดูหน่อยมันคือค่ายกลอะไร ”
เวลาผ่านไปชั่วครู่หลินหยางที่กำลังจดจ่ออยู่กับค่ายกลตรงหน้าที่ของพวกเขาเข้าไปด้านในวิหารโบราณก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า
” ถ้าข้าจำไม่ผิเมันมีค่ายกลสองอันซ้อนกันอันหนึ่งเป็นค่ายกลสังหารอันหนึ่งเป็นค่ายกลมายา”
” ถ้าจะทำลายละก็มันต้องเสียทรัพยากรบางอย่างที่ตอนนี้ข้าไม่มีอยู่ที่ตัวเลยเเม้เเต่น้อย ”
เหล่าผู้บ่มเพาะที่ได้ยินเช่นั้นก็ได้กล่าวถามออกมา
” เเล้วทรัพยากรที่่ว่านั้นคืออะไรอย่างงั้นเหรอ ”
หลินหยางที่ได้ยินคำถามก็ได้กล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
” ก็เเค่เลือดสัตว์อสูรขอบเขตหลอมรวมที่มีพลังของธาตุไม้เเฝงอยู่เพราะว่าค่ายกลนี้สร้างมาโดยอาศัยพลังธาตุน้ำเป็นหลัก ”
รอบข้างล้วนเเต่เงียบสนิทหลินหยางที่เห็นดังนั้นก็ได้กล่าวต่อไปอีกว่า
” เเต่ถ้าเป็นการทำให่มันหยุดการำทวานชั่วคราวละก็ข้าสามารถทำได้ส่วนเวลานั้นคือครึ่งชั่วยามเท่านั้นส่วนตอนกลับออกมาข้าก็ต้องมาทำเเบบเดิมซ้ำ ”
เหล่าผู้บ่มเพาะที่ตอนเเรกเริ่มหมดหวังเเล้วในดวงตาตอนนี้นก็ได้มีประกายเเห่งความหวังที่ถูกจุดขึ้นอีกครั้งทำให้พวกเขารีบกล่าวออกมา
” นายน้อยหลินหยางท่านรีบทำเถอะ ”
” พวกเราจะตอบเเทนท่านอย่างเเน่นอน ”
หลินหยางที่ได้ยินดังนั้นก็โบกมือเเล้วกล่าวออกมา
” เอาละพวกเจ้าก็ไม่ต้องตอบเเทนอะไรหรอกเพียงเเค่พวกเจ้าเเวะมาซื้อของต่างๆในหอค่ายกลก็พอเเล้ว”
เหล่าผู้บ่มเพาะที่ได้ยินอย่างนั้นก็ได้กล่าวตอบตกลงอย่างรวดเร็ว
” เเน่นอนพวกข้าจะไป ”
” ข้าต้องให้ได้ ”
หลินหยางที่ได้ยินดังนั้นก็เริ่มลงมือจัดเตรียมสิ่งของต่างๆที่ต้องใช้ในการหยุดการทำงานของค่ายกลเเล้วเวลาได้ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม
หลินหยาวที่กำลังหลับตาควบคุมค่ายกลที่สร้างด้วยเเกนค่ายกลที่ตัวเขามีได้ตะโกนออกมา
” เปิดออกมาซะ “