เฟยหลงเเละพวกที่อยู่ข้างในนั้นได้ยินเสียงตะโกนของเสี่ยวไป๋ร่างเงาถือกระบี่ได้เริ่มกระตุ้นค่ายกล
โซ่สีทองได้ออกมทจากสีทองโซ่เหล่านั้นมีทั้งหมดห้าเส้นบรรดาโซ่เเต่ละเส้นล้วนเปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณมหาศาลได้พุ่งเข้ารัดขาทั้งสี่ข้างของกิเลนเเละเส้นสุดท้ายได้พุ่งไปที่ส่วนหัว
” แกร็ก แกร็ก แกร็ก ”
เสียงโซ่กำลังรัดพันตัวของจิตวิญญาณเปลวเพลิงรูปแบบกิเลนที่ตอนนี้กำลังพยามดิ้นรนเพื่อหาทางหลุดพ้นจากพันธนาการนี้
” โฮกกกกกกกกกกกกกก ”
เสียงคำรามนี้นั้นได้เต็มไปด้วยความโกรธอีกฝั่งหนึ่งที่เหล่าผู้บ่มเพาะนั้นได้เห็นจิตวิญญาณเปลวเพลิงก็ได้ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
” นั้นมันสัตว์อสูรอย่างนั้นเหรอ ”
” เดี๋ยวก่อน………….. รูปร่างมันเหมือนกิเลนเลยไม่ใช่เหรอข้าเคยเห็นในตำราที่บันทึกเรื่องราวของสายพันธุ์สัตว์อสูร ”
” เเต่รูปร่างมันเเปลกว่าไหมเหมือนกับว่ามันถูกสร้างมาจากเปลวเพลิง ”
โซ่สีทองเเม้จะสามารถจับกุมตัวของจิตวิญญาณเปลวเพลิงได้นั้นเเต่สุดท้ายเเล้วไม่สามารถสะกดข่มมันได้อย่างสมบูรณ์จนโซ่สีทองค่อยเเตกออก
ทางด้านร่างเงาถือง้าวที่เห็นดังนั้นจึงเริ่มที่จะเคลื่อนไหวเเล้วไปปรากฏตัวอยู่ข้างจิตวิญญาณเปลวเพลิงร่างเงาที่ถือง้าวได้หันกลับมากล่าวกับโครงกระดูกเเละร่างเงาถือกระบี่
” พี่ใหญ่น้องเล็กดูเหมือนว่าข้าต้องขอตัวลาเเล้วละ ”
เมื่อกล่าวจบร่างเงาถือง้าวได้รวบรวมพลังวิญญาณเเละหยิบยืมพลังของปฐพีรอบด้านง้าวที่ตัวร่างเงานี้ถือได้เปร่งประกาย
ทางด้านร่างเงาถือกระบี่ที่ได้เห็นดังนั้นจึงกำลังจะเอ่ยปากกล่าวอะไรบางอย่างเเต่ท้ายที่สุดเเล้วนั้นก็เลือกที่จะปิดปากเเล้วเงียบไป
ทางด้านโครงกระดูกนั้นเเม้ว่าจะยืนนิ่งเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเเต่มือของเขาที่กำลังกำดาบนั้นสั่นอยู่เล็กน้อยถ้าสังเกตุดูดีๆ
ร่างเงาถือง้าวได้เริ่มรวบรวมพลังทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเขามีไม่ว่าจะพลังวิญญาณที่เหลืออยู่พลังของปฐพีล้วนเเล้วเเต่ตัวเขาเป็นจุศูนย์กลางกลางท่ามกลางพายุพลังนั้น
ตัวเขาได้มองร่างเงาถือกระบี่เเละโครงกระดูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะร่างเงาของจะหลอมรวมเข้ากับง้าวเล่มนั้น
” นี่คืการโจมตีที่เหลืออยู่ทั้งหใดของข้าเเม้จะไม่เท่ากับตอนที่ข้ามีชีวิตอยู่เเต่อย่างน้อยมันก็…….. สามารจัดการงานนี้ได้เเน่นอน ”
พร้อมกับง้าวได้ที่ได้ฟาดลงมาใส่ตัวจิวิญญาณเปลวเพลิงอย่างรุนเเรงพลังทำบายมันนั้นทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทาง
” ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมม ”
เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังพร้อมกับหมอกควันที่กระจายเต็มไปหมดราวกับโดนพายุทะเลทรายกลืนกินลงไป
จิตวิญญาณเปลวเพลิงนั้นได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีนี้ทำให้เเรงต่อต้านได้ลดลงอย่างมากโซ่สีทองเส้นใหม่ได้เเพร่กระจายเเล้วผนึกตัวมันก่อนที่จะลากตัวจิตวิญญาณเปลวเพลิงตัวนั้นลงไปในพื้นดิน
ร่างเงากระบี่ที่เห็นดังนั้นจึงถอนหายใจออกมาก่อนที่จะเห็นง้าวเล่มหนึ่งตกอยู่บนพื้นเเต่ตัวง้าวกลับเต็มไปด้วยรอยเเตกร้าวเเละมันได้หักลงเป็นสองส่วนอีกด้วย
ราางเงากระบี่ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
” ลาก่อนพี่รอง ”
เเละทางจุดหมายของโซ่สีทองนั้นคือใต้ดินที่ๆมีอาวุธมากมายเต็มไปหมดกำลังถูกปักลงบนพื้นซึ่งพวกมันนั้นสูญเสียอำนาจดังเดิมไปหมดเเล้วกลายเป็นเพียงเศษเหล็กเท่านั้น
เมื่อจิตวิญญาณเปลวเพลิงเห็นว่าตนเองถูกนำมาทิ้งไว้ในสถานที่เเผ่งนี้จึงเริ่มอาละวาดไปทั่วเพื่อหาทางออกไปเเล้วตอนนั้นเองที่มางร่างเงาถือกระบี่ได้กล่าวกับโครงกระดูกว่า
” พี่ใหญ่ข้าขอตัวตามพี่รองไปก่อนท่านนะ ”
ราวกับว่าร่างเงาสีดำที่ถือกระบี่นั้นกำลังยิ้มให้โครงกระดูกก่อนที่จะพุ่งลงไปใต้พื้นดินเเล้วไปโผล่ตรงด้านที่จิตวิญญาณเปลวเพลิงกำลังอาละวาดอยู่ก่อนที่จะ
เริ่มผสานมือสร้างอักษรโบราณกำลังลอยออกมาจากตัวเขาเเล้วเริ่มกลายเป็นวงกลมสีเหลืองครึ่งวงกลมได้ครอบลงไปยังตัวจิตวิญญาณเปลวเพลิงเเละสถานที่เเห่งนี้ทั้งหมด
ยิ่งสร้างอักษรโบราณนั้นมากเท่าไหร่ร่างเงาก็เริ่มเลือนลางลงกเเล้วร่างเงาถือกระบี่ก็ได้กล่าวออกมาว่า
” พวกเจ้าอย่าคิดว่าจะสามารถหนีไปจากที่เเห่งนี้ได้ในเมื่อข้าใช้ทุกสิ่งทุกอย่างลงไปเเล้วผสานเข้ากับค่ายกลโบราณที่ข้าเจอ ”
เเล้วถ้าขุดดูใต้ดินนั้นก็ยังมีวงกลมอีกครั้งหนึ่งปิดกันทางออกอยู่เช่นกันเมื่อรวมเเล้วนั้นก็กลายเป็นลูกบอลสีเหลืองเมื่อร่างเงาถือกระบี่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้กล่าวอะไรบางอย่างก่อนที่จะหายไป
” ที่เหลือฝากท่านด้วยละพี่ใหญ่ “