เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 298 บัลลังก์​สีทองหม่น

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

ทางด้านเฟยหลงตอนนี้นั้นกำลังเดินอยู่ภายในตัววิหารโบราณนาดใหญ่ซึ่งเป็นวิหารที่เห็นได้เด่นชัดที่สุดเพราะกลิ่นอายที่เเผ่ออกมานั้นมีความเก่าเเก่โบราณเเละความยิ่งใหญ่ที่หนักเเน่นราวขุนเขา

เฟยหลงที่เห็นดังนั้นจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

” ดูเหมือนว่าที่ด้านนอกเห็นเพียงเเค่วิหารโบราณเเห่งนี้เท่านั้นคงเป็นเพราะค่ายกลลวงตาที่สร้างขึ้นให้ไม่เห็นสิ่งก่อสร้างอื่นจริงๆด้วย”

” เมืองเหล่านั้นที่เข้ามาก็เป็นอาจจะเป็นเมืองที่ใข้อยู่อาศัยในอดีตเเต่ตอนนี้มีเเต่ค่ายกลลวงตาขนาดใหญ่เปิดใช้งานอยู่ราวกับ……….. เป็นเขาวงกตเพื่อล่อลวงอะไรบางอย่างให้ติดอยู่ในที่เเห่งนั้นเเม้อนุภาพของมันในตอนี้จะลดน้อยลงตามกาลเวลา ”

เมื่อเฟยหลงกำลังจะก้าวเดินไปก็หยุด

” ระดับคนที่สร้างค่ายกลก็ไม่ได้เเย่เลยเเม้เเต่น้อยเเต่ก็หยุดคนอย่างข้าข้าไม่ได้ ”

เฟยหลงที่เห็นด้านหน้านั้นเป็นอาคารหลังหนึ่งที่สูงใหญ่ราวกับเป็นเสาหลักหรือเป็นจุดศูนย์กลาง​ของเมืองเเห่งนี้เมื่อเข้าไปด้านในเฟยหลงก็ได้เห็นว่ามีห้องโถงขนาดใหญ่ด้านในนั้นมีบัลลังก์​สีทองหม่นเก่าเเก่เเต่เเผ่เเรงกดดันบางอย่างออกมา

เฟยหลงที่เห็นดังนั้นจึงหรี่ตาลงด้วยความสงสัยเเล้วลองปล่อยการโจมตีใส่บัลลังก์​นั้นซึ่งตอนเเรกนั้นเฟยหลงสำรวจดูอย่างถี่ถ้วนเเล้วว่ามันไม่มีค่ายกลโจมตีอยู่เลย

” ตู้มมมมมมมมมมมมม ”

เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังขึ้นอย่างรุนเเรงพร้อมกับปรากฏ​บัลลังก์​สีทองหม่นยังคงไม่มีร่องรอยการถูกทำลายเเม้เเต่น้อย

” ใช่จริงๆด้วยวัสดุในการสร้างบัลลังก์​นี้สามารถนำไปสร้างอาวุธหรือเกราะขอบเขตปฐพี​ได้เลย ”

เมื่อเจียงหงเเละซูศ่านที่เดืนตามมาตลอดเเละเห็นเฟตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นจึงมองเฟยหลงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตกใจอย่างมากเมื่อเฟยหลงกล่าวประโยคท่อนสุดท้ายออกมานั้น

ในความคิดของพวกนางทั้งสองนั้นล้วนได้รับความรู้ของเฟยหลงที่เจ้าตัวเป็นคนอธิบายมาบางส่วนเเต่ขอบเขตที่เฟยหลงบอกนั้นในตอนนี้เป็นเพียงเเค่ขอบเขตปฐพี​เท่านั้น

เฟยหลงไม่ได้กล่าวว่ามีขอบเขตต่อไปให้พวกนางฟังเพราะเฟยหลงได้บอกกับทั้งสองว่า

” บางครั้งการที่รู่เรื่องอะไรมากมายจนเกินไปมันอาจจะส่งผลร้ายมากกว่าส่งผลดีก็ได้…………. บางอย่างข้าเล่าออกมาตอนนี้ไม่ได้เเต่ในอนาตคนั้นข้าจะบอกอย่างเเน่นอน ”

ซูซ่านเเละเจียหงที่เห็นว่าเฟยหลงได้โจมตีใส่บัลลังก์​สีทองหม่นเเล้วก็หยุดนิ่งไปทั้งสองคนที่เห็นดังนั้นจึงกล่าวถามขึ้นมาว่า

” ท่านพี่เฟยหลงท่านเป็นอะไรไปหรือ ”

” ท่านอาจารย์​ท่านคิดอะไรอยู่กัน ”

เฟยหลงที่ได้ยินเสียงของพวกนางจึงหลุดออกมาจากโลเเห่งความคิดของตนเองเเล้วกล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เเฝงไปด้วยความแปลกใจ

” บัลลังก์​เเห่งนี้ที่เเท้เเล้วนั้นเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่มีพลังเท่ากับอาวุธขอบเขตปฐพี​ ”

เจียงหงเเละซูซ่านที่ได้ยินเข่นนั้นจึงกล่าวออกมาด้วยความเเปลกใจอย่างยิ่ง

” มีพลังเท่ากับอาวุธขอบเขตปฐพี……… ตอนเเรกข้าคิดว่าเพียงเเค่บัลลังก์​ธรรมดาที่ถูกสร้างขึ้นมาจากวัสดุระดับสูงที่ใช้สร้างอาวุธขอบเขตปฐพี​ ”

” ใช่เเล้วตอนเเรกข้าก็คิดเหมือน้องสาวซูเลยท่านอาจารย์​”

เฟยหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็กำลังจะกล่าวตอบเเต่กลับหันหน้ากับไปมองทางหนึ่งเเล้วกล่าว

” มีอะไรบางอย่างกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ”

เจียงหงเเละซูซ่านที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้หันกลับไปพร้อมกับเเสดงท่าทางที่พร้อมรับการโจมตีที่ไม่คาดฝันอย่างรวดเร็ว

เสียงเหมือนของเเข็งกระทบกันได้ดังขึ้นมาเเละเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

” กึก กึก กึก”

เเล้วตอนนั้นเองที่มีโครงกระดูกกำลังยืนอยู่หน้าประตูห้องโถงโดยมีร่างเงาสองร่างเดินตามหลังมาข้างโครงกระดูกนั้นเป็นสัตว์อสูรที่พวกเฟยหลงรู้จักมันอย่างดี

เจียงหงเเละซูซ่านที่เห็นดังนั้นก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจ

” เสี่ยวไป๋ “

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท