เทพจักรพรรดิ​สงคราม – ตอนที่ 299 สิ่งที่ปิดบังเอาไว้

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เฟยหลงที่เห็นเสี่ยวไป๋ก็ได้กล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เเสดงความเเปลกใจ

” ไม่คิดเลยว่าจะกลับมาเร็วขนาดนี้………. เเล้วเป็นไงบ้างทางเข้าอีกทางที่ข้าบอกเจ้าไปสะดวกดีใช่ไหมไม่ต้องวิ่งฝ่าค่ายกลลวงตาเลยเเม้เเต่น้อย”

เมื่อเสี่ยวไป๋ที่ได้ยินเฟยหลงกล่าวออกมาเเบบนั้นจึงเเสดงท่าทางขมขื่น​เเล้วกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันเเผ่วเบา

” ข้าเจอทางเข้าก็จริงพี่ใหญ่เเต่………. ก่อนโยนข้าลงทะเลสาบท่านควรถามขเาก่อนว่าข้า…………. ”

เเต่ก่อนที่เสี่ยวไป๋จะกล่าวจบก็ได้ยินเสียงเฟยหลงกล่าวขัดขึ้นมาก่อน

” ช่างเรื่องนั้นก่อน……… ตอนนี้เจ้าช่วยเเนะนำสหายด้านข้างทั้งสามที่ตามเจ้ามาหน่อย ”

เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินดังนั้นจึงต้องยอมหยุดกล่าวถามเกี่ยวกัยเรื่องก่อนหน้านี้เเล้วกล่าวเเนะนำตั้งวามพี่น้องเหล่านั้นที่หนึ่งคนเป็นโครงกระดูกเเละอีกสองคนเป็นร่างเงา

” ข้าขอเเนะนำหน่อยโครงกระดูกที่ยืนอยู่หน้าท่านั้นคือพี่ใหญ่ของร่างเงาทั้งสองส่วนชื่อพวกเขานั้น……….. ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่เคยบอกข้า ”

โครงกระดูกที่ได้ยินเสั่ยวไป๋กล่าวออกมาเเบบนั้นจึงกล่าวบอกเหตุผลที่พวกเขานั้นไม่ได้กล่าวถึงชื่อของตนเอง

” ชื่อของพวกเรานั้นไม่ต้องไปสนใจก็ได้พวกข้าเเค่ผู้บ่มเพาะที่ตายไปเเล้วอีกอย่างชื่อของพวกเรานั้นถึงกล่าวออกไปก็ไม่มีใครจดจำได้อีกเเล้วละ ”

” ส่วนจะเรียกพวกเราอย่างไรนั้นตามที่พวกเจ้าคิดเลยเพราะเวลาของพวกเราเหลืออยู่อีกไม่มากเเล้ว………… เเล้วเมื่อทำภารกิจ​สุดท้ายเสร็จวกเราก็อาจจะหมดห่วงเเล้วไปยังวัฏสังสารเพื่อ​เกิดใหม่ก็เป็นได้ ”

เฟยหลงที่ฟังไปฟังมาก็ได้กล่าวกับเสี่ยวไป๋ด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า

” เสี่ยวไป๋ไหนเจ้าสรุปเรื่องราวที่เจ้าไปเจอมาให้ข้าเเบบสั้นๆหน่อย ”

เสี่ยวไป๋ที่ได้ยินดังนั้นจึงสรุปเรื่องราวที่ตนไปเจอตั้งเเต่เเยกกับเฟยหลงตรงเเม่น้ำเเห่งสมบัติโบราณ

เฟยหลงที่ยืนฟังอย่างสงบเงียบจนเสี่ยวไป๋เล่าจบก็ได้กล่าวถามออกมาว่า

” งั้นเเล้วไอค่ายกลที่เจ้าว่ามันอยู่ไหนละ……… หรือว่าจะหมายถึงบัลลังก์​สีทองหม่นนั้น ”

โครกงระดูกที่ยืนอยู่ข้างเสี่ยวไป๋ที่ได้ยินเช่นนั้นจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

” ใช่เเล้วสิ่งที่ข้าต้องการให้พวกเจ้าช่วยก็คือร่วมมือกันทำลายค่ายกลที่ผนึกบัลลังก์​สีทองหม่นนั้น ”

เฟยหลงที่ได้ยินดังนั้นจึงไม่รู้สึกเเปลกมจมากเพราะในที่เเห่งนี้นั้นนอกจากสิ่งของอื่นที่ไม่ได้เตะตามากนั้นบัลลังก์​สีทองหม่นเเม้จะมีอำนาจเทียบเท่ากับอาวุธขอบเขตปฐพี​

เเต่ด้วยกาลเวลานั้นอาจจะกัดกร่อนมันไปเฟยหลงจึงคาดว่าอาจจะโดนผนึกไว้เพราะเหตุผลบางอย่างส่วนจะเป็นอะไรนั้นดูเหมือนว่าคำตอบอยู่อีกไม่ไกลเเล้ว

” ค่ายกลที่ผนึกบัลลังก์​สีทองหม่นนั้นไว้เป็นค่ายกลสีเสีเขียวขั้นสูง…….. เเม้ว่ากาลเวลาจะทำลายค่ายกลนี้จนเหลือเพียงระดับสีเขียวขั้นต้นเเต่ตอนนี้นั้นสำหรับข้าเเล้วมันก็ยังคงต้องบากลำบากไม่ใช่น้อย ”

” เเม้สภาพของมันจะชำรุดทรุดโทรมเต็มทีก็เถอะ………….. ถ้าลองทุ่มสุดตัวหน่อยเเล้วมีโอกาศสำเร็จไม่ใช่น้อยคงประมาณสี่ในสิบส่วนเห็นจะได้ ”

สามพี่นเองตัวประหลาดก็ได้เเต่มองหน้ากันด้วยท่าทางลังเลใจก่อนที่สองร่างเงาจะกล่าวออกมาว่า

” พวกเราเอาอย่างไรดีละโอกาศเพียงเเค่สี่ในสิบส่วนเท่านั้น ”

” ถ้าพวกเราไม่ลงมือเเล้วคาดว่าสิ่งนั้นจะถูกปลดปล่อยออกมา ”

เฟยหลวที่ได้ยินสองร่างเงาพูดคุยปรึกษา​หารือกันไปมาเเล้วก็ได้เอะใจตรงคำว่า ‘ สิ่งนั้น ‘​ จึงกล่าวถามออกไปว่า

” สิ่งนั้นที่พวกท่านกล่าวถึงมันคืออะไรกันเเน่…… ถ้าพวกท่านบอกข้ามาอย่างน้อยข้าก็พอที่จะหาทางออกได้บ้าง ”

ร่างเงาทั้งสองนั้นได้มองหน้ากันก่อนที่จะมองไปทางโครงกระดูกที่ยืนอยู่ด้านหน้าเพื่อเป็นการขอความคิดเห็น

โครงกระดูกที่เห็นดังนั้นจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหดหู่เล็กน้อย

” ก็ได้ข้าเป็นคนบอกเอง

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

เทพจักรพรรดิ​สงคราม

Status: Ongoing
ที่ตรอกแห่งหนึ่งได้มีร่างของเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเเค่ร่างไร้วิญญาณแต่โชคชะตาก็ได้นำพาวิญญาณดวงหนึ่งมาสิงร่างของเด็กหนุ่มคนนี้แล้วทำให้ชะตากรรมของร่างกายนี้เปลี่ยนแปลงไป

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท